JASประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้
ตั้งกองทุนอินฟราฯฉลุย
ลุ้นปันผลพิเศษ 0.70-1 บาท ยีลด์สูง 9-13%
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ผู้เข้าชม : 11 คน
"JAS" ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ ลุ้นไฟเขียวตั้งกองทุนอินฟราฯ มูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาท กูรูมองได้ประโยชน์นำเงินไปขยายธุรกิจ พร้อมคาดมีจ่ายปันผลพิเศษ 0.70-1 บาท/หุ้น ดิวิเดนด์ยีลด์ 9-13% แนะซื้อเป้าราคา 11.20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ย. 2556) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 เพื่อขอมติพิจารณาอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาท
นางสาวมินทรา รัตยาภาส รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด เปิดเผยว่า การประชุมผู้ถือหุ้นของ JAS ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เพื่อขออนุมัติเข้าทำธุรกรรมการจัดตั้งกองทุนฯ และต้องได้เสียงอนุมัติไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงที่มาประชุมและมีสิทธิลงคะแนน (ไม่นับส่วนผู้ที่มีส่วนได้เสีย) โดยคาดว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติให้เข้าทำธุรกรรมจัดตั้งกองทุนฯ เนื่องจากมองว่าผู้ถือหุ้นจะได้รับประโยชน์จากการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว
“ผู้ถือหุ้นน่าจะอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนฯ เพราะเป็นการตีทรัพย์สินในอนาคตมาเป็นเงิน ซึ่งเม็ดเงินที่จะได้รับจากมูลค่ากองทุนฯ 60,000-70,000 ล้านบาท และประโยชน์ที่จะได้รับในการนำเงินที่ได้จากกองทุนฯไปขยายกิจการ และลงทุนเพิ่ม รวมทั้งนำไปจ่ายปันผลบางส่วน” นางสาวมินทรา กล่าว
ทั้งนี้ JAS จะได้รับเงินจากการขายทรัพย์สินหลังหักภาษีและค่าใช้จ่ายประมาณ 25,760-30,360 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น 3.60-4.20 บาท ขณะที่กำไรทางบัญชีจากการขายทรัพย์สินจะถูกบันทึกแยกกันเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.กำไรจากส่วนต่างมูลค่ายุติธรรมทรัพย์สินกับมูลค่าตามบัญชีปีที่ส่งมอบทรัพย์สิน ประเมินมูลค่าสุทธิหักภาษีได้ 13,000-22,300 ล้านบาท คิดเป็นกำไรทางบัญชีต่อหุ้น 1.80-3.10 บาท
และ 2.กำไรจากส่วนต่างราคาขายทรัพย์สินหักมูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สิน และเงินลงทุนหน่วยลงทุนฯ ประมาณ 35,760-43,360 ล้านบาท โดยจะทยอยตัดจำหน่ายตลอดอายุสัญญาเช่า ทั้งนี้การบันทึกกำไรทางบัญชีทั้ง 2 ส่วน จะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ในช่วง 12 ปีข้างหน้า JAS จะมีภาระค่าเช่าทรัพย์สินที่ต้องจ่ายสุทธิให้กองทุน IFF ที่จะทยอยเพิ่มขึ้นจาก 2,600 ล้านบาทต่อปี ไปจนถึง 6,400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะกระทบต่อ ARPU และ EBITDA แต่คาดว่า ARPU ของ JAS จะไม่ต่ำกว่า 560 บาท และมี EBITDA เฉลี่ย 5,545-7,851 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ในเบื้องต้นประเมินธุรกรรมครั้งนี้จะทำให้มูลค่าต่อหุ้น JAS เพิ่มขึ้นประมาณ 0.90 บาท จากมูลค่าเหมาะสมไม่รวม IFF ที่ 11.20 บาท นอกจากนี้ การระดมทุนก้อนใหญ่จะเพิ่มอำนาจการแข่งขันรองรับขยายฐานลูกค้าระดับบน FTTX และลดความเสี่ยง ARPU ที่ลดลง จึงยังให้น้ำหนักต่อการจ่ายเงินปันผลพิเศษจากเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินหลังหักภาษีและค่าใช้จ่ายประมาณ 25,760-30,360 ล้านบาท โดยคาดว่าจ่ายปันผลพิเศษหุ้นละ 0.70-1.00 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 9-13% แนะนำ “ซื้อ”
อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาหุ้นยังคงไม่ตอบรับประเด็นการประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่ายังคงมีความกังวลต่อคำพิพากษาของศาลฎีกากลับคำพิพากษาศาลล้มละลายกลางที่เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2546 ขณะเดียวกันมองว่า JAS ไม่มีความจำเป็นในการทำธุรกรรมจัดตั้งกองทุนฯในครั้งนี้ เพราะสามารถกู้ยืมเงินเพื่อมาลงทุนอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ รวมทั้งมีหนี้สิ้นน้อยประมาณ 2,500-2,700 ล้านบาท
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสัญญาณทางเทคนิคของหุ้น JAS ในระยะสั้นประเมินแนวรับไว้ที่ 7.35 บาท ซึ่งหากราคาหุ้น JAS ไม่ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับดังกล่าวประเมินว่าราคาหุ้นมีโอกาสที่จะรีบาวด์กลับมาเพื่อไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 7.80-8 บาท กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Tranding”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้อนุมัติให้ JAS ดำเนินการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาทแล้ว JAS น่าจะเดินหน้ายื่นไฟลิ่งจัดตั้งกองทุนฯต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในเร็วๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น