ทีเอ็มบีโชว์กำไรพุ่ง28%
การเงินการคลัง วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2557 ผู้เข้าชม : 5 คน
แบงก์ทีเอ็มบี (TMB) เผยไตรมาส 3/57 กำไร 2.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ส่งผล 9 เดือนมีกำไร 6,564 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อ 9 เดือนขยายตัว 5% เอ็นพีแอลวูบเหลือ 3.43% เงินกองทุนแข็งแกร่งทะลุ 18.3%
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวว่า ธนาคารมีผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 57 อยู่ที่ 2,387 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 7% จาก 2,575 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากในไตรมาสที่แล้วธนาคารมีการรับรู้รายการพิเศษ แต่เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับ 1,870 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
สำหรับผลกำไรของธนาคารปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/56 ทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ ซึ่งเกิดจากสินเชื่อที่ขยายตัวดีขึ้น หรือเติบโตขึ้น 3% ในไตรมาสนี้
ประกอบกับการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ซึ่งเติบโต 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/56 โดยส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของการขายแบงก์แอสชัวรันส์ และการขายกองทุนรวม
ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นน้อยกว่ารายได้ เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในไตรมาสนี้ลดลงเป็น 50% จาก 52% ในไตรมาสที่แล้ว และ 53% ในไตรมาสที่ 3/56 ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองของธนาคารในไตรมาสนี้ปรับตัวดีขึ้นเป็น 3,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/56
ส่วนกำไรงวด 9 เดือนของปี 57 มีจำนวน 6,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับ 3,938 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในไตรมาสที่ 3/57 นี้เงินฝากของธนาคารลดลงเล็กน้อย 4,500 ล้านบาท หรือ 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของเงินฝากประจำ แต่เงินฝากธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้น 7,000 ล้านบาท หรือ 4%
โดยรวมในงวด 9 เดือนของปีนี้ธนาคารสามารถขยายเงินฝากได้ 39,000 ล้านบาท หรือ 7% ซึ่งเงินฝากที่เพิ่มขึ้นในช่วง 9 เดือนมาจาก 2 ส่วนเป็นหลัก คือ เงินฝากลูกค้ารายย่อยในผลิตภัณฑ์เงินฝากที่เป็นจุดเด่นของธนาคาร คือ เงินฝากไม่ประจำ เงินฝาก ME by TMB และมาจากเงินฝากเพื่อธุรกรรมทางการเงิน
ขณะที่สินเชื่อในไตรมาสที่ 3/57 นี้ ขยายตัว 16,000 ล้านบาท หรือ 3% จากไตรมาสที่แล้วจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และสินเชื่อลูกค้าบุคคล โดยสำหรับงวด 9 เดือนนั้นสินเชื่อเพิ่มขึ้นรวม 5%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้อย่างดี โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ของธนาคาร และบริษัทย่อยมีจำนวน 21,027 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 250 ล้านบาทจากไตรมาสที่แล้ว และลดลงในงวด 9 เดือนเป็นจำนวน 1,394 ล้านบาท
โดยสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ลดลงมาอยู่ที่ 3.43% จาก 3.87% ณ สิ้นปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ยังคงแข็งแกร่งที่ 139%
“ธนาคารมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่ดีขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม โดยยังคงดำรงสถานะกองทุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนภายใต้เกณฑ์ Basel III เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.3% และกองทุนชั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.9% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ที่ 8.5% และ 6.0% ตามลำดับ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น