วิปรัฐยึดตามวุฒิสภา
ยอมถอนร่างทั้งหมด
ตลาดหุ้นทางโล่ง วันนี้ดัชนีวิ่งต่อ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 07 พฤศจิกายน 2556 ผู้เข้าชม : 17 คน
รัฐบาลถอยไม่เป็นขบวน ยกธงขาว ยันไม่เสนอกฎหมายนิรโทษฯ เข้าสภาหลังพ้น 180 วัน หากวุฒิสภาไม่รับหลักการ รวมถึง พ.ร.บ.ปรองดองอีก 6 ฉบับ “เพื่อไทย” ให้คำมั่น ไม่เสนอกฎหมายรูปแบบดังกล่าวเข้าสภาฯ อีก ด้าน “ทักษิณ” อยู่เงียบๆ ไม่เป็น ออกมาตัดพ้อ ส่วนตลาดหุ้นไทยตอบรับปิดบวก 19.53 จุด วันนี้ดัชนีวิ่งต่อ
วานนี้ (6 พ.ย.) คณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ออกมายืนยันว่า จะไม่เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดจากการชุมนุมทางการเมือง เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง หลังพ้นกำหนด 180 วัน หาก
วุฒิสภาลงมติไม่รับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว
นอกจากนี้ ยังจะถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับอื่นๆ และ พ.ร.บ.ปรองดอง รวม 6 ฉบับ ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หนึ่งในวิปรัฐบาล กล่าวว่า “ถ้าหากสมาชิกวุฒิสภาไม่รับหลักการร่างนิรโทษกรรมฉบับนี้ ก็ต้องทิ้งร่างนี้ไว้ 180 วัน เราไปแตะต้องอะไรไม่ได้ แต่เมื่อพ้น 180 วันไปแล้ว เราจะไม่เอามาพิจารณา จะค้างไว้อย่างนั้น แต่ถ้ายังมีประชาชนไม่สบายใจอีก ก็จะหยิบขึ้นมายืนยันว่า เราไม่เอาตามร่างนี้"
ด้านนายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลประเมินสถานการณ์แล้ว จึงมีมติเห็นชอบให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับอื่นๆ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ ที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุม รวมแล้ว 6 ร่างให้ถอนออกไปทั้งหมด โดยคาดว่า สัปดาห์หน้าจะดำเนินการได้
"เจ้าของที่เสนอร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับ จะต้องเสนอญัตติขอถอนร่างต่อสภาเพื่อให้ส.ส.ลงมติโดยเสียงข้างมาก"
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล กล่าวว่า หากวุฒิสภามีมติไม่รับร่างกฎหมายฉบับนี้ และส่งกลับมายังสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สภาฯไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ ต้องรอจนพ้นกำหนด 180 วัน รวมทั้งส.ส. จะเสนอร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาและเหตุผลเหมือนกับร่างฉบับนี้ต่อสภาฯไม่ได้เช่นกัน
พท.ให้คำมั่นถอย
วานนี้ พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทยจะไม่หยิบยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดจากการชุมนุมทางการเมือง ขึ้นมาพิจารณาใหม่ หากที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ลงมติไม่รับหลักการร่างกฎหมายนี้ และส่งคืนมายังสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคเพื่อไทยจะปล่อยให้กฎหมายฉบับนี้ ตกไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
"ขอให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอและเห็นชอบกฎหมายใดๆ ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมไทย และจะน้อมรับฟังความเห็นจากผู้ที่เห็นต่าง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่ความสามัคคี ปรองดอง ของคนในชาติต่อไป" นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะขอให้ส.ส.ของพรรคถอนร่างกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมทั้งหมด ที่ค้างอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว
"พรรคยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมกับคนไทยทุกภาคส่วนสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ และขอเชิญชวนภาคการเมือง ภาคเศรษฐกิจและสังคม และประชาชนทุกหมู่เหล่า มาร่วมพูดจาหาทางสร้างความสามัคคีปรองดองในเวทีที่เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น" นายภูมิธรรม กล่าว
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า หากวุฒิสภามีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รัฐบาลก็จะไม่หยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีก และไม่มีแนวคิดที่จะออกเป็นพระราชกำหนดด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า คงต้องรอดูว่า สัปดาห์หน้า รัฐบาลจะดำเนินการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับอื่นๆ และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ รวม 6 ฉบับ ตามที่แถลงไว้ก่อน รวมทั้งต้องรอดูการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อยู่ในวาระการพิจารณาของวุฒิสภาด้วย หากวุฒิสภาลงมติไม่รับหลักการและส่งกลับมายังสภาฯ เมื่อพ้นกำหนด 180 วันไปแล้ว รัฐบาลจะหยิบมายืนยันในสภาฯอีกหรือไม่
"เราไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่ารัฐบาลจะทำอย่างนั้นจริง แค่มานั่งแถลงอย่างเดียว เราต้องดูการกระทำของเขา ว่ามีความจริงใจแค่ไหน เพราะฉะนั้นถ้าเขาจริงใจจริง สัปดาห์หน้าก็ถอนออกไปทั้ง 6 ฉบับ" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนการแถลงข่าวดังกล่าวของวิปรัฐบาล เพื่อต้องการลดกระแสการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าเสียงข้างมากในสภาฯเปลี่ยนท่าทีได้
‘แม้ว’ โผล่หน้าอีก
ด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ว่า "ตามที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกทำให้เป็นประเด็นการเมืองใส่ร้ายตัวผม บิดเบือนว่าจะคืนเงินและล้างผิดให้คนคนเดียว ทั้งๆ ที่วัตถุประสงค์ของกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ กระทำเพื่อให้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งและคืนความเป็นธรรมให้กับเหยื่อของ การรัฐประหารปี 49
ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ผมเคารพความเห็นต่างของคนไทย แต่ไม่สามารถยอมรับการบิดเบือนใส่ร้ายด้วยความเท็จที่ผมและครอบครัวได้รับ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความปรารถนาสูงสุดของผมคือต้องการให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น มีอนาคตที่มั่นคง และประเทศสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่มีนักการเมืองบางกลุ่มยังคงคิดว่าการโจมตีใส่ร้ายผม ด้วยความเท็จจะช่วยให้พวกเขาได้รับความนิยมทางการเมือง ซึ่งวิธีการนี้ก็ถูกปฏิเสธโดยประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศในการเลือกตั้งทุกครั้งในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
ผมขอเรียนว่า การรัฐประหารในปี 2549 ได้ละเมิดหลักนิติธรรมอย่างโจ่งแจ้งทั้งการฉีกรัฐธรรมนูญของประชาชน และคนที่ยึดอำนาจผม ตั้งคนเป็นปฏิปักษ์ต่อตัวผม มาตั้งข้อกล่าวหาและสอบสวนอย่างเบ็ดเสร็จรวบรัด แม้การกระทำนี้ได้ก่อให้เกิดความอยุติธรรมแก่ผมและครอบครัว ผมขอรับความเจ็บปวดเอาไว้ เพื่อหวังให้ประเทศเดินหน้าในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ผมตระหนักว่าประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนมาก่อนประโยชน์สุขส่วนตัวของผม สิ่งที่ผมอยากเห็นในขณะนี้คือความปรองดองสมานฉันท์ของคนไทย ผมอยากเห็นคนไทยมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน
แม้จะอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ผมยังรักและห่วงอนาคตของลูกหลานไทย และเชื่อมั่นว่าอนาคตของพวกเขาและอนาคตของประเทศไทยจะมีความมั่นคงก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเรามีหลักนิติธรรมสำหรับคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม และประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่การตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ผ่านการเลือกตั้งได้รับการเคารพ และองค์กรต่างๆ ใช้อำนาจในกรอบที่กำหนดโดยรัฐธรรมนูญ ผมเอาใจช่วยและหวังว่าเราจะไปถึงจุดนั้นในเวลาอันใกล้นี้
ผมขอกราบขอบพระคุณสำหรับความรัก และทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ผมผ่านช่องทางต่างๆ ขอให้เปลี่ยนความรักและกำลังใจเหล่านั้น เป็นพลังในการสร้างความปรองดอง ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไป
วันนี้ดัชนีวิ่งต่อ
ด้านดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ ปิดบวก 19.53 จุด มาที่ 1,434.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 43,539.29 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,890.45 ล้านบาท
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีที่วิปรัฐบาลจะไม่เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เป็นประเด็นขัดแย้งในขณะนี้เข้าที่ประชุมสภาฯ รวมถึงจะถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับอื่นๆ และร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง รวม 6 ฉบับด้วยนั้น ถือเป็นปัจจัยบวกใหม่ต่อตลาด
"ข่าวของวิปรัฐบาล เป็นปัจจัยบวกใหม่ที่จะมีผลต่อตลาดในวันนี้ และในสัปดาห์หน้า การที่วิปรัฐบาลออกมาแบบนี้ แสดงว่ารัฐบาลยอมถอย"
หากความขัดแย้งเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยุติลง เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับกลุ่มที่ชุมนุมต่อต้านไม่มากแล้ว เนื่องจากยังไม่เห็นประเด็นอื่นที่จะก่อให้เกิดการขัดแย้งที่รุนแรงเหมือนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ย.) มองแนวต้านที่ 1,450 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,430 จุด
นายประกิต วิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวก เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศเริ่มผ่อนคลายจากปัจจัยการเมือง หลังร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมมีแนวโน้มไม่ผ่านการพิจารณาจากวุฒิสภาตั้งแต่วาระแรก อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการพิจารณาของศาลโลกต่อประเด็นเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น
ถึงแม้ว่าปัจจัยในประเทศจะส่งผลลบต่อตลาด แต่ปัจจัยต่างประเทศถือว่าได้รับข่าวดีจากตัวเลข ดัชนีการจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม หรือ PMI ของสหรัฐ ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น