วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

อดทนแล้วจะดีเอง

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: อดทนแล้วจะดีเอง

คอลัมน์ วันอังคารที่ 07 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 10 คน
ประเทศไทยเราทุกวันนี้ เชื่อตามคำเพลงยาวพยากรณ์ยุคปลายกรุงศรีอยุธยาแล้วว่า “กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันลอยนั้น จะถอยจม”

กระเบื้องซึ่งหนัก มันจะลอยได้อย่างไร และผลน้ำเต้าซึ่งเบาและกลวง จะกลับไปจมได้อย่างไรเล่า ถ้าไม่ใช่เกิดจากเหตุอาเพศ!!!

เดี๋ยวนี้ทุกอย่างกลายเป็นความวิปริตแปรผันไปเสียสิ้นแล้ว

ความผิดกลายเป็นความถูก ความถูกกลายเป็นความผิด ความชั่วกลายเป็นความดี ความดีกลายเป็นความชั่ว และกฎหมู่ก็อยู่เหนือกว่ากฎหมาย

สุดๆ ความวิปริตแล้วล่ะครับ บ้านเมืองเราทุกวันนี้

ม็อบกปปส.ละเมิดกฎหมายมาทุกด่าน เป็นกบฏก็ไม่โดนจับ ปิดถนน ยึดสถานที่ราชการ ก็ได้รับการผ่อนปรนว่าเป็นการใช้สิทธิโดยสงบสันติ ปราศจากอาวุธ เป็นขบวนการของคนดี

ต้องการเรียกร้องเอานายกฯคนกลาง พร้อมสภาคนดีที่มาจากการแต่งตั้ง อันเป็นการผิดรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง ศาลรัฐธรรมนูญท่านก็บอกว่าเป็นการใช้สิทธิพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย

ตุลาการภิวัตน์ และองค์กรอิสระทั้งปวง พร้อมใช้อำนาจเข้ามาปกป้องคุ้มครองให้ และพร้อมจะใช้อำนาจเป็น “ตัวช่วย” ทำลายฝ่ายตรงข้ามให้ทุกทาง

บ้านเมืองไทยถอยหลังเข้าคลองมา 6 ปีแล้ว นับแต่การปฏิวัติของทหารปี 2549 เป็นต้นมา

“สภาคนกลาง” ที่มาจากทุกสาขาอาชีพ นั่นคือสนช.ก็พิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่สภาคนดีจริง แต่เป็นสภาที่ดีแต่โวหาร การกระทำกลับเป็นตรงข้ามมากกว่า

“รัฐบาลคนดี” ก็พิสูจน์มาแล้วจาก “รัฐบาลขิงแก่” นั่นปะไร บางรายยังมีเรื่องติฉินนินทาเรื่องคอร์รัปชั่นซะด้วย

รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ช่วยร่างกันมาหลังการปฏิวัติ ก็ไม่ใช่พวกตัวเองที่กำลังดิ้นร้องขอการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งดอกหรือ

กีดกันฝ่ายตรงข้ามทุกวิถีทาง และก็เอื้ออำนวยกฎกติกาให้พวกตัวเองได้ชัยชนะอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่พอไม่ชนะ ก็ประกาศจะทุบทิ้งกฎกติกาที่พวกตัวเองร่างขึ้นมา

อย่างนี้ก็มีด้วย!

ที่จริงแล้ว รากเหง้าแห่งวิกฤตทุกวันนี้ ก็เกิดจาก “คนขี้แพ้” ที่สู้ในระบบไม่ได้นั่นแหละ จึงคิดค้นกลเม็ดเด็ดพรายขึ้นมาสู้นอกระบบ และไม่เอากฎกติกา โดยมีอำนาจนอกระบบเป็นตัวช่วยค้ำจุนให้ทุกอย่าง

การชัตดาวน์ หรือปิดเมืองหลวงในวันที่ 13 ม.ค. 57 เจ้าหน้าที่รัฐ คงไปใช้ความรุนแรงยับยั้งอะไรมิได้หรอก เพราะเป็นม็อบมีเส้น ใหญ่โตซะเหลือเกิน

คงต้องจำยอมให้ประเทศชาติเสียหายยับเยินต่อหน้าต่อตาไป

คิดในอีกแง่มุมหนึ่ง ถ้าอดทนให้ม็อบปิดเมืองหลวงไปสักเดือน-สองเดือนหรือตลอดไปก็คงจะดีเหมือนกัน

คนไทยทุกคนจะได้เห็นสัจธรรมเรื่องการแช่แข็งประเทศอย่างเป็นรูปธรรมสักที หูตาจะได้สว่างขึ้นเสียบ้าง รวมทั้งทหารจะเข้ามาปฏิวัติก็อย่าห้าม

ท่องคาถาอดทนไว้ แล้วจะดีเอง ทนไม่ไหวกับเหตุการณ์เฉพาะหน้า ก็ต้องพึ่งคำหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุว่า “ตถตา” มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น