วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

PSกำไรเริ่ดสุด! 1,483ล.โต48% ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 04 พฤศจิกายน 2556

PSกำไรเริ่ดสุด!
1,483ล.โต48%

ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 04 พฤศจิกายน 2556 
ผู้เข้าชม : 6 คน 

"PS" เติบโตเริ่ดสุดในกลุ่มอสังหาฯ คาดงบไตรมาส 3/56 ประกาศรายได้รวม 11,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% และคาดโชว์กำไรสุทธิ 1,483 ล้านบาท โตขึ้น 48% "กูรู" พร้อมใจประสานเสียงเชียร์ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมาย 29.61 บาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PF เป็นหุ้นที่โดดเด่นที่สุดของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (พัฒนาที่อยู่อาศัย) เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/56 จะมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตทั้งเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยคาดการณ์ไตรมาส 3/56 PS จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 11,085 ล้านบาท เติบโต 41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 12% จากไตรมาสก่อน ส่วนกำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 1,483 ล้านบาท เติบโต 48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 5% จากไตรมาสก่อน
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/56 คาดว่า PS จะมีการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/56 เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมถึงกำหนดที่จะโอนในไตรมาส 4/56 จำนวนมาก โดยเป็นการเลื่อน (ดีเลย์) มาจากไตรมาส 3/56 ดังนั้น จึงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น PS ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 29.61 บาท/หุ้น
นายชาตรี ศรีสมัยเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/56 ที่จะประกาศออกมานั้น ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกำหนดให้บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PF และบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็น 2 หุ้นเด่นในกลุ่มอสังหาฯ เนื่องจากคาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน  (ไตรมาส 3/55) และไตรมาสก่อน (ไตรมาส 2/56)  โดยเฉพาะ PS ยกให้เป็นหุ้นเด่นที่สุดของกลุ่ม
โดยคาดว่าไตรมาส 3/56 PS จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,435 ล้านบาท เติบโต 43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 2% จากไตรมาสก่อน แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 28 บาท/หุ้น และคาดว่า LH จะมีกำไรสุทธิ 1,710 ล้านบาท เติบโต 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 14% จากไตรมาสก่อน แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 13 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่คาดว่าไตรมาส 3/56 จะมีกำไรสุทธิ 605 ล้านบาท เติบโต 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่อาจจะลดลง 24% จากไตรมาสก่อน ขณะที่บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 430 ล้านบาท ทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 5% จากไตรมาสก่อน
ส่วนบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 838 ล้านบาท ลดลง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 24% จากไตรมาสก่อน และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 317 ล้านบาท ลดลง 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ผลประกอบการไตรมาส 3/56 ของ AP และ SPALI จะไม่น่าจะประทับใจ แต่ในไตรมาส 4/56 คาดว่าทั้ง 2 บริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตมาก เนื่องจากจะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างเสร็จและรับรู้รายได้เข้ามามากในไตรมาส 4/56
นายชาตรี กล่าวอีกว่า ฝ่ายวิเคราะห์ฯได้ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (พัฒนาที่อยู่อาศัย) เท่ากับตลาด มีปัจจัยลบเรื่องของธนาคารพาณิชย์ที่มีความระมัดระวังในการปล่อยกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ขณะที่การขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) มีอัตราการเติบโตที่ลดลง ทำให้คนกู้สินเชื่อซื้อบ้านไม่มีความมั่นใจ แต่ราคาปิดต่อกำไรสุทธิ (P/E) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ฯปรับลดลงมามากอยู่ที่ระดับ 11.5 เท่าในปัจจุบัน จากก่อนหน้านี้ช่วงดัชนีตลาดหุ้นอยู่ที่ระดับ 1,600 จุด เคยมีค่า P/E อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น