วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นักวิเคราะห์ฟันธงยุบสภาปีนี้

นักวิเคราะห์ฟันธง “ยุบสภา” ในปี 56 ชี้รัฐบาลเหลือทางเลือกไม่มาก “บล.เมย์แบงก์ฯ” คาดสหรัฐฯ ยังไม่เลิก “คิวอี” ในปีนี้ เพราะเป็นช่วงของการเปลี่ยนผู้ว่าฯ “เฟด” แนะจับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดช่องนายกฯ ยุบสภาได้ “บล.เคเคเทรด” ประเมิน 312 “ส.ส.-ส.ว.” จ่อถูกเพิกถอน กดดันรัฐทำงานลำบากขึ้น พร้อมประเมิน นายกฯ ต้องตัดสินใจภายในปี 56 โดยที่ให้น้ำหนักไปที่การยุบสภาฯ มากกว่าลาออก เนื่องจากเป็นทางเลือกที่พรรครัฐบาลมีความเสี่ยงน้อยที่สุด นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินผลกระทบภายนอกประเทศ โดยมองว่าปัจจัยการปรับลดมาตรการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) ของสหรัฐฯ ยังไม่น่าเกิดขึ้นภายในปีนี้ เพราะจะเป็นช่วงของการเปลี่ยนผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยังคงถูกแรงกดดันความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายค้านได้ยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว แต่ก็ต้องรอดูว่าจะมีการบรรจุเป็นวาระการประชุมสภาฯ เมื่อใด หากยังไม่บรรจุจะเป็นการส่งสัญญาณอย่างไรหรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรียังประกาศยุบสภาได้ นอกจากนี้ ยังต้องรอดูการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในวันที่ 24 พ.ย.นี้ด้วย เพราะคาดว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น ขณะที่ฝ่ายหนุนรัฐบาลแม้จะยุติดการชุมนุมไปแล้ว แต่ก็สามารถระดมคนเพื่อชุมนุมได้ทันทีหากแกนนำเรียกชุมนุม ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด จำกัด มองว่า ตราบใดก็ตามที่ดัชนีฯ ยังคงไม่สามารถกลับมาปิดเหนือ 1,430 จุดได้ ก็มีโอกาสพักตัวลงในระยะสั้นอีกครั้ง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 ประเด็นดังกล่าว แม้ว่าจะไม่เป็นเหตุให้ 6 พรรคร่วมรัฐบาลถูกยุบ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่ 312 ส.ส. และ ส.ว. จะถูกยื่นถอดถอน ทำให้แรงกดดันต่อรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากความยุ่งยากในการบริหารบ้านเมือง และกิจกรรมในสภาฯ ทั้งนี้ ประเมินว่าจะส่งผลให้นายกรัฐมนตรี อาจต้องตัดสินใจทางการเมืองภายในสิ้นปี 2556 โดยที่ให้น้ำหนักไปที่การยุบสภามากกว่าลาออก เนื่องจากเป็นทางเลือกที่พรรครัฐบาลมีความเสี่ยงน้อยที่สุด โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น