วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

SLCฟ้องผู้บริหารNMG

SLC ฟ้อง “10 ผู้บริหาร NMG” เรียกค่าเสียหายกว่า 2.3 พันลบ.

2015-03-24 09:56:00
ผู้เข้าชม : 550

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทโซลูชั่น  คอนนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)หรือ SLC ระบุว่า เมื่อวานนี้( 23 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ SLC และนายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLC เข้ายื่นฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550และความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ต่อบริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG
จำเลยที่ 1 บริษัท กรุงเทพธุรกิจ มีเดีย จำกัด จำเลยที่ 2 นายอดิศักดิ์  ลิมปรุ่งพัฒนกิจ จำเลยที่ 3 นางสาวดวงกมล โชตะนา จำเลยที่ 4 นายสุทธิชัย  แซ่หยุ่น จำเลยที่ 5 นายเสริมสิน  สมะลาภา จำเลยที่ 6 นายพนา จันทรวิโรจน์ จำเลยที่ 7  นางสาวณัฐวรา แสงวารินทร์ จำเลยที่ 8นายจักรกฤษ เพิ่มพูน  จำเลยที่ 9 และนายนิติราษฎร์ บุญโย จำเลยที่ 10
โดยบุคคลและนิติบุคคลทั้ง 10 ราย ได้ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และได้ร่วมกันกระทำผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  พ.ศ.2535 ในหลายกรรมหลายวาระ ที่เกี่ยวข้องกับการที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ “SLC” ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “NMG” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้กล่าวหาว่า SLC เป็นตัวแทนเชิดของกลุ่มชินวัตร หวังจะเข้าบริหารสื่อทีวีดิจิตอลและควบคุมสื่อไว้ในมือ  เพื่อต้องการควบคุมทิศทางข่าว สังคม ให้เป็นไปในแนวทางที่ต้องการ
โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง คุณธรรม จริยธรรม มีแหล่งที่มาของเงินที่น่าสงสัย เป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดและมีกรรมการหรือตัวแทนของเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อหาแหล่งทุนมาซื้อสื่อ  เพื่อต้องการปิดกั้นสื่อและชี้นำสังคมให้เป็นไปใน ทิศทางที่ต้องการ เป็นผู้ปั่นหุ้น เป็นการกระทำความผิดทางอาญาและเป็นความผิดอาญาทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรง และมีการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์และการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ

โดยการร่วมกันนำเสนอข่าวดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่ SLC   ทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้อ่านข่าวเชื่อว่าโจทก์เป็นบริษัทที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ การดำเนินธุรกิจของโจทก์เป็นการกระทำที่มีความน่าเคลือบแคลงสงสัยที่จะครอบงำการนำเสนอข่าวสาร โดยการอ้างแหล่งข่าวและสร้างกิจกรรมต่างๆขึ้นมาเพื่อประกอบให้มีความน่าเชื่อถือ
 ด้วยวิธีการอันแยบยลของความเป็นสื่อมืออาชีพ เพื่อให้ครบองค์ประกอบที่จะนำเสนอข่าวได้ โดยอ้างความชอบธรรมของบริษัทในเครือเนชั่นฯ และใช้สื่อทุกแขนงสร้างกระแสข่าวและนำเสนอข่าวสารให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นการปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน จากกลุ่มทุนที่มีเจตนาครอบงำกิจกรรมการสื่อสารมวลชน เป็นการกระทำหน้าที่ตามหลักจริยธรรมวิชาชีพและนำเสนอข่าวดังกล่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ทั้งนี้ การสร้างกระแสข่าวระหว่างวันที่ 23  ธันวาคม 2557  ถึงวันที่ 13  มกราคม  2558  อย่างต่อเนื่อง เป็นกระบวนการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของโจทก์ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ การเผยแพร่ข้อความเท็จดังกล่าว มีเจตนาร่วมกันใส่ความโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนและเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอต่อบุคคลที่สาม
โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง โดยการนำข้อความอันเป็นเท็จลงในหนังสือพิมพ์และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเป็นการหมิ่นประมาทต่างกรรมต่างวาระ เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,90,91, 326, 328 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  พ.ศ. 2550  มาตรา 3,14, 15
นอกจากนี้ การที่จำเลยที่ 3  ถึงจำเลยที่ 10  ทำหน้าที่กรรมการบริหารและผู้บริหารของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันโดยเจตนาที่จะหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและอาจต้องรับโทษทางอาญา ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 10 ไม่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 
สำหรับบริษัทจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่หรือบริษัทแม่ และมาตรา 89/24 สำหรับบริษัทจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยหรือบริษัทลูกของจำเลยที่ 1 เป็นการประพฤติมิชอบและผิดจรรยาบรรณสื่อมวลชนและแนวทางการบริหารจัดการที่ดีอย่างร้ายแรง  ทำการเสนอข่าว  กระจายข่าว และเผยแพร่ข่าวเท็จ จึงเป็นความผิดตามมาตรา  281/2 ทั้งวรรคหนึ่งและวรรคสอง ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
การกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 10  เป็นการร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความเป็นจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของโจทก์ หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของโจทก์ โดยประการอื่น เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์  จำเลยทั้งสิบต้องร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ เพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้น รวมค่าเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น  2,343,005,267.90 บาท
ทั้งนี้ หากศาลจะได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสิบกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้  จำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 10  จะขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามที่แสดงถึง การขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 89/6   เมื่อโจทก์เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการของจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ถือหุ้น จำนวนร้อยละ 12.27 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของจำเลยที่ 1โจทก์จึงมีสิทธิที่จะขอให้ปลดจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 10  ออกจากการเป็นกรรมการ และผู้บริหารของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2ด้วย   เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและเป็นการวางมาตรการและกำหนดกรอบให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนต้องปฏิบัติตามกฎหมายศีลธรรมอันดีและหลักแห่งวิชาชีพสื่อหรือจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อและหลักจริยธรรมของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หลักเกณฑ์การบริหารจัดการบริษัทที่ดี และไม่ปฏิบัติเกินเลย เกินขอบเขต ถึงขั้นกล่าวหาบุคคลอื่นผู้สุจริตว่ากระทำผิดอาญาอย่างร้ายแรง ดังที่จำเลยทั้งสิบได้กระทำต่อโจทก์  
โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับจำเลยทั้งสิบได้  จึงต้องฟ้องร้องเป็นคดีนี้เพื่อขออำนาจศาลบังคับ


1 ความคิดเห็น:

  1. คุณจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อชำระค่าหรือการเริ่มต้นธุรกิจ? ส่งอีเมล์หาเราตอนนี้ :: reekadorosey07 @
    gmail.com


    เราได้รับการรับรองและได้รับการอนุมัติตามข้อกำหนดรัฐสินเชื่อและเงินให้กู้ยืมและให้กำลังใจและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ราคาถูกมากคือ 1.5% ตอนนี้เราได้เริ่มต้นที่จะนำเสนอเงินให้กู้ยืมปีใหม่กับผู้กู้และจริงจัง ที่เชื่อถือได้เพื่อชำระคืนเงินกู้ของเราในวันที่ครบกำหนด โปรดทราบว่าเราจะต้องยืมอุกอาจที่จะใช้สำหรับเงินให้กู้ยืมนี้ ..



    ขอขอบคุณและขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ส่งอีเมล์หาเราตอนนี้: reekadorosey07 @
    gmail.com ::



    ความนับถือ

    ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา

    ตอบลบ