วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กองทุนวายุภักษ์ยันไม่ได้ทุบหุ้น

กองทุนวายุภักษ์ยันไม่ได้ทุบหุ้น โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 

กองทุนวายุภักษ์ยันไม่ได้เป็นต้นเหตุกดหุ้นร่วง ขณะที่เตรียมความพร้อมเรื่องสดไว้เรียบร้อยแล้วรอแค่ผู้ถือหุ้นหน่วยมาไถ่ถอนเมื่อกองทุนครบ 

ข้อมูลจาก บทวิเคราะห์ของ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่าจากข้อมูลเมื่อ สิ้นปี 55 พบว่าหุ้นที่กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ถืออยู่มาก และคาดว่าจะต้องขายออกมาในตลาดก่อนกองทุนครบอายุในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ได้แก่หุ้นบริษัทปตท(PTT) หุ้นแบงก์ไทยพาณิชย์(SCC) หุ้นแบงก์กรุงไทย และหุ้นการบินไทย(THAI) รองลงมาเป็นหุ้นเอสโซ่ (ประเทศไทย)(ESSO),หุ้นปูนซีเมนต์นครหลวง(SCCC),หุ้นปูนซิเมนต์ไทย(SCC) และหุ้นแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รวมทั้งยังมีหุ้นอื่นๆอีก

 รายงานระบุว่า ราคาหุ้นที่กองทุนวายุภักษ์ถืออยู่มาก และจะต้องขายออกมาเพื่อคืนเงินผู้ถือหน่วยลงทุน มีโอกาสสูงที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาก่อนที่กองทุนวายุภักษ์จะปิดกองทุน แต่คาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันในระยะสั้นเท่านั้น แหล่งข่าวผู้เกี่ยวข้องกับกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวกับรอยเตอร์ ว่า การปรับตัวลงของราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัทในช่วงนี้ ไม่ได้เป็นผลจากการขายหุ้น เพื่อเตรียมจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทั่วไปของกองทุนวายุภักษ์ เนื่องจาก กองทุนฯได้เตรียมสภาพคล่องไว้ล่วงหน้าแล้ว มูลค่ารวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่องในสัปดาห์(18-22 พ.ย.นี้) 

ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ มียอดขายสุทธิในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ราว 4.7 พันล้านบาท "กองทุนได้เตรียมทุกอย่างแล้ว การที่ดัชนีหุ้นปรับลดลงแรงในช่วงนี้ คงไม่ใช่เพราะกองทุนขายหุ้น ซึ่งผู้บริหารกองทุนรู้เม็ดเงินค่อนข้างแน่นอนอยู่แล้ว และจะคืนให้เฉพาะในส่วนของผู้ลงทุนทั่วไป แล้วหุ้นหลักๆ ก็ไม่ได้ออกไปไหน" แหล่งข่าวกล่าว แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า แรงขายหุ้นขนาดใหญ่บางตัวในช่วงนี้ อาจเป็นผลจากการขายหุ้น โดยกองทุนวายุภักษ์ เพื่อเตรียมนำเงินไปจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน อนึ่ง กองทุนวายุภักษ์ มีผู้ลงทุนทั่วไป หรือผู้ลงทุนประเภท ก. ถือหน่วยลงทุนอยู่ 7 พันล้านหน่วย จากทั้งหมด 1 หมื่นล้านหน่วย ขณะที่อีก 3 พัน ล้านหน่วย ถือโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ลงทุนประเภท ข. ขณะที่กองทุนวายุภักษ์ตามรูปแบบเดิม จะครบอายุในวันที่ 30 พ.ย.56

 แต่ได้มีการขอมติผู้ถือหน่วย เปลี่ยนรูปแบบกองทุนเป็นกองทุนเปิด ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.56 เป็นต้นไป หลังจากครบอายุกองทุนรูปแบบเดิมในวันที่ 30 พ.ย.นี้ บลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอฟซี ในฐานะผู้จัดการกองทุน จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจาก ผู้ลงทุนทั่วไปทั้งหมด และจะจ่ายคืนเงินลงทุนให้นักลงทุนส่วนนี้ ในวันที่ 9 ธ.ค.56 ซึ่งถ้าคิดจากมูลค่าหน่วยลงทุนในปัจจุบัน มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท

 ส่วนผู้ลงทุนประเภท ข. หรือ กระทรวงการคลัง ในเบื้องต้นจะถือหน่วยลงทุน ภายใต้รูปแบบกองทุนเปิดต่อไปก่อน จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ พบว่า มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของ VAYU1 เมื่อวันที่ 20 พ.ย.56 อยู่ที่ 11.0845 บาท ซึ่งหากนำไปคำนวณ กับจำนวนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนทั่วไป จะมีมูลค่าราว 7.76 หมื่นล้านบาท

 ขณะที่ข้อมูลในเว็บไซต์ของ บลจ.กรุงไทย ระบุว่า มูลค่าเงินลงทุนใน ตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ของกองทุนวายุภักษ์ ในส่วนที่บลจ. กรุงไทย บริหารอยู่ สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.56 มีมูลค่ารวม 3.82 หมื่นล้านบาท ส่วน MFC ระบุในเว็บไซต์ว่า มูลค่าเงินลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ของกองทุนวายุภักษ์ 

ในส่วนที่ MFC บริหารอยู่ สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.56 มีมูลค่ารวม 4.05 หมื่นล้านบาท เมื่อนำเงินลงทุนในส่วนดังกล่าวที่บริหารอยู่โดยทั้ง 2 บลจ.มารวมกัน จะมีมูลค่ารวม 7.87 หมื่นล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับมูลค่าเงินลงทุนของผู้ลงทุนทั่วไปของกองทุนวายุภักษ์ Tags : กองทุนวายุภักษ์ • ทุบหุ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น