วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

“ประสงค์” สั่ง AOT ชะลอแผนพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ดันสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือวงเงิน 24,000 ล้านบาทเสียบแทน อ้างคตร.ยังตรวจข้อมูลไม่เสร็จ ขณะ “เมฆินทร์” ยื่นใบลาออกแล้ว มีผล 16 ก.ย. 57

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: 'ประสงค์'ชะลอสุวรรณภูมิเฟส 2


บริษัทจดทะเบียน วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2557
ผู้เข้าชม : 8 คน
“ประสงค์” สั่ง AOT ชะลอแผนพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ดันสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือวงเงิน 24,000 ล้านบาทเสียบแทน อ้างคตร.ยังตรวจข้อมูลไม่เสร็จ ขณะ “เมฆินทร์” ยื่นใบลาออกแล้ว มีผล 16 ก.ย. 57


นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดวานนี้ (21 ส.ค.) ได้มีมติเห็นชอบให้ AOT ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีจุดจอดเครื่องบิน 10 หลุมจอด พร้อมงานก่อสร้างอาคารจอดรถ ถนน สาธารณูปโภค วงเงิน 13,000 ล้านบาท และระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Mono Rail) วงเงิน 7,500 ล้านบาท แต่รวมแล้วจะใช้เงินไม่เกิน 24,000 ล้านบาท เพื่อให้บริการผู้โดยสาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับได้ที่ 20 ล้านคนต่อปี

ทั้งนี้เนื่องจากบอร์ดเห็นว่าต้องชะลอโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 62,000 ล้านบาทออกไปก่อน เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และมีความเป็นไปได้ว่าต้องปรับร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ซึ่งต้องใช้เวลา โดยคาดว่าน่าจะเริ่มโครงการได้ช่วงปี 2560 ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารของ AOT มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารประมาณ 50 ล้านคนต่อปี แต่สามารถรองรับได้ที่ 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งในปี 2560 ปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มเป็น 60 ล้านคนต่อปี

ด้านท่าอากาศยานดอนเมืองที่เบื้องต้นเคยประเมินว่า จะมาช่วยระบายความแออัดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็มีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารอย่างรวดเร็วเช่นกัน เฉลี่ยที่ 30% ต่อปี อีกทั้งช่วงปลายปี 2558 จะเริ่มเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารเติบโตแบบก้าวกระโดดยิ่งขึ้น ดังนั้นบอร์ดจึงเห็นว่า AOT ควรดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปก่อน เพื่อให้ทันกับการเติบโต โดยงานดังกล่าวได้วางแผนไว้ตั้งแต่นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานบอร์ด AOT จึงมีแบบอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องปรับปรุงเล็กน้อย รวมทั้งตรวจสอบเรื่องการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย

นายประสงค์ กล่าวต่อว่า หลังจากบอร์ดพิจารณารายละเอียดโครงการแล้วเสร็จก็จะนำเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอที่ประชุมครม.ได้ภายในต้นปี 2558 และเปิดประมูลได้ในปีเดียวกัน งานก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี โดย AOT ไม่จำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่ม เพราะขณะนี้ถือว่ามีสภาพคล่องเพียงพอ โดยมีเงินสะสมอยู่ 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้ในการพัฒนาท่าอากาศดอนเมือง ภูเก็ตและสุวรรณภูมิ อีกทั้งสามารถนำรายได้มาบริหารจัดการจ่ายค่าก่อสร้างได้

“ปีนี้เราคาดว่าจะมีกำไรไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องหาเงินกู้เพิ่ม เพราะเรามีเงินเตรียมไว้แล้ว 60,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาภูเก็ต ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ดูจากสภาพคล่องเราพร้อมพอ ซึ่งนี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งด้วย เพราะหากเราลงทุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 เราจะเริ่มขาดสภาพคล่องปี 2559-2560 และต้องหาแหล่งเงินกู้เพิ่ม” นายประสงค์ กล่าว

นายประสงค์ กล่าวต่อว่า บอร์ดยังได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหาร AOT เร่งประสานกับกระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือ เพื่อดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 โดย AOT จะเป็นผู้ลงทุนเบื้องต้นวงเงินอยู่ที่หลักร้อยล้านบาท โดยต้องปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ระบบสัญญาณเพิ่มเติม ตั้งเป้าว่าจะใช้รองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยน่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 2.5 ล้านคนต่อปี

นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วานนี้นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ต่อที่ประชุมบอร์ดด้วย โดยมีผลวันที่ 16 กันยายน 2557 และบอร์ดได้แต่งตั้งให้นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน กรรมการ AOT เป็นรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมทั้งสั่งการให้ AOT เร่งรัดกระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น