วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

กนง.หั่นดอกเบี้ยซื้อใจ


 

     
  
        
   กนง.หั่นดอกเบี้ยซื้อใจ



       
      แบงก์ชาติ ทำเซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 1.75% แม้รับประสิทธิผลต่อ ศก.ไม่มาก แต่อย่างน้อยช่วยสร้างบรรยากาศ-กระตุ้นเชื่อมั่น ระหว่างกลไกอื่นทำงานได้เต็มที่ แต่เตรียมหั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโตไม่ถึง 4% นายแบงก์มองเหมือนกันบรรยากาศดีขึ้นจริง แต่ไม่ได้กระตุ้น ปชช.ใช้เงิน เหตุหนี้ครัวเรือนยังสูง ขณะที่ตลาดหุ้นรับอานิสงส์ ปิดบวก13จุด หลังร่วงหนักหลายวันติด

             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ซึ่งประชุมเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.75% จากการประชุมครั้งแรกของปีนี้เมื่อวันพุธที่ 28 มกราคม 2558ที่คงไว้ที่ 2% โดยการปรับลงในครั้งนี้ สวนทางกับการคาดการณ์ของตลาดส่วนใหญ่ ซึ่งประเมินว่าน่าจะคงไว้ที่ระดับ 2% แต่จะลดดอกเบี้ยในยามที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ทั้งนี้ กนง.จะประชุมปีละ 8 ครั้ง และครั้งถัดไป (ครั้งที่3)คือวันพุธที่29 เมษายน 2558
*** มติ 4:3 ลดดอกเบี้ย 0.25%

             นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)แถลงผลการประชุม กนง.ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 3 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 3 เสียงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี กนง.คาดว่า การปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวอาจไม่มีผลต่อเศรษฐกิจมากนัก แต่คาดหวังเรื่องการสร้างบรรยากาศ และกระตุ้นความเชื่อมั่นมากกว่า
             "เรื่องประสิทธิผล คงไม่มาก แต่การดำเนินการลดดอกเบี้ยคงมีส่วนช่วยได้ ภายใต้ช่วงที่กลไกอื่นยังทำงานไม่เต็มที่ หวังในเรื่องการสร้างบรรยากาศ และกระตุ้น ความเชื่อมั่นมากกว่า"นายเมธี กล่าว
             ประเด็นที่คณะกรรมการฯ ให้ความสำคัญในการตัดสินนโยบาย มีดังนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปี 2557 และเดือนมกราคม 2558ยังคงฟื้นตัวค่อนข้างช้า โดยมีแรงส่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนน้อยกว่าคาด ส่วนหนึ่งเนื่องจากความเชื่อมั่นของภาคเอกชนชดลง เศรษฐกิจในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในอัตราต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน
             สำหรับการส่งออกสินค้าคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่คาด แต่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าโดยเฉพาะจีน ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยชดเชยอุปสงค์ในประเทศได้บางส่วน
             ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงและติดลบตามราคาน้ำมันโลกที่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าและบริการส่วนใหญ่ยังปรับเพิ่มขึ้น สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เป็นบวก มองไปข้างหน้า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับที่คณะกรรมการฯ ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน
สำหรับเสถียรภาพระบบการเงินยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องติดตามผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจสะสมจากพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า (Search for yield)ภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน
             ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงกว่าที่ประเมินไว้ โดยแรงกระตุ้นจากภาคการคลังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลชัดเจน และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง ภายใต้ภาวะดังกล่าว กรรมการ 4 คนเห็นว่านโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจ และช่วยพยุงความเชื่อมั่นของภาคเอกชน
             อย่างไรก็ดีกรรมการ 3 คนประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ผ่อนปรนเพียงพอในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และควรรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินไว้สำหรับเวลาที่จำเป็นและมีประสิทธิผลมากกว่าปัจจุบัน
             ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันควรอาศัยแรงขับเคลื่อนด้านการคลังมากขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินการตามแผนการลงทุนของภาครัฐ
ในระยะต่อไป คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว 

*** ไม่กังวลทุนไหลออก 

             ส่วนกรณีข้อกังวลจากกรณี กนง.ลดดอกเบี้ย และจะทำให้มีเงินไหลออกนั้น มองว่าเสถียรภาพทางการเงินโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดีแต่อาจพบเงินทุนไหลออกบ้าง แต่ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจาก กนง.มีการลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% เท่านั้นจึงไม่ได้เป็นปัจจัยส่งผลให้เงินไหลออกมาก
             อย่างไรก็ตาม กนง.จะติดตามพัฒนาการต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาวว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนการลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผ่านไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่นั้นอาจไม่มีประสิทธิผลมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ความเชื่อมั่น รวมไปถึงบรรยากาศการลงทุนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา


*** หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโตไม่ถึง 4%
             นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ปี 2558ลงจากโต 4% โดยจะมีการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มี.ค.นี้ โดยสาเหตุที่มีการปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเนื่องจากเห็นว่า เศรษฐกิจที่ผ่านมามีการฟื้นตัวล่าช้า ประกอบกับการใช้อุปโภคบริโภคในประเทศชะลอตัว การใช้จ่ายภาคเอกชนรวมไปถึงภาครัฐยังมความล่าช้าออกไป สำหรับภาคการส่งออกคาดว่าจะเริ่มทยอยฟื้นตัว แต่ยังมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญโดยเฉพาะจีน
             ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า ปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง คือ การอุปโภคบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวล่าช้า การใช้จ่ายทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงการลงทุนที่ยังไม่มีความชัดเจน 

*** BBLชี้ลดดอกเบี้ยแค่สร้างบรรยากาศ


             นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BBLเปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ลดดอกเบี้ยนั้น จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากหนี้ครัวเรือนต่อประชากรยังอยู่ในระดับที่สูงถึง 85% ของจีดีพี ซึ่งการลดดอกเบี้ยแค่เป็นการสร้างบรรยากาศแต่ไม่ได้กระตุ้นให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอย
             ขณะที่ค่าเงินบาทจะไม่อ่อนค่าเพราะสาเหตุหลักที่ค่าเงินบาทแข็งค่านั้น เกิดจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงทำให้ไทยมีการแลกเงินเพื่อไปซื้อน้ำมันน้อยลง รวมถึงภาคเอกชนยังไม่มั่นใจที่จะมีการลงทุนเพราะภาครัฐยังไม่ได้เริ่มลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
             "การลดดอกเบี้ยที่ 0.25% นั้น ไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นเพียงการสร้างบรรยากาศให้ดูดีขึ้นเท่านั้น เพราะหนี้ครัวเรือนของประชาชนยังอยู่ในระดับที่สูง ค่าเงินบาทยังมีการแข็งค่า ภาคเอกชนยังไม่มั่นใจที่จะมีการลงทุนจากภาครัฐ ยังไม่ได้มีการเดินหน้าลงทุนของภาครัฐ" นายกอบศักดิ์ กล่าว

             นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBLเปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ไม่มีผลอะไรในช่วงระยะสั้น เพราะเหตุการณ์ข้างหน้านั้นยังไม่มีความแน่นอน สหรัฐฯ กำลังพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่หนี้ครัวเรือนของประชาชนอยู่ในระดับสูงทำให้ไม่มีการใช้จ่าย
             "ส่วนตัวมองว่าการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำนั้น เป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเก็งกำไรในสินทรัพย์อื่นๆ มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรที่ผิดพลาดได้ " นายโฆสิต กล่าว

*** ยังเชื่อมั่น ศก.ปีนี้โต 4% 

             นายโฆสิต คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 4% จากปีที่แล้วที่โต 0.7% เนื่องจากเติบโตจากฐานที่ต่ำ และรัฐบาลจะมีการเริ่มลงทุนและใช้จ่ายเงิน ซึ่งมีผลทำให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น สำหรับปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การลงทุนของรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยจะมีการเร่งให้มีการเบิกจ่ายของภาครัฐและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ
             ทั้งนี้ คาดการส่งออกของไทยปีนี้ถือไม่ดีนัก เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศต่างๆยังอ่อนแอ ทำให้ความต้องการใช้สินค้าต่ำ ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าส่งออกลดลง ซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการส่งออกของไทย
             "ถือว่าปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากในการส่งออกของไทย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับตัวให้เข้มแข็งในการพัฒนาสินค้าและขยายตลาดที่มีความต้องการที่ดี"นายโฆสิต กล่าว
             ส่วนการที่รัฐบาลจะมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ส่วนตัวมองว่าภาครัฐยังมีการสื่อสารออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ประชาชนมีความสับสนและวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว และอยากให้รัฐบาลสื่อสารให้ดีกว่านี้
             ขณะที่การเปิดเสรีประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้นั้น เชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะไม่เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เพราะนักลงทุนเหล่านั้น มีทางเลือกที่จะไปลงทุนประเทศอื่น ล่าสุด มีข่าวออกมาว่าซูซูกิจะใช้ประเทศอินโดนีเซียเป็นฐานในผลิตรถจักรยานยนต์

*** ตลาดหุ้นขานรับ ปิดบวก 13 จุด 

             ด้านฝั่งของตลาดทุน วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET)เปิดมาภาคบ่าย ดีดขึ้นทันทีเกือบ 4 จุด ก่อนจะเด้งขึ้นไปสูงสุด 13จุด และปิดตลาดที่ 1543.84 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด  หรือ 0.84%ด้วยมูลค่าการซื้อขาย5.38 หมื่นล้านบาท ตอบรับข่าว กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งถือว่าผิดคาดจากความคาดหวังของตลาดส่วนใหญ่ที่ประเมิน กนง.ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2%




1 ความคิดเห็น:

  1. คุณจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อชำระค่าหรือการเริ่มต้นธุรกิจ? ส่งอีเมล์หาเราตอนนี้ :: reekadorosey07 @
    gmail.com


    เราได้รับการรับรองและได้รับการอนุมัติตามข้อกำหนดรัฐสินเชื่อและเงินให้กู้ยืมและให้กำลังใจและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ราคาถูกมากคือ 1.5% ตอนนี้เราได้เริ่มต้นที่จะนำเสนอเงินให้กู้ยืมปีใหม่กับผู้กู้และจริงจัง ที่เชื่อถือได้เพื่อชำระคืนเงินกู้ของเราในวันที่ครบกำหนด โปรดทราบว่าเราจะต้องยืมอุกอาจที่จะใช้สำหรับเงินให้กู้ยืมนี้ ..



    ขอขอบคุณและขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ส่งอีเมล์หาเราตอนนี้: reekadorosey07 @
    gmail.com ::



    ความนับถือ

    ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา

    ตอบลบ