วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

‘บ้านปู’ทิ้งไพ่แตกพาร์ กู้วิกฤติศรัทธานักลงทุน ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 02 สิงหาคม 2556


‘บ้านปู’ทิ้งไพ่แตกพาร์
กู้วิกฤติศรัทธานักลงทุน

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 02 สิงหาคม 2556
ผู้เข้าชม : 6 คน

BANPU ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย บอร์ดไฟเขียวแตกพาร์จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท หวังเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ฟากโบรกฯ ประเมินราคาเป้าหมายหลังแตกพาร์ไว้ที่ 28 บาท/หุ้น

                นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น (พาร์) จากเดิมพาร์หุ้นละ 10 บาท จะปรับเป็นพาร์หุ้นละ 1 บาท 
                อีกทั้งหุ้นสามัญจดทะเบียนจำนวน 354,050,479 หุ้น จะปรับเป็น 3,540,504,790 หุ้น และหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 271,747,855 หุ้น จะปรับเป็น 2,717,478,550 หุ้น ทั้งนี้ ทุนจดทะเบียนของบริษัทจะยังคงเท่าเดิมที่ระดับ 3,540,504,790 บาท และทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วคงเดิมที่ 2,717,478,550 บาท ซึ่งมตินี้จะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติต่อไป
                ทั้งนี้ บริษัทจะกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 ก.ย. 2556 เวลา 13.00 น. ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม 13 ส.ค.นี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม15 ส.ค. และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม 16 ส.ค.
                ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ประเมินว่าการที่ BANPU แตกพาร์ถือเป็นการเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในตลาด ซึ่งการปรับมูลค่าพาร์จะไม่กระทบอัตราส่วนทางการเงินและประมาณการผลประกอบการ ซึ่งแม้ที่ผ่านมา BANPU จะมีสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยกว่า 85% แต่มีจำนวนหุ้นในการซื้อขายไม่มาก
                เนื่องจากบริษัทมีหุ้นสามัญชำระแล้วก่อนการแตกพาร์เพียง 272 ล้านหุ้นเท่านั้น ส่วนราคาหุ้น กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) มูลค่าบัญชี (BV) และเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) จะปรับลดลงตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราส่วนทางการเงินได้แก่ PER และ PBV รวมถึงอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะยังคงเดิม
                อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมุมมองเชิงลบต่อราคาถ่านหินในงวดครึ่งปีหลัง โดยคาดราคาถ่านหินในงวดครึ่งหลังของปี 2556 จะอยู่ในระดับ 70–75 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาขายถ่านหินของบริษัทในปี 2556 มีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากมีปัจจัยลบมาจากความต้องการใช้ถ่านหินในภูมิภาคที่ชะลอตัว
                โดยแม้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ประเทศจีนจะมีการนำเข้าถ่านหินจำนวนมาก แต่ด้วยปริมาณสำรองถ่านหินในประเทศจีนที่ระดับสูง จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่ประเทศจีนจะเริ่มชะลอการนำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง และกลายเป็นปัจจัยกดดันราคาถ่านหิน
                ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์สรุปคำแนะนำหุ้น BANPU คือ “ซื้อเก็งกำไร” กำหนดมูลค่าเหมาะสมของ BANPU หลังแตกพาร์จะลดลงเหลือ 28 บาท (พาร์ 1 บาท) จากเดิมที่ราคา 280 บาท (พาร์ 10 บาท) โดยราคาหุ้นที่ปรับฐานลดลงจากแตกพาร์ จะทำให้ BANPU กลับมามีความน่าสนใจในการลงทุน แม้จะยังไม่เห็นปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัวของธุรกิจถ่านหินที่ชัดเจน
                อีกทั้งราคาหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่ามี Down-side Risk ต่ำ โดยมีมูลค่าเหมาะสมปัจจุบันเทียบ PBV ที่ระดับ 0.8 เท่า ทำให้แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินภาพรวมรายได้ในงวดปี 2556 ไว้ที่ระดับ 109,366 ล้านบาท ปรับลดลงจากปีก่อนที่ได้ 117,337 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิทั้งปี 3,465 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ได้กำไรสุทธิ 9,293 ล้านบาท
                ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BANPU วานนี้ (1 ส.ค.) ทำราคาเปิดปรับตัวเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 239 บาท สูงกว่าราคาปิดก่อนหน้าที่ 231 บาท โดยทำราคาสูงสุดของวันที่ 241 บาท ต่ำสุดของวัน 237 บาท และปิดการซื้อขายอยู่ที่ 240 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 9 บาท หรือคิดเป็น 3.90% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 722 ล้านบาท
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น