วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ราคานิวไฮรอบ 10 ปี มาร์เก็ตแคปพุ่ง 3 แสนล้าน

ราคานิวไฮรอบ 10 ปี มาร์เก็ตแคปพุ่ง 3 แสนล้าน
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 01 กันยายน 2557
ผู้เข้าชม : 13 คน




"BGH" อนาคตสดใส ลุ้นกำไรไตรมาส 3/57 โตทุบสถิติสูงสุด พร้อมเล็งซื้อกิจการเพิ่ม ดันราคาหุ้นทะยานนิวไฮรอบ 10 ปี มาร์เก็ตแคปทะลุ 3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3 แสนล้านบาทในช่วง 8 เดือน โบรกฯคาดกำไรปีนี้พุ่ง 7,482 ล้านบาท


บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH มีแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/57 จะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์และยังมีโอกาสเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กรณีทาง BGH เข้าซื้อบริษัท ภูเก็ตอินเตอร์ฮอสปิตอล หรือ PKI จะถือเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 44 โดย PKI ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลในภูเก็ตภายใต้ชื่อโรงพยาบาลสิริโรจน์ มีขนาด 151 เตียง และรองรับผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ประมาณ 400 คนต่อวัน

สำหรับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มองเป็นประโยชน์ต่อ BGH ที่สามารถขยายฐานผู้ป่วยในภาคใต้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในภูเก็ต และยังสามารถส่งต่อผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของโรคไปที่ BGH ภูเก็ตได้ ซึ่ง PKI ได้รับ JCI ซึ่งเป็นมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติก็สูงถึง 55% ในขณะที่ผู้ป่วยในประเทศ 45%

อีกทั้ง นอกจากนโยบายหลักคือการซื้อโรงพยาบาลให้ครบ 50 แห่งภายในสิ้นปี 2558 ทาง BGH ยังรุกในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องการการแพทย์ หรือ Non-Core ด้วยการเข้าซื้อ เซฟดรัก เซ็นเตอร์ (SAVE DRUG) ซึ่งทำธุรกิจจัดจำหน่ายและค้าปลีกสินค้าประเภทยา มีสาขา 107 สาขาทั่วประเทศ โดย SAVE DRUG เป็น Distribution Channel ให้กับโรงงานผลิตยา และผลิตน้ำเกลือ ที่ BGH ถือหุ้นอยู่ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นมีรายได้ประมาณ 700-750 ล้านบาท

โดยประเมินรายได้งวดปี 2557 ไว้ที่ 53,919 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,482 ล้านบาท รวมทั้งปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 2558 เพิ่มขึ้นหลังการซื้อ PKI ซึ่งจะเพิ่มรายได้ประมาณ 1.5% และคาดรายได้ SAVE DRUG ประมาณ 720 ล้านบาท จึงคาดรายได้ปี 2558 ที่ 60,242 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 8,550 ล้านบาท แนะนำ “ทยอยซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 20.70 บาท

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า BGH จะรายงานกำไรหลักทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/57 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากช่วงไฮซีซั่นและการรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาลสนามจันทร์เข้ามา ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยประมาณการเบื้องต้นว่า รายได้กลุ่มการแพทย์จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/57 ส่วนกำไรหลักจะเติบโตถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนและเพิ่มขึ้น 40% เมื่อกับไตรมาส 2/57

ทั้งนี้ รายได้จากกลุ่มโรงพยาบาลสนามจันทร์คิดเป็น 2% ของประมาณการกำไรหลักของฝ่ายวิเคราะห์ในไตรมาส 3/57 ซึ่ง BGH อาจรับรู้กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนตามราคาตลาดจากการเข้าซื้อกลุ่มโรงพยาบาลสนามจันทร์ แต่ฝ่ายวิเคราะห์ยังไม่ได้รวมกำไรในส่วนดังกล่าวเข้ามา กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BGH ที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับนิวไฮในรอบ 10 ปี หลังจากมีกระแสคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/57 จะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์และยังมีโอกาสเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (25-29 ส.ค.) ราคาหุ้น BGH เปิดการซื้อขายอยู่ที่ 18.60 บาท จากนั้นหุ้นได้ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทะลุระดับ 19 บาทในช่วงกลางสัปดาห์ และปรับเพิ่มขึ้นสู่จุดสูงตั้งแต่เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ 19.60 บาท (วันที่ 28 ส.ค.) และล่าสุดงวดวันที่ 29 ส.ค.ปิดการซื้อขายที่ 19.50 บาท

ดังนั้น จากราคาปิดล่าสุดที่ 19.50 บาท จึงส่งผลให้ในปัจจุบัน BGH มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มากถึง 3 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1.3 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2557 ที่ในขณะนั้นบริษัทมีมาร์เก็ตแคปเพียง 1.68 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากราคาหุ้น BGH ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน ได้ส่งผลให้ P/E หุ้นของบริษัทขยับขึ้นมาซื้อขายสูงถึง 46 เท่า และมี P/BV ในระดับเกิน 7 เท่า ส่วนราคาเป้าหมายของ BGH ที่หลายบริษัทหลักทรัพย์ประเมินหุ้น BGH ในช่วงรอบเดือนส.ค. 2557 ได้ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 21 บาท จึงเท่ากับคงเหลืออัพไซด์หุ้นเพียง 7% เท่านั้น

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น