วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

JASยื่นฟ้องกลับTT&T เรียกค่าเสียหาย6พันล. :พลิกปูม “กิตติพัฒน์” เคยนั่งบอร์ดบริษัทฉาวเพียบ!

JASยื่นฟ้องกลับTT&T
เรียกค่าเสียหาย6พันล.
:พลิกปูม “กิตติพัฒน์” เคยนั่งบอร์ดบริษัทฉาวเพียบ!

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 09 ตุลาคม 2557 
ผู้เข้าชม : 31 คน 

JAS ฟ้องกลับ “ทีทีแอนด์ที” รวมพวก 13 ราย เรียกร้องค่าเสียหาย 6,350 ล้านบาท หลังร่วมกันกระทำละเมิดต่อ ACU ให้ได้รับความเสียหาย ทำให้การจัดตั้ง “อินฟราฯฟันด์” ต้องสะดุด ศาลนัดชี้ชะตา 9 ก.พ. 58 ย้อนรอยประวัติ “กิตติพัฒน์ อินทรเกษตร” เคยนั่งบอร์ดและผู้บริหารบริษัทอื้อฉาว ทั้ง SINGHA-POWER และ PICNI โบรกฯประเมินไตรมาส 3/57 กำไร 900 ล้านบาท ให้ราคาเหมาะสม 8.15 บาท
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 57 ที่ผ่านมา บริษัท อคิวเมนท์ จำกัด หรือ ACU (โดย JAS ถือหุ้น 100%) ได้ยื่นฟ้องบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T รวมทั้งบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นจำเลยรวม 13 ราย ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี (คดีดำที่ พ.1625/2557) เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 6,350 ล้านบาท
เนื่องจากการที่จำเลยทั้ง 13 รายร่วมกันกระทำละเมิดต่อ ACU โดยการนำบันทึกข้อตกลงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTT BB ลงวันที่ 13 ก.ย. 49 ระหว่าง TT&T กับ ACU ที่จำเลยทั้งหมดรู้ดีว่าสิ้นผลบังคับไปนานแล้วมาฟ้อง  ACU ให้ทำการโอนขายหุ้น TTT BB ที่ ACU ถืออยู่ใน TTT BB ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TT&T หรือผู้สืบสิทธิเป็นจำนวน 876.9 ล้านหุ้นเศษ (คดีดำที่ พ.882/2557)
โดยเป็นการเจาะจงฟ้องคดีและร้องขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างที่ TTT BB (ซึ่งเป็นบริษัทที่มี ACU เป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมด) กำลังดำเนินการยื่นเรื่องขอจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่เริ่มมาด้วยดีตั้งแต่เดือนก.พ. 57 จนใกล้จะเสร็จสิ้นกระบวนการ
ทั้งนี้การฟ้องคดีดังกล่าวเป็นการที่จำเลยทั้ง 13 รายร่วมกันและแบ่งแยกหน้าที่กันดำเนินการโดยยอมเสียค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นจำนวนมากในการฟ้องคดีทั้งๆ ที่ TT&T จะไม่ได้รับประโยชน์ใดเป็นส่วนตนจากการฟ้องคดีเลยแต่ต้องการใช้เหตุที่มีการฟ้องคดีและการร้องขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์นั้นมาทำให้การจัดตั้งกองทุนรวมฯของ TTT BB ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตทำให้ ACU ได้รับความเสียหาย
โดยได้เรียกร้องค่าเสียหายคดีนี้เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 6,350 ล้านบาท โดย ACU ได้ขอให้ศาลกำหนดค่าเสียหายเอากับจำเลยแต่ละรายตามความหนักเบาของพฤติการณ์ในการทำละเมิดโดยขอให้ TT&T, บริษัท พีซีแอล แพลนเนอร์ จำกัด, นายชาย วัฒนสุวรรณ, นายชลิต สถิตทอง และนายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร (คือจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5) ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 2,500 ล้านบาท ขอให้นายเพิ่มศักดิ์ เดชะไกศยะ, นายพินิจ อาภานันทิกุล, นายบุญเสริม แสงทอง, นายชำนาญกิจสมมารถ และนายตริณญ์  อินทรโอภาส  (คือ จำเลยที่ 6 ถึงที่ 10) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,200 ล้านบาท
พร้อมขอให้บริษัท อยุธยา ลิมิเต็ด, บริษัท อันดามันซี เมเนจเม้นท์ ลิมิเต็ดและนายไลชุง แมน (คือ จำเลยที่ 11 ถึงที่ 13) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,650 ล้านบาท ทั้งนี้ศาลได้มีคำสั่งให้รับฟ้องของ ACU ไว้แล้ว เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 57 โดยได้กำหนดนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมไว้ในวันที่ 9 ก.พ. 58 เวลา 09.00 น.ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของศาลกำลังส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้ง 13 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบ พบว่า มีผู้ถูกฟ้องร้องบางราย โดยเฉพาะ “นายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร” มีประวัติเคยนั่งเป็นกรรมการในหลายบริษัท ที่เคยมีเรื่องอื้อฉาว อาทิ กรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด(มหาชน) หรือ SINGHA , รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์–พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปิกนิก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI โดยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าว เคยมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการปั่นหุ้นมาแล้วทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ TT&T โดยบริษัท พีซีแอล แพลนเนอร์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ได้ยื่นฟ้อง ACU ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.882/2557 ขอให้ศาลมีคำพิพากษาบังคับให้ ACU โอนขายหุ้นของ TTT BB ให้แก่ผู้ถือหุ้น TT&T พร้อมยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณา ขอให้ศาลมีคำสั่งห้าม ACU มิให้จำหน่ายจ่ายโอน จำนำ หรือก่อให้เกิดภาระผูกพันใดๆ ในหุ้น TTT BB รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ ACU ในฐานะผู้ถือหุ้น  TTT BB มีมติใดๆ เกี่ยวกับการจำหน่าย จ่ายโอน หรือก่อให้เกิดภาระผูกพันในทรัพย์สิน TTT BB ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 57 ศาลได้มีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ดังกล่าวไปแล้ว
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ประเมินว่า ผลการดำเนินงานจากธุรกิจปกติในช่วงครึ่งหลังปี 2557 ของ JAS จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากครึ่งปีแรก ทำให้ประมาณการปีนี้ดีกว่าเดิม 7% และมีแนวโน้มปรับประมาณการหลังบริษัทประกาศงบไตรมาส 3/57 ราวเดือนพ.ย.นี้
ส่วนไตรมาส 3/57 ธุรกิจปกติจะมีกำไร 893 ล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาส 2/57 และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาส 3/56 ทำสถิติสูงสุดใหม่ (ไม่รวมผลของอัตราแลกเปลี่ยน) จากปัจจัยบวกจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาส 3/56 และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 2/57 เป็น 1.6 ล้านราย ในจำนวนนี้คาดว่าลูกค้า FTTx จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 2.3% จาก 2% ในไตรมาส 2/57 และ ARPU ใกล้เคียงไตรมาส 2/57 ช่วยหนุนรายได้รวมเพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาส 3/56 และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาส 2/57
นอกจากนี้การประหยัดต้นทุนจากฐานลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ EBITDA เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาส 3/56 และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาส 2/57 เป็น 1,704 ล้านบาท และมี EBITDA margin อยู่ที่ 53.1% แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 8.15 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น