วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

MTLSรายได้โตกระฉูด70%

MTLSรายได้โตกระฉูด70%

2015-10-01 
เมืองไทย ลิสซิ่ง หรือ MTLS โชว์กำไรไตรมาส 3 นิวไฮ รายได้โตกว่า 70% จากปีก่อน ยอดปล่อยสินเชื่อรถยนต์ จักรยานยนต์ทะลัก โบรกฯ คาดกำไรสุทธิ Q3 มากกว่า 200 ล้านบาท แนะนำซื้อเป้าหมาย 23.70 บาท

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรม การบริหาร บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง หรือ MTLS เผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 3 จะออกมาดีเกินคาด โดยเฉพาะรายได้จะเติบโตมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2
“ผลประกอบการของเราทำนิวไฮมาโดยตลอด หลังจากที่บริษัทขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อเติบโตมากกว่าเป้าที่วางไว้” นายชูชาติ กล่าว
นายชูชาติ กล่าวอีกว่า ยอดปล่อยสินเชื่อในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปีหน้าตั้งไว้ 2.8 หมื่นล้านบาท กำไรปีนี้คาดว่าจะโตมากกว่า 55% ขณะที่ตัวเลขเอ็นพีแอลของบริษัทอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.1-1.2%
สำหรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อปัจจุบันเป็นสินเชื่อรถยนต์ประมาณ 30% สินเชื่อรถจักรยานยนต์ 60% และที่เหลือเป็นนาโนไฟแนนซ์และสินเชื่อที่ดินกว่า 10% โดยเฉพาะสินเชื่อรถจักรยานยนต์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านการขยายสาขาของ MTLS ปีนี้จะมีทั้งสิ้น 900 สาขา และในปีหน้าตั้งเป้าที่เปิดใหม่อีก 430 สาขา รวมเป็น 1,330 สาขา ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทไปจนถึงปี 2560 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 50%
นักวิเคราะห์ คาดว่า ผลประกอบการของ MTLS ในไตรมาสที่ 3 จะอยู่ที่ประมาณกว่า 200 ล้านบาท และกำไรสุทธิปีนี้กำไรกว่า 800 ล้านบาท  ซึ่งจะส่งผลให้พี/อีของบริษัทลดลงจากปัจจุบัน 50 เท่า เหลือ 35-37 เท่าในปีหน้า
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒน แนะนำ "ซื้อ" เมืองไทย ลิสซิ่ง  ราคาเป้าหมาย 23.70 บาทต่อหุ้น พร้อมปรับคาดการณ์กำไรสุทธิ MTLS ขึ้น เนื่องจากการเติบโตของสาขาที่ดีกว่าคาดทำให้ด้านรายได้เพิ่มขึ้นกว่าคาดการณ์เดิม และ NPL ที่ต่ำกว่าคาดทำให้การตั้งสำรองต่ำกว่าคาด การเติบโตของยอดลูกหนี้คงค้างที่โดดเด่นช่วง FY15-17F ถึง 35% (MTLS มีหนี้เสียต่ำ และคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อแข็งแกร่ง) คาดกำไรสุทธิโต FY15-17F 41% CAGR
คุณภาพพอร์ตสินเชื่อยังแข็งแกร่ง แม้สินเชื่อจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด MTLS ยังคงจุดเด่นด้านการบริหารลูกหนี้ ด้วยความรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อ ประกอบกับประสบการณ์ที่มีมายาวนานในธุรกิจนี้ทำให้การบริหารและติดตามหนี้ของบริษัทมีคุณภาพ สะท้อนจาก NPL ratio ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากใน 4Q14 ที่ 1.5% ลดลงมาเหลือเพียง 1.1% ใน 2Q15 และการมี Coverage ratio ยังอยู่ในระดับสูงมากที่ 286% ณ สิ้นไตรมาส 2 ซึ่งถือเป็นระดับที่ปลอดภัยมาก สูงกว่ากลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ Coverage ratio จะอยู่ราว 130-140%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น