ระวัง20หุ้นปั่นโผล่สลอน
เลี่ยงลงทุนเสี่ยงขาดทุน

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2557 
ผู้เข้าชม : 16 คน 

เปิดโผ 20 หุ้นปั่น เล่นเก็งกำไรไม่สนใจพื้นฐาน วอร์แรนต์ ACD-NIPPON เดือนเดียวพุ่งเกิน 100% กลุ่ม mai หุ้นแม่-ลูก DIMET บวกแรงทะลัก วงการเงินเตือน “เลี่ยงลงทุน” ชี้มีความเสี่ยงเจ็บตัวสูง หากราคาร่วงดิ่งเหว

จากการสำรวจกลุ่มหุ้นขนาดเล็กและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะใช้ซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบผิดปกติสวนทิศทางภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (15 ก.ย.-14 ต.ค.) พบว่ามีทั้งส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

โดยส่วนของ SET ได้แก่ 1.วอร์แรนต์บริษัท เอเชีย คอร์ปอเรท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 2 หรือ ACD-W2 ปิดล่าสุด 2.32 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 262.5% เมื่อเทียบกับราคาปิดงวด 15 ก.ย. ที่ระดับ 0.64 บาท ทั้งนี้ ACD-W2 มีราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ 1 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ

2.วอร์แรนต์บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NIPPON-W ปิดล่าสุด 1.60 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 122.2% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า 0.72 บาท มีราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญที่ระดับ 1 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ

3.บริษัท เอเชีย คอร์ปอเรท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ACD ทำราคาปิดที่ 3.32 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 115.5% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าระดับ 1.54 บาท 4.บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH ล่าสุดปิดที่ 1.30 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 96.9% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า 0.66 บาท

5.วอร์แรนต์บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 1 หรือ EVER-W1 ล่าสุดปิดที่ 1.92 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 86.4% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า 1.03 บาท มีราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 1 บาท ในอัตรา 1 วร์อแรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ 6.บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ล่าสุดปิดที่ 2.18 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 86.3% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า 1.17 บาท

7.บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ML ล่าสุดปิดที่ 2.42 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 77.9% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าที่ 1.36 บาท 8.วอร์แรนต์บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)  ชุดที่ 2 หรือ AQ-W2 ล่าสุดปิดที่ 0.16 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 77.7% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าที่ 0.09 บาท กำหนดราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญที่ 1.09 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 0.918 หุ้นสามัญ

9.บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ล่าสุดปิดที่ 1.14 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 70.1% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าที่ 0.67 บาท 10.บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NIPPON ล่าสุดปิดที่ 2.68 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 49.7% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าที่ 1.79 บาท

ด้านกลุ่มหุ้นใน mai ได้แก่ 1.วอร์แรนต์บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 1 หรือ DIMET-W1 ล่าสุดปิดที่ 17.30 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 188.3% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้า 6 บาท มีราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญที่ 0.50 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ

2.บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ล่าสุดปิดที่ 19 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 96.8% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้า 9.65 บาท 3.วอร์แรนต์บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 1 หรือ BSM-W1 ล่าสุดปิดที่ 4.10 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 70.8% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า 2.40 บาท กำหนดราคาใช้สิทธิ 0.10 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 5 หุ้นสามัญ

4.วอร์แรนต์บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 1 หรือ VTE-W1 ล่าสุดปิดที่ 1.41 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าที่ 0.94 บาท มีราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญ 2.50 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ  5.วอร์แรนต์บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 1 หรือ COLOR-W1 ล่าสุดปิดที่ 0.76 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้าที่ 0.51 บาท มีราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญ 3.10 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 1.2906 หุ้นสามัญ

6.วอร์แรนต์บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 2 หรือ TIES-W2 ล่าสุดปิดที่ 0.35 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 45.8% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้า 0.24 บาท มีราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญที่ 1 บาท ในอัตรา 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ

7.บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES ล่าสุดปิดที่ 1.04 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้าที่ 0.80 บาท 8.บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG ปิดล่าสุดที่ 1.50 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 37.6% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้า 1.09 บาท

9.บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ล่าสุดปิดที่ 3.58 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 33.5% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้า 2.68 บาท 10.บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ปิดล่าสุดที่ 2.48 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับราคาปิดก่อนหน้าที่ 1.95 บาท

ด้านแหล่งข่าวจากวงการนักวิเคราะห์ประเมินว่า กรณีกลุ่มหุ้นเก็งกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เป็นเพราะภาพรวมของตลาดหุ้นไทยและกลุ่มหุ้นพื้นฐานยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น ดังนั้น จึงเกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาเล่นกลุ่มหุ้นขนาดเล็กและวอร์แรนต์แทน

โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กที่มีวอร์แรนต์เทรดควบคู่ในตลาด ราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงเร็วเป็นพิเศษ เนื่องจากมีส่วนต่างของหุ้นแม่และหุ้นลูก (วอร์แรนต์) เข้ามาช่วยไล่ราคา อย่างไรก็ตาม หุ้นเก็งกำไรมักจะเป็นบริษัทรายเดิม ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเคยปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบไร้สาเหตุ นอกจากนี้ มีบางบริษัทมีการปั่นกระแสข่าวมีแผนปรับเปลี่ยนไปลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อดันราคาหุ้น

ดังนั้น จึงยังคงเตือนให้นักลงทุน “หลีกเลี่ยง” ที่จะเข้าซื้อกลุ่มหุ้นเก็งกำไรดังกล่าว เพราะมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูง เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ที่สำคัญช่วงขาลงราคายังปรับลดหนัก อีกทั้งส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานยังขาดทุน และเป็นกลุ่มหุ้นที่มีสิทธิติดเกณฑ์ Cash Balance ได้