ปฏิรูปข้างแคร่
คอลัมน์ วันพุธที่ 08 ตุลาคม 2557ผู้เข้าชม : 6 คน
สถานะ “สมดุล” ที่ คสช.พยายามรักษามา 4 เดือนกำลังสั่นคลอน เมื่อ ป.ป.ช.ดึงดันยื่นถอดถอนอดีต ส.ส. ส.ว.ฐานแก้ไขรัฐธรรมนูญให้วุฒิสภามาจากเลือกตั้ง ดูอาการประธาน พรเพชร วิชิตชลชัย เห็นชัดว่าลำบากใจ ขณะพวกนกหวีดและ 40 ส.ว.ในอดีตรุกไล่
จุดยืนและทัศนะ คสช.อันที่จริงก็ตรงข้ามกับรัฐบาลเพื่อไทย เอียงไปทาง กปปส.เสียมากกว่า แต่บทเรียนจากรัฐประหาร 49 ที่เสียของเพราะเอียงกะเท่เร่ ประกอบกับพฤติกรรม “ม็อบหัวกรวย” ที่คนทั่วไปเหลือระอา ทำให้ คสช.ซึ่งอ้างเหตุรัฐประหารเพื่อรักษาความสงบ ต้องประกาศ “เป็นกลาง” จัดการเฉพาะมวลชนเสื้อแดง นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย แต่ไม่ไล่ล่านักการเมืองเพื่อไทยกับตระกูลชินวัตร
แต่ปมที่ตุลาการภิวัตน์ผูกไว้ก็ย้อนกลับ ให้ สนช.ที่มาจากทหารร่วมครึ่งต้องตัดสินใจ ว่ามีอำนาจถอดถอนไหม ถ้ามีจะถอดถอนไหม การถอดถอนต้องใช้ 3 ใน 5 ถ้าทหารไม่ยกมือก็ถอดไม่ได้ แล้วจะยกมือเข้าไปยังไง ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญหาว่า 308 ส.ส. ส.ว.มีความผิดตามมาตรา 68 “เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข... หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ”
ถ้ายกมือคงได้หัวร่อกลิ้งไปทั้งโลก แต่ถ้าไม่ยกมือ เสียงนกหวีดปี๊ดๆ ก็จะก่นด่าว่าใบสั่ง คสช.ช่วย “อีปู” ที่เข้าคิวรอถอดถอนจำนำข้าว มองทางไหนก็เผือกเผาทั้งขึ้นทั้งล่อง
ปัญหาย้อนแย้งระหว่าง คสช.กับ กปปส.และ พธม.จะเป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทง คสช.ตลอดไป คสช.พยายามไม่ให้บทบาทพวกแกนนำ แต่จะหนีไปทางไหนในเมื่อสังคมแบ่ง 2 ขั้ว ประกอบกับทัศนะที่ใกล้เคียงกัน นักคิดนักวิชาการที่ คสช.เอามาใช้ก็ไม่พ้นพวกอยู่ด้านข้างด้านหลังเวทีนกหวีด สมัคร สปช.ก็เหมือนกัน ผู้ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยโดนเรียกรายงานตัวระนาว แล้วใครจะเข้ามากลืนน้ำลาย “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” กับท่าน เอวังจึงมีแต่ทหาร ข้าราชการ กับพวก พธม.กปปส. ซึ่งนับได้มากกว่า 70 คน
นี่ผมไม่ได้นับเอง แต่สุริยะใส กตะศิลา บอกว่า “สปช.มากกว่า 70 คน มีความเป็นตัวของตัวเองและทำงานเป็น” ใครที่ยะใสชม ย่อมแปลว่าพวกเดียวกัน
ทัศนะ คสช.กับ กปปส.พธม.ห่างไกลกันไหม บางเรื่องใกล้กัน เช่นการเมืองการปกครองที่ไม่เอาเลือกตั้ง แต่ไม่เอาเลือกตั้งแล้วใครมีอำนาจ อันนี้เรื่องใหญ่ เพราะ กปปส.ต้องการให้เลือกตั้งแบบ “ไม่ซื้อเสียง” แปลว่ากำจัดคู่แข่งให้หมดเพื่อให้ประชาธิปัตย์ชนะ ขณะที่ คสช.ต้องการให้กุมอำนาจโดยรัฐราชการและเทคโนแครต
พธม.ไปอีกทาง พวกนี้ตกอยู่ใต้อิทธิพลความคิดแบบ NGO อนาคิสต์ ปลุกเศรษฐกิจชาตินิยมและสังคมนิยมสุดโต่ง โดยอ้างผลประโยชน์ประชาชน ขัดแย้งทั้ง “ทักษิโณมิคส์” และเทคโนแครตอย่างหม่อมอุ๋ย ปิยสวัสดิ์ ในแนวทางพัฒนาประเทศ ซึ่งถ้าใครเห็นต่างพวกนี้ก็จะชี้หน้าว่าโกง หรือรับตังค์
ตัวอย่างชวนหัวคือเสวนาปฏิรูปพลังงาน ซึ่งด่ากันเละ กระทั่งซูเปอร์ฮีโร่อย่างพุทธอิสระยังเอาตัวไม่รอด
คสช.ตั้ง สปช.ปฏิรูปพลังงาน จำต้องเอารสนา โตสิตระกูล เข้าไปประจันหน้ากับเหล่าผู้เชี่ยวชาญ อดีตผู้บริหาร ปตท.และกระทรวงพลังงาน รวมทั้งน้องชายวิษณุ เครืองาม ถ้าไม่ตั้งก็คงโดนเละตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แต่ตั้งไปหัวเดียวกระเทียมลีบอย่าคิดว่าไม่มีพิษภัย เพราะข้างหลังมีมวลชนกลุ่มใหญ่ที่เคลื่อนไหวมานานจนฝังหัว
นี่ยังแค่ด้านเดียวนะครับ ปฏิรูปมี 11 ด้าน แม้บางด้านไม่ร้อนแรงเท่า แต่มั่นใจว่าจะได้ยืนบนภูดูไปหัวเราะไป
ใบตองแห้ง
7 ต.ค. 57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น