วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บางกอกแลนด์ หรือ BLAND ขายกอง IMPACT REIT กองแรก มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท วันที่ 8-19 กันยายนนี้ พร้อมโรดโชว์ 1 ก.ย.นี้ นำเงินไปขยายอิมแพ็คเฟส 2 และบุ๊คกำไรพิเศษกว่า 3 พันล้านบาท ปรับบุ๊คเป็น 3.25 บาท จากปัจจุบัน 2.32 บาท/หุ้น ด้านกองทุนเทมเพิลตันซื้อบิ๊กล็อต เป้าราคา 2.80 บาท  

บีแลนด์ฟันกำไร3พันล.
ขายREIT2หมื่นล้าน
*ปรับบุ๊คจาก 2.32 เป็น 3.25 บาทต่อหุ้น
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2557
ผู้เข้าชม : 107 คน




บางกอกแลนด์ หรือ BLAND ขายกอง IMPACT REIT กองแรก มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท วันที่ 8-19 กันยายนนี้ พร้อมโรดโชว์ 1 ก.ย.นี้ นำเงินไปขยายอิมแพ็คเฟส 2 และบุ๊คกำไรพิเศษกว่า 3 พันล้านบาท ปรับบุ๊คเป็น 3.25 บาท จากปัจจุบัน 2.32 บาท/หุ้น ด้านกองทุนเทมเพิลตันซื้อบิ๊กล็อต เป้าราคา 2.80 บาท



แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน เผยว่า บมจ.บางกอกแลนด์ หรือ BLAND เตรียมโรดโชว์กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (IMPACT Growth Real Estate Investment Trust) ในวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยมี เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรับประกันจัดจำหน่าย ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ให้กับอาร์เอ็มไอ ผู้ออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท หรือ IMPACT REIT มูลค่า 20,000 ล้านบาท ในราคาหน่วยละ 10 บาท ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนจองซื้อหุ้นไอพีโอได้ระหว่างวันที่ 8-19 กันยายนนี้

ทั้งนี้ ประเมินว่า BLAND จะมีกำไรพิเศษจากตรงนี้ประมาณ 2.8-3.0 พันล้านบาท

บีแลนด์จะขายอิมแพ็ค 4 ให้เป็นสินทรัพย์ของกองทรัสต์ ซึ่งเป็นส่วนที่ตั้งอยู่ในเขตโครงการอิมแพ็คเมืองทองธานี ได้แก่ ศูนย์จัดการแสดงอิมแพ็คอารีน่า (IMPACT Arena), ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติรวมถึงสถานที่สำหรับจัดงานในร่ม (IMPACT Exhibition Center) ที่มีจำนวน 8 อาคาร และห้องประชุม 6 ห้อง, ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม(IMPACT Forum) มีจำนวน 2 อาคาร และอาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ (IMPACT Challenger) มีจำนวน 3 อาคาร ห้องบอลรูม 1 ห้องและห้องประชุม 16 ห้อง

ขณะเดียวกัน BLAND จะเข้าไปถือกอง IMPACT REIT ในสัดส่วน 50% วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท และจะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการขายสินทรัพย์ไปลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้รายได้ในเชิงพาณิชย์ของ BLAND มีการขยายตัวและช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตในระยะยาว ได้แก่ ขยายอิมแพ็คระยะที่สอง ปรับปรุงพื้นที่ Hall 1-8 สร้างโรงแรม IBIS จำนวน 600 ห้อง สร้างส่วนพื้นที่ Retail

นอกจากนี้จะเปิดโครงการศรีนครินทร์ เฟสที่ 1 มูลค่า 2,500 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/57 นี้ พร้อมทั้งเตรียมปรับมูลค่าหุ้นทางบัญชีของบีแลนด์ เป็น 3.25 บาทต่อหุ้น จากปัจจุบัน 2.32 บาท จากการปรับมูลค่าของที่ดินของบริษัททั้งหมด ได้แก่ ที่ดินบริเวณศรีนครินทร์ ที่ดินเมืองทองธานี

ขณะที่บีแลนด์เตรียมซื้อหุ้นคืนเริ่มวันที่ 25 ส.ค. นี้ วงเงิน 3 พันล้านบาท จำนวน 1.2 พันล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 2.50 บาท

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำซื้อ BLAND ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้น และประเมินว่าการให้ข้อมูลเรื่อง REIT กับนักลงทุนจะช่วยเพิ่มมุมมองที่ดีรวมทั้งให้เห็นมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ที่ BLAND มีอยู่ว่ามีความโดดเด่นเพียงใด จากสมมติฐานการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี P/BV เนื่องจาก BLAND มีสินทรัพย์ที่โดดเด่นและการทำ REIT จะทำให้ BLAND มีสถานะเป็น Growth Stock มากขึ้น เราให้ระดับราคาเป้าหมาย P/BV เท่ากับ 1.2 เท่า ราคาเป้าหมายเท่ากับ 2.80 บาท/หุ้น

ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ BLAND ระบุว่าตลาดฯให้ความสนใจประเด็นการจัดตั้งหน่วยลงทุนกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท ของ BLAND ให้ราคาพื้นฐาน 2.83 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/BV ปี 2558-2559 ที่ 1.2 เท่า ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่ม 30%

ขณะที่วานนี้มีการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ หรือ บิ๊กล็อต หุ้น BLAND ที่ราคาเฉลี่ย 2.16 บาท จำนวน 20 ล้านหุ้น มูลค่า 43 ล้านบาท ก่อนหน้านี้บริหารกองทุนแฟรงคลิน เทมเพิลตัน ของนายมาร์ค โมเบียส ได้เข้าพบกับผู้บริหารของบมจ.บางกอกแลนด์ หรือ BLAND เพื่อขอซื้อหุ้นในสัดส่วนประมาณ 5-10% ของหุ้นทั้งหมด โดยจะเป็นการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่
(BIG LOT) ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้นายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนแฟรงคลิน เทมเพิลตัน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ มองว่า BLAND เป็นหุ้น Bullish มีอนาคตที่ดี โดยเฉพาะธุรกิจอาคารจัดแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่กำลังจะออก กองทรัสต์ IMPACT Growth Real Estate Investment Trust มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และยังมีแผนนำรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้ามาในโครงการ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเก็บหุ้นบีแลนด์ ได้แก่ นายวัชระ แก้วสว่าง (เสี่ยป๋อง) เข้ามาถือหุ้นจำนวน 220 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.07% นายวิชัย วชิรพงศ์ (เสี่ยยักษ์) เข้ามาถือหุ้นจำนวน 142 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.69% และนายอานนท์ชัย วีระประวัติ (เสี่ยกู๊ด) นักลงทุนรายใหญ่เข้ามาถือหุ้นจำนวน 120 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.58%

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น