TRUEเจ๊งอีก
กว่า3พันล้าน
ค่าเงินทำพิษ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2556ผู้เข้าชม : 8 คน
“ทรู คอร์ปอเรชั่น” (TRUE) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 และช่วง 6 เดือนแรก ขาดทุนสุทธิกว่า 3.2 พันล้านบาท ส่งผลให้ช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 พันล้านบาท เหตุจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
วานนี้ (14 ส.ค.) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2556 และงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) พบว่ามีผลขาดทุนสุทธิกว่า 3.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุน 2.1 พันล้านบาท และทำให้ในช่วงครึ่งปีแรก ทรูฯมีผลขาดทุนแล้วกว่า 4.2 พันล้านบาท
ทรูฯ ระบุว่า การขาดทุนนั้นมาจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 550 ล้านบาท จากการแปลงมูลค่าหนี้สินต่างประเทศโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นงวด ซึ่งระหว่างไตรมาส เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และสกุลดอลลาร์สหรัฐ (-0.3670 บาทต่อ 100 เยน และ -1.8199 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2556 งบดุลรวมของกลุ่มทรู มีหนี้สินส่วนที่เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ยืดเวลาการชำระหนี้ออกไป (deferred payment note) ในสกุลเงินเยน จำนวน 11,400 ล้านเยน และหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 15.6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตัวเลขสำคัญทางการเงินอื่นๆ นั้น ทรูฯ แจงว่า ในไตรมาส 2 มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรู เติบโตขึ้นร้อยละ 8.9 จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 16.4 พันล้านบาท จากการเติบโตที่ดีของรายได้ในทั้ง 3 ธุรกิจหลัก อย่างไรก็ดี รายได้จากการให้บริการโดยรวมค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากฤดูกาลของการใช้งานประเภทเสียงของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 4.3 พันล้านบาท โดยการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้จากทั้ง 3 ธุรกิจหลัก ชดเชยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านโครงข่าย และค่าใช้จ่ายด้านการตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้า และกระตุ้นการใช้บริการโดยเฉพาะในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก
อย่างไรก็ตาม EBITDA ลดลงร้อยละ 8.3 จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดที่เพิ่มขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น