วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ปูนใหญ้ลงทุน2.5แสนล้านสร้างโรงงานปิโตรเคมีEBITDA สูงสุดใหม่

SCCทุ่ม2.5แสนล้านลงทุน5ปี

บริษัทจดทะเบียน วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2557 
ผู้เข้าชม : 6 คน 

"SCC" กางแผน 5 ปี (58-62) ทุ่มงบลงทุน 2-2.5 แสนล้านบาท เน้นการลงทุนโครงการใหม่ รวมโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม พร้อมลั่นปีนี้อีบิทด้านิวไฮ รับอานิสงส์สัดส่วนสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA) มากขึ้น 
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 2558-2562) วงเงินประมาณ 200,000–250,000 ล้านบาท โดยไม่รวมการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ทั้งนี้ การลงทุนในช่วง 5 ปีนี้จะเน้นการลงทุนโครงการใหม่ (Greenfield) มากกว่าการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งได้รวมโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนามที่จะสรุปแผนการลงทุนทั้งงบประมาณการลงทุนและจัดหาเงินทุนได้ภายในไตรมาส 1/58  จากเบื้องต้นคาดใช้เงิน 4,500 ล้านเหรียญ ส่วนการเข้าซื้อกิจการก็ยังเน้นในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งได้เจรจาเข้าซื้อบริษัทที่มีเทคโนโลยี ทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ
สำหรับปีนี้กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) น่าจะทำสถิติสูงสุดอีกครั้งจากปีก่อนได้ทำสถิติสูงสุดแล้วที่ 61,200 ล้านบาท เนื่องมาจากสัดส่วนของสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA) ของบริษัทมีมากขึ้น และสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้น 28% ในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18% ทั้งนี้ สัดส่วนสินค้า HVA มีสัดส่วน 34% ของยอดขายที่เหลือ 66% มาจากสินค้า Non HVA
"ปีนี้ EBITDA จะทำลายสถิติ (break record) อีกปี จากปีที่แล้ว EBITDA ทำนิวไฮแล้ว เราตั้งเป้ายอดขายจากสินค้า HVA สัดส่วน 50% ในปีนี้ก็ยังทำไม่ได้ เพราะเราเข้าซื้อกิจการในภูมิภาคอาเซียน ทำให้ฐานยอดขายขยายตัว อย่างไรก็ตาม HVA ในไทยปีนี้มียอดขายแล้ว 16,000 ล้าบาท เทียบจากเมื่อปี 2547 มีสัดส่วน HVA เพียง 4% จากยอดขายรวมกว่า 90,000 ล้านบาท" นายกานต์ กล่าว
ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้ เนื่องจากมีส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (สเปรด) สูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยสเปรดเม็ดพลาสติก HDPE กว่า 800 เหรียญต่อตัน และสเปรดเม็ดพลาสติกโพลิโพพิลีน (PP) ได้ 900 เหรียญต่อตัน ช่วยผลักดันผลประกอบการใน 2 ไตรมาสหลังนี้
นายกานต์ กล่าวว่า กรณีคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบลงทุน วงเงิน 68,000 ล้านบาทในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น จะทำให้มีความรู้สึก (sentiment) ในตลาดเป็นบวก และได้รับคำยืนยันจากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างว่า รัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการดังกล่าว โดยในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมาความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ชะลอตัว บริษัทจึงได้มาเพิ่มการส่งออกแทน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทได้เดินเครื่องเต็มกำลังอยู่แล้ว อนึ่ง SCC มีกำลังการผลิตรวม 22.5-22.7 ล้านตันต่อปี
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเป็น 32.20 บาทต่อดอลลาร์ จากก่อนหน้าอยู่ที่ 32.50 บาทต่อดอลลาร์  บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงค่าเงินบาท (hedging) อยู่แล้วในช่วง 50-70% ของรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ที่ขณะนี้มีมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญ โดยช่วงไหนค่าเงินบาทแข็งค่าจะทำประกันความเสี่ยงมากขึ้น แต่ถ้าเงินบาทอ่อนค่าก็จะลดทำ hedging ลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น