Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

3 พฤศจิกายน 2556

ชื่อ: GOOD_MORNING_NEWS.jpg ครั้ง: 228 ขนาด: 25.4 กิโลไบต์


General News
----------------

• ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนเป็น “มีเสถียรภาพ” จากแนวโน้มเดิมเป็นลบ และคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายที่ดีขึ้นในปีงบประมาณ 2555-2556

• ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ผลักดันให้สภาคองเกรสสนับสนุนงบประมาณเพื่อโครงการสาธารณูปโภคและการศึกษาให้เพิ่มมากขึ้น โดยให้มีการกำจัดช่องว่างเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ไร้ประโยชน์ เพื่อให้โครงการเพื่อระบบสาธารณูปโภคและการศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาที่ดีขึ้น

• FED เพิ่มบัญชีรายชื่อธนาคารสำคัญที่ต้องทดสอบภาวะวิกฤติประจำปี ตามพันธะกรณีที่ต้องทำ หลังจากธนาคารหลายแห่งล้มในวิกฤติการเงินปี 2551 เพื่อตัดสินใจว่าธนาคารใดต้องเพิ่มทุนให้แข็งแกร่งมากขึ้น หรืออนุญาตให้ธนาคารต้องจ่ายปันผลหรือซื้อหุ้นคืนหรือไม่ โดยปีหน้าจะมีธนาคารใหญ่ที่ต้องทดสอบ 30 แห่ง เพิ่มจากปี 2555 ที่เป็น 18 แห่ง

• นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่า จีนจะปฏิรูปการคลังภาครัฐ ตลาดเงิน อุตสาหกรรม และอื่นๆ อย่างเข้มข้นต่อไป ซึ่งการปฏิรูปกำลังเข้าสู่จุดที่ยากมาก และต้องฝ่าอุปสรรคสำคัญไปให้ได้เพื่อเดินหน้าปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ส่วนหนึ่งถูกจัดการโดยรัฐ เพื่อเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจปรับตัวเข้าสู่การเติบโตที่สมบูรณ์และยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต โดยพึ่งพาการลงทุนขนาดใหญ่น้อยลง และพึ่งพาการบริโภคภายในให้มากขึ้น

• ดัชนีการจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (PMI) ของจีนเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 51.4 จุด สูงสุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมยังดำเนินไปได้ดี ทำให้รัฐบาลจีนสามารถที่จะดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพื่อเปลี่ยนจากประเทศที่มีต้นทุนค่าจ้างที่ต่ำเป็นประเทศที่มีประชาชนมีรายได้สูง

• ยอดขายรถยนต์โตโยต้าในจีนเดือน ต.ค. อยู่ที่ 82,400 คัน เพิ่มขึ้น 80.6% จากปีก่อน ซึ่งปรับตัวดีขึ้นมากจากปีที่แล้วที่เกิดข้อพิพาทในทะเลจีนตะวันออกจนทำให้เกิดกระแสต่อต้านญี่ปุ่น และส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของญี่ปุ่นไปหลายเดือน ขณะที่ใน 10 เดือนแรกของปีนี้ โตโยต้าจำหน่ายรถยนต์ได้ประมาณ 719,200 คัน เพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อน

• นักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอาจขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 โดยชะลอตัวลงจาก 0.9% ในไตรมาส 2 ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกจะอยู่ในระดับปานกลาง การใช้จ่ายด้านทุนจะชะลอตัว ส่วนภาคบริการมีแผนจะเพิ่มการลงทุนเพื่อตอบสนองอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานที่ตึงตัวและสัญญาณค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นน่าจะหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้าได้

• IMF ประเมินว่า เกาหลีใต้เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนเพราะมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี อัตราเงินเฟ้อต่ำ งบประมาณการคลังแข็งแกร่ง และมีทุนสำรองระหว่างประเทศมาก จึงเป็นปัจจัยดึงดูดเงินทุนต่างชาติ และคาดว่าเศรษฐกิจ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปีนี้เป็น 3.7% ในปีหน้า ซึ่งยังต่ำกว่าคาดการณ์ 3.9% จาก ก.คลัง และ 3.8% จากธนาคารกลางเกาหลีใต้

• เม็กซิโก อนุมัติการเก็บภาษีเครื่องดื่มผสมน้ำตาล 1 เปโซ/ลิตร และเก็บภาษีจังค์ฟู้ด 8% หลังอัตราผู้ป่วยโรคอ้วนชาวเม็กซิกันปัจจุบันสูงกว่าในสหรัฐ และเป็นประเทศที่มีผู้ดื่มน้ำอัดลมมากที่สุดในโลก หรือเฉลี่ยคนละ 707 ขวดต่อปี

• เวียดนาม กลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 14 ของโลก และอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประชากรแตะระดับ 90 ล้านคน แม้มีการพยายามรณรงค์ให้วางแผนครอบครัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม

• อินโดนีเซีย ลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 5.8% จากเดิมที่ประเมินไว้ 6% หลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและความต้องการของประเทศอุตสาหกรรมมีไม่มากนัก

• ก.พาณิชย์คงเป้าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ไว้ที่ 2.10-2.60% ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 90-110 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มีอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 2.27% เนื่องจากราคาสินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น

• สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ แพทย์ และประชาชนทั่วไป กำลังรวมกันเพื่อต่อต้านร่างกฏหมายนิรโทษกรรมในหลายภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดว่าความขัดแย้งทางการเมืองจากกฏหมายนิรโทษกรรมอาจทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยเฉพาะ SME เนื่องจากมีสภาพคล่องน้อย โดยใน 3-4 เดือนที่ผ่านมาไม่มีการรับพนักงานใหม่ และหากแรงงานลาออกก็จะเกลี่ยแรงงานจากส่วนอื่นมาทดแทน รวมทั้งไม่มีการจ้างงานล่วงเวลา

• เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ยังไม่จำเป็นต้องขยาย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่ต้องติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟสามเสนที่มีผู้มาร่วมชุมนุมกว่า 8 พันคน และจะยกระดับในวันที่ 4 พ.ย. นี้

• กฟผ.เตรียมขายหน่วยลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานในไตรมาส 2-3 ปีหน้า 1.5-1.7 หมื่นล้านบาท โดยใช้รายได้หรือกระแสเงินสดในอนาคตของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเป็นทรัพย์สินในการลงทุน ซึ่งมีกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ และสร้างรายได้ 2 พันกว่าล้านบาท/ปี ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราเงินปันผลตอบแทนมากกว่าพันธบัตรที่ กฟผ. เคยออกและให้อัตราดอกเบี้ย 4.725%

• ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจด้านพลังงานไทย-รัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานทุกประเภท ได้แก่ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และพลังงานทางเลือก รวมทั้งความร่วมมืออื่นๆ ที่เห็นชอบร่วมกันเป็นระยะเวลา 3 ปี

• ครม.ปรับขึ้นเงินเดือนครู-บุคลากรทางการศึกษาขั้นต่ำเป็น 15,050 บาท เริ่ม 1 ม.ค. 57

Equity Market
---------------

• SET Index ปิดที่ 1,429.08 จุด ลดลง 13.80 จุด (-0.96%) มูลค่าซื้อขาย 29,421 ล้านบาท ดัชนีฯปรับลดลงหลังนักลงทุนมีความกังวลต่อความวุ่นวายทางการเมือง หลังมีการผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในสภาฯเป็นที่เรียบร้อย ทำให้การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านมีความรุนแรงมากขึ้น

ล้านบาท
---------

นักลงทุนสถาบัน 763.07
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -92.24
นักลงทุนต่างชาติ -1,771.22
นักลงทุนทั่วไป 1,100.39

Fixed Income Market
------------------------

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 0.00 ถึง +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 93,122 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล อายุ 1 เดือน วงเงิน 25,000 ล้านบาท

Gold Corner
-------------

• ปีนี้ยอดขายทองคำช่วงเทศกาลแต่งงานของอินเดียมีแนวโน้มลดลง จากมาตรการควบคุมการนำเข้าของรัฐบาลและความต้องการทองคำในอินเดียเริ่มชะลอลง โดยสมาพันธ์ฯ ค้าทองคำคาดว่า ยอดขายทองคำแท่งและเหรียญทองคำอาจลดลงเหลือเพียง 25%ของยอดขายในปีที่ผ่านมา