BTSผนึกพันธมิตรSIRI
ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์อสังหา
:โชว์จุดขาย “ทำเลทอง”-ภายใต้แบรนด์ “แสนสิริ”
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2557 ผู้เข้าชม : 10 คน
“บีทีเอส” จับมือ “แสนสิริ” ลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์ “แสนสิริ” ผสานจุดเด่นระหว่างบีทีเอส เงินลงทุนและมีที่ดินทำเลทองมากมายทั้งกทม.และต่างจังหวัด ส่วน SIRI จุดแข็งมีแบรนด์แข็งแกร่งและติดตลาดอยู่แล้ว เชื่อดีลนี้ “วิน-วิน” ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า ภายในเร็วๆ นี้ บริษัทจะได้ข้อสรุปกับพันธมิตรถึงความร่วมมือกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทเจรจากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายรายล้วนเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หนึ่งในนั้นคือบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ที่มีโอกาสเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ BTS เพราะถือเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่
โดย BTS ต้องการร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เพื่อเข้ามาช่วยให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้น โดยบริษัทมีเงินทุนมีที่ดินอยู่แล้ว ปัจจุบัน BTS มีที่ดินเปล่าเกือบ 400 ไร่ โครงการธนาซิตี้และมีที่ดินบริเวณถนนพหลโยธินบางส่วนจากที่มีทั้งหมดประมาณ 16-17 ไร่ ส่วนกรณีนายคีรี กาญจนพาสน์ ผู้บริหาร BTS เข้าถือหุ้น SIRI สัดส่วน 0.6% เป็นการถือหุ้นส่วนตัว จึงไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรกับบริษัท
ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินทำเลทองอยู่ในมือเป็นจำนวนมากและเป็นที่ดินติดกับสถานีรถไฟฟ้าหลายแห่ง เบื้องต้นจึงมีแผนเริ่มเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ บนที่ดินในย่านพญาไท โดยที่ดินย่านพญาไทถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เพราะติดกับการให้บริการขนส่งมวลชนของรถไฟฟ้าบีทีเอสและแอร์พอร์ตลิงค์ อีกทั้งอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ามาเพิ่มเติม ดังนั้น ส่งผลให้โครงการในย่านพญาไท มีระบบขนส่งมวลชนรองรับมากถึง 3 ระบบ คาดโครงการจะเริ่มเปิดตัวได้ช่วงต้นปี 2558
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ SIRI เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา SIRI และ BTS มีการพูดคุยถึงโอกาสทำธุรกิจหรือพัฒนาโครงการร่วมกันมานานแล้ว แต่กระบวนการทั้งหมดเป็นเพียงขั้นตอนการหารือเท่านั้น จึงยังไม่สามารถกำหนดข้อสรุปของช่วงเวลาจะออกมาชัดเจนเมื่อใด
แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า รูปแบบความร่วมมือระหว่างบริษัท บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เป็นการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นหรือแลกหุ้นกันแต่อย่างใด เบื้องต้นเป็นการร่วมทุนเฉพาะโครงการ โดยพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ “แสนสิริ” ที่มีจุดแข็งและติดตลาดอยู่แล้ว อีกทั้งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมายาวนาน
โดย BTS มีเงินลงทุนและที่ดินเปล่าตามแนวรถไฟฟ้าจำนวนมาก ถือเป็นที่ดินที่มีศักยภาพเพื่อการพัฒนาโครงการต่างๆ แต่ BTS ไม่ต้องการลงทุนเอง ด้วยวิธีการสร้างแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการทำการตลาดไม่ง่ายอย่างที่คิด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการเปิดโครงการภายใต้แบรนด์ Abstracts ผ่านบริษัท บีทีเอส แอสเสทส์ จำกัด แต่ไม่ติดตลาดมากนัก
ขณะเดียวกัน SIRI มีจุดอ่อนเรื่องเงินลงทุน ที่สำคัญมีข้อจำกัดเรื่องทำเลโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น การร่วมทุนกันครั้งนี้ถือว่าได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และการร่วมทุนครั้งนี้ BTS จะร่วมทุนกับ SIRI เพื่อพัฒนาโครงการสำหรับขาย อาทิ บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม เป็นต้น
พร้อมกันนี้ BTS อยู่ระหว่างเตรียมเข้าถือหุ้นบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ NPARK ด้วยการจำหน่ายหุ้นทั้งหมดใน 2 บริษัทย่อยในสายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริษัท บีทีเอส แอสเสทส์ จำกัด และบริษัท ก้ามกุ้ง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ให้ NPARK
ขณะที่ NPARK จ่ายค่าตอบแทนรูปหุ้นสามัญเพิ่มทุนออกใหม่แบบบุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) จำนวนไม่เกิน 213,000 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 106,500 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นที่ 2 หรือ NPARK-W2
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ SIRI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทแสนสิริในช่วงไตรมาส 4/57 บริษัทเตรียมดำเนินการขายหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 27-31 ตุลาคมนี้ รวมทั้งจะเดินหน้าตามแผนธุรกิจ Engineer for Growth อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจระยะกลางและระยะยาวเป็นแผนงานช่วงต่อจากนี้ไป จะทยอยส่งผลให้กำไรของบริษัทปรับเพิ่มดีขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสำเร็จจากการสร้างยอดขายที่อยู่อาศัยภายในงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮมที่ผ่านมา ยังมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานและจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ (Ready to move in) คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นรายได้จากการโอนทันที ทำให้ล่าสุดบริษัทคาดการณ์อัตรากำไรสุทธิที่ 12% ภายในสิ้นปี 2557 หรือในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้
“การจัดงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม ครั้งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์กระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพอีกทางหนึ่ง ซึ่งการจัดงานช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า โครงการเดอะเบส พระราม 9-รามคำแหง รวมถึงโครงการในต่างจังหวัดที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก อาทิ โครงการดีคอนโดแคมปัส รีสอร์ท เชียงใหม่ และโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ โครงการดีคอนโดไมน์ ภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายและยอดโอนไปแล้วเกือบ 70%
สำหรับภาพรวมช่วงระหว่างการจัดงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม บริษัทประสบความสำเร็จจากการนำเสนอที่อยู่อาศัยโครงการต่างๆ ของกลุ่มแสนสิริที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ลูกค้าสนใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ที่มีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกภายในงาน อาทิ ฮาสุ เฮาส์ (hasu HAUS) คอนโดมิเนียมภายใต้แนวคิด URBAN SLOW LIVING นั้น สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 30% รวมถึงเล็งขายตลาดต่างชาติเร็วๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น