วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เจ้ามือตัวจริง

บทความ " เจ้ามือตัวจริง " โดย ประภาคาร ภราดรภิบาล ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ให้กับทางตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุนได้รับทราบ ซึ่งการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนนั้นจะมีการประกาศเป็นประจำทุกๆ ไตรมาส หรือทุกๆ 3 เดือน ช่วงเวลาที่มีการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนนั้น ถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะได้ประเมินความสามารถของบริษัทที่ตนเองเข้าไปร่วมลงทุนเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท รวมทั้งเป็นโอกาสในการติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทอื่นๆ ที่นักลงทุนสนใจจะเข้าไปลงทุน ว่าบริษัทสามารถทำผลงานได้ดีมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน เซียนหุ้นระดับโลกอย่าง ปีเตอร์ ลินซ์ แนะนำให้นักลงทุนหมั่นติดตามการดำเนินงานของบริษัทอยู่เสมอ เขาเปรียบเปรยไว้ว่า “ถ้าคุณเป็นเจ้าของอาคารให้เช่า คุณคงไม่ละเลยที่จะคอยตรวจเช็คอยู่เสมอว่าอาคารของคุณยังอยู่ในสภาพดีและไม่ชำรุดทรุดโทรม เช่นเดียวกัน เมื่อคุณเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท คุณก็ควรต้องให้ความสนใจและติดตามพัฒนาการใหม่ๆ ของบริษัทอยู่เสมอ” น่าเสียดายที่นักลงทุนบางส่วนไม่ค่อยสนใจติดตามการดำเนินงานของบริษัทสักเท่าไร แต่มักไปให้ความสำคัญกับราคาหุ้นที่ขยับขึ้นขยับลง ทั้งๆ ที่ผลการดำเนินงานของบริษัทนี่แหละที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นที่มีประสิทธิภาพที่สุด อย่างที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ สุดยอดนักลงทุน กล่าวไว้ว่า “ถ้าบริษัททำผลงานได้ดี หุ้นก็จะดีตามไปด้วยเช่นกัน” อนุรักษ์ บุญแสวง นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ก็เคยกล่าวไว้ว่า “กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง ที่จะผลักดันราคาหุ้น” แม้จะเป็นที่กล่าวขานกันว่าในตลาดหุ้นนั้นมี “เจ้ามือ” ที่สามารถ “ทำราคาหุ้น” ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทุบหุ้นให้ราคาร่วงลงไปติดฟลอร์เพื่อจะได้เก็บของในราคาถูกๆ หรือการเข้าไปไล่ราคาหุ้นให้พุ่งกระฉูดทะลุเพดานเพื่อล่อให้บรรดาแมงเม่าแห่ตามเข้าไปติดกับดักก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ว่านี้มักจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นไม่นานราคาหุ้นดังกล่าวก็มักจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ในขณะที่กำไรหรือผลดำเนินงานซึ่งเป็น “เจ้ามือตัวจริง” นั้นสามารถส่งผลต่อราคาหุ้นได้ยั่งยืนกว่า ถ้าบริษัทใดมีความสามารถในการทำกำไรได้อย่างยอดเยี่ยม มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ในระยะยาวราคาหุ้นของบริษัทนั้นก็จะมักจะเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าบริษัทไม่สามารถทำกำไรได้ดี หรือมีผลการดำเนินงานย่ำแย่ ราคาหุ้นก็มักจะลดลง แม้ว่าอาจจะมีบางช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง ราคาหุ้นของบริษัทชั้นเยี่ยมก็อาจลดต่ำลงได้ตามสภาวะของตลาด แต่ถ้าบริษัทยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรที่ยอดเยี่ยมไว้ได้เช่นเดิม ในเวลาไม่นานราคาหุ้นก็มักจะฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ปีเตอร์ ลินซ์ ให้ข้อคิดกับนักลงทุนว่า ความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกับราคาหุ้นในวันนี้ พรุ่งนี้ หรือในสัปดาห์หน้า เป็นเรื่องของความไขว้เขวเท่านั้น จากประสบการณ์ในการลงทุนอันโชกโชนของเขา ราคาหุ้นจะไม่สามารถวิ่งนำหน้าผลกำไรไปได้ไกลนัก เขายืนยันว่า “ราคาหุ้นกับกำไรจะไปด้วยกันเสมอ ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็ว มันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ” เพราะฉะนั้น การหมั่นติดตามผลการดำเนินการของบริษัทอยู่เสมอ จึงเป็นหนึ่งในภารกิจที่ไม่ควรละเลยสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการลงทุน เพราะนี่คือ “เจ้ามือตัวจริง” ที่มีอิทธิพลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้นในระยะยาวอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น