วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

WHAกำไรปีนี้พุ่ง500% บุ๊คขายกองทุนทะลัก รายได้ทะยาน 7,100 ล้าน-ส่งซิกงบ Q3 สวย

WHAกำไรปีนี้พุ่ง500%
บุ๊คขายกองทุนทะลัก
รายได้ทะยาน 7,100 ล้าน-ส่งซิกงบ Q3 สวย

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 05 พฤศจิกายน 2556 
ผู้เข้าชม : 12 คน 

“ดับบลิวเอชเอ” เผยปีนี้รายได้มากกว่า 7,100  ล้านบาท ส่วนกำไรคาดเติบโตกว่า 500% จากปีก่อน รับแรงหนุนรายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่เพิ่มขึ้น บวกกับบันทึกกำไรขายสินทรัพย์เข้ากองทุน WHAPF พร้อมส่งซิกงบไตรมาส 3 สวย
นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทน่าจะมีรายได้มากกว่าหรือใกล้เคียง 7,100 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,213.43 ล้านบาท ส่วนกำไรน่าจะเติบโตประมาณ 500% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 213.29 ล้านบาท โดยมาจากการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่เช่าคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานเพิ่มมากขึ้น  รวมถึงมีการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ด้วย
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/56        มีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/56 เนื่องจากมีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะแจ้งงบได้ประมาณวันที่ 12-13 พ.ย.นี้ หลังการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ส่วนในไตรมาส 4/56 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง จากการมีพื้นที่คลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสิ้นปีจะมีพื้นที่รวม 1 ล้านตารางเมตร
ด้านโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) บริษัทได้มีการทยอยเซ็นสัญญาไปแล้วประมาณ 4-5 เมกะวัตต์ จากทั้งหมดที่ได้ประมาณ 9-10 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนที่เหลือตามกำหนดจะมีการเซ็นสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 พ.ย.นี้
และจากที่มีข่าวบางแหล่งที่ให้ข้อมูลว่าจะมีโครงการโซลาร์รูฟท็อป อีก 800 เมกะวัตต์ในอนาคต เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าในประเทศถือว่าน้อยมาก และถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากที่รัฐบาลต้องส่งเสริม ประกอบกับในด้านของการลงทุนก็ไม่สูง เนื่องจากบริษัทก็มีพื้นที่จากคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า
ทั้งนี้ โซลาร์รูฟท็อป จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 57 เป็นต้นไป ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9-10 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ สำหรับปีนี้ในช่วง 2-3 เดือน บริษัทก็จะดำเนินการด้านการลงทุน มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์
“โครงการโซลาร์รูฟท็อป เป็นโครงการพลังงานสะอาดที่ส่งผลให้ใช้ประโยชน์ของเนื้อที่ของบริษัทที่มีอยู่ได้มากขึ้น ซึ่งลูกค้าของบริษัทก็ได้ใช้พลังงานโซลาร์ ขณะเดียวกันในอนาคตด้วยแนวโน้มอัตราค่าไฟที่สูงขึ้น หรือไม่ว่าจะเกิดปัญหาทั้งจากราคาก๊าซ หรือราคาน้ำมัน การดำเนินการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งแสงอาทิตย์ไม่มีหมด ก็จะส่งผลให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้นเช่นเดียวกับต่างประเทศ อย่าง เยอรมนี และญี่ปุ่น เป็นต้น”
นายแพทย์สมยศ กล่าวว่า ปีหน้า (ปี 2557) บริษัทมีแผนที่จะขยายพื้นที่อีกประมาณ 3 แสนตารางเมตร งบลงทุนประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าหลายสิบราย โดยแต่ละรายก็จะมีความต้องการปริมาณพื้นที่หลักหมื่นตารางเมตร
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะมีผลกระทบบ้าง ในบรรยากาศของการลงทุน ทำให้มีความกังวลบ้าง แต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินไปตามความถูกต้อง โดยเมื่อมีปัญหาก็ต้องมีการคุยกัน เพื่อเป็นตัวอย่าง และเป็นหลักที่ดี ถึงความเหมาะสมที่ควรจะเป็น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น