------------------------------------------
8 ตุลาคม 2557
General News
• IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงเหลือ 3.8% จากเดิมคาดไว้ที่ 4% โดยปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซน บราซิล รัสเซีย และญี่ปุ่น แต่ปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐเป็น 3.1%
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเดือนส.ค.หดตัวลง 4% จาก +1.6% ในเดือนก่อน และหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 6 ปี จึงเพิ่มความกังวลต่อเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนมากขึ้น
• ฝรั่งเศสขาดดุลงบประมาณเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 9.41 หมื่นล้านยูโร จากที่ขาดดุล 9.36 หมื่นล้านยูโรในเดือนส.ค.ปีก่อน เนื่องจากมีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นในการลงทุนโครงการใหม่ ประกอบกับรายได้ภาษีที่ลดลงหลังรัฐบาลเพิ่มมาตรการเครดิตภาษีเงินได้สำหรับ ภาคธุรกิจ ซึ่งกรรมาธิการเศรษฐกิจอียู อาจจะดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อให้ฝรั่งเศสปรับลดการขาดดุลงบประมาณลงให้ ได้ตามเป้าที่วางไว้
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินตามเดิม พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงมีการฟื้นตัวปานกลาง ทำให้ยังต้องคงมาตรการซื้อสินทรัพย์ต่อไปเพื่อเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจ ทั้งนี้ นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นว่า BoJ กำลังเผชิญความยากลำบากมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ในระยะเวลา 2 ปี
• จีนสั่งปลดเจ้าหน้าที่รัฐออก 162,629 คน หลังตรวจพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเงินเดือนแต่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชั่น และการใช้งบประมาณโดยมิชอบของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง
• คณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการช่วยเหลือชาวนาและการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยปี นี้ขยายตัวได้ที่ 2% ขณะที่การส่งออกทั้งปีอาจหดตัวลง 1% เนื่องจากจีน ยุโรป และสหรัฐชะลอคำสั่งซื้อ รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำโดยเฉพาะข้าวและยางพารา ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวได้ 4-4.5% จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการเริ่มลงทุนโครงการเมกะโปรเจค รวมทั้งการท่องเที่ยวที่จะขยายตัวดีขึ้นหากยกเลิกกฎอัยการศึก
• ก.คมนาคมกำลังพิจารณาโครงสร้างราคามิเตอร์แท็กซี่ใหม่ และคาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือนธ.ค.นี้ โดยจะพิจารณาจาก 4 ปัจจัยคือ ต้นทุน รายได้ผู้ขับ ค่าใช้จ่ายผู้บริโภค และมาตรฐานการให้บริการ ทั้งนี้ อัตราค่าบริการใหม่จะเริ่มที่ 35 บาทตามเดิม แต่อาจปรับราคาตามระยะทางเพิ่มขึ้น
• พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกในขณะนี้ โดยรอให้เกิดการปฏิรูปก่อน และจะพิจารณาถึงสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้นอีกที
Equity Market
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน +1,479.58
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -1,315.39
นักลงทุนต่างชาติ -144.76
นักลงทุนทั่วไป -19.44
• SET Index ปิดที่ 1,539.39 จุด ลดลง -3.74 จุด (-0.24%) มูลค่าซื้อขาย 48,183.88 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,534 – 1,550 จุด และยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน ประกอบกับรอปัจจัยใหม่มาสนับสนุนทิศทางตลาด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือ รายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสนี้
• ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานตลท. ระบุว่า กองทุนต่างประเทศกำลังหาจังหวะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยในราคาที่เหมาะสม และเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติจะมียอดซื้อสุทธิในปีนี้จากยอดขายสุทธิ 3.8 พันล้านบาทในปัจจุบัน ขณะที่การปรับตัวลดลงในช่วงนี้เป็นเพียงการปรับฐานหลังจากปรับเพิ่มขึ้นมา ตลอดในช่วงที่ผ่านมา
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.04% ถึง 0.00% มูลค่าการซื้อขาย 88,140.89 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร
• ธนาคารกลางออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมมาตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากเห็นว่านโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจและ เงินเฟ้อตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
Guru Corner
Alan Greenspan อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า ประสิทธิภาพการผลิตที่ชะลอตัวเป็นปัญหาสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในระยะยาว เนื่องจากการชะลอตัวดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าจ้างหลังหัก เงินเฟ้อขยายตัวในระดับต่ำเพียง 0.8% ในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสูญเสียอำนาจในการจับจ่าย ทั้งนี้ Greenspan ให้ความเห็นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ว่า เป็นการยากที่จะระบุถึงเวลาที่แน่นอนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed จะส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในช่วงอายุยาว และเพิ่มความผันผวนต่อตลาดตราสารหนี้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Fed ไม่มีอำนาจในการควบคุม กองทุนบัวหลวง ..
------------------------------------------
8 ตุลาคม 2557
General News
• IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงเหลือ 3.8% จากเดิมคาดไว้ที่ 4% โดยปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซน บราซิล รัสเซีย และญี่ปุ่น แต่ปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐเป็น 3.1%
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเดือนส.ค.หดตัวลง 4% จาก +1.6% ในเดือนก่อน และหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 6 ปี จึงเพิ่มความกังวลต่อเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนมากขึ้น
• ฝรั่งเศสขาดดุลงบประมาณเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 9.41 หมื่นล้านยูโร จากที่ขาดดุล 9.36 หมื่นล้านยูโรในเดือนส.ค.ปีก่อน เนื่องจากมีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นในการลงทุนโครงการใหม่ ประกอบกับรายได้ภาษีที่ลดลงหลังรัฐบาลเพิ่มมาตรการเครดิตภาษีเงินได้สำหรับ ภาคธุรกิจ ซึ่งกรรมาธิการเศรษฐกิจอียู อาจจะดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อให้ฝรั่งเศสปรับลดการขาดดุลงบประมาณลงให้ ได้ตามเป้าที่วางไว้
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินตามเดิม พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงมีการฟื้นตัวปานกลาง ทำให้ยังต้องคงมาตรการซื้อสินทรัพย์ต่อไปเพื่อเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจ ทั้งนี้ นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นว่า BoJ กำลังเผชิญความยากลำบากมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ในระยะเวลา 2 ปี
• จีนสั่งปลดเจ้าหน้าที่รัฐออก 162,629 คน หลังตรวจพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเงินเดือนแต่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชั่น และการใช้งบประมาณโดยมิชอบของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง
• คณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการช่วยเหลือชาวนาและการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยปี นี้ขยายตัวได้ที่ 2% ขณะที่การส่งออกทั้งปีอาจหดตัวลง 1% เนื่องจากจีน ยุโรป และสหรัฐชะลอคำสั่งซื้อ รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำโดยเฉพาะข้าวและยางพารา ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวได้ 4-4.5% จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการเริ่มลงทุนโครงการเมกะโปรเจค รวมทั้งการท่องเที่ยวที่จะขยายตัวดีขึ้นหากยกเลิกกฎอัยการศึก
• ก.คมนาคมกำลังพิจารณาโครงสร้างราคามิเตอร์แท็กซี่ใหม่ และคาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือนธ.ค.นี้ โดยจะพิจารณาจาก 4 ปัจจัยคือ ต้นทุน รายได้ผู้ขับ ค่าใช้จ่ายผู้บริโภค และมาตรฐานการให้บริการ ทั้งนี้ อัตราค่าบริการใหม่จะเริ่มที่ 35 บาทตามเดิม แต่อาจปรับราคาตามระยะทางเพิ่มขึ้น
• พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกในขณะนี้ โดยรอให้เกิดการปฏิรูปก่อน และจะพิจารณาถึงสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้นอีกที
Equity Market
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน +1,479.58
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -1,315.39
นักลงทุนต่างชาติ -144.76
นักลงทุนทั่วไป -19.44
• SET Index ปิดที่ 1,539.39 จุด ลดลง -3.74 จุด (-0.24%) มูลค่าซื้อขาย 48,183.88 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,534 – 1,550 จุด และยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน ประกอบกับรอปัจจัยใหม่มาสนับสนุนทิศทางตลาด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือ รายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสนี้
• ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานตลท. ระบุว่า กองทุนต่างประเทศกำลังหาจังหวะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยในราคาที่เหมาะสม และเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติจะมียอดซื้อสุทธิในปีนี้จากยอดขายสุทธิ 3.8 พันล้านบาทในปัจจุบัน ขณะที่การปรับตัวลดลงในช่วงนี้เป็นเพียงการปรับฐานหลังจากปรับเพิ่มขึ้นมา ตลอดในช่วงที่ผ่านมา
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.04% ถึง 0.00% มูลค่าการซื้อขาย 88,140.89 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร
• ธนาคารกลางออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมมาตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากเห็นว่านโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจและ เงินเฟ้อตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
Guru Corner
Alan Greenspan อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า ประสิทธิภาพการผลิตที่ชะลอตัวเป็นปัญหาสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในระยะยาว เนื่องจากการชะลอตัวดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าจ้างหลังหัก เงินเฟ้อขยายตัวในระดับต่ำเพียง 0.8% ในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสูญเสียอำนาจในการจับจ่าย ทั้งนี้ Greenspan ให้ความเห็นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ว่า เป็นการยากที่จะระบุถึงเวลาที่แน่นอนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed จะส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในช่วงอายุยาว และเพิ่มความผันผวนต่อตลาดตราสารหนี้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Fed ไม่มีอำนาจในการควบคุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น