JASตั้งอินฟราฯฟันด์
มูลค่า5หมื่นล้านบาท
เล็งนำเงินขยาย FTTX เพิ่มลูกค้า 50% ใน 3 ปี
ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2556 ผู้เข้าชม : 5 คน
"JAS" เล็งตั้งอินฟราฯฟันด์มูลค่า 50,000-70,000 ล้านบาท เสนอขายภายในสิ้นปี 56 พร้อมเข้าลงทุน 1 ใน 3 ของกองทุนฯ เพื่อนำเงินขยาย FTTX หวังเพิ่มลูกค้า 50% ใน 3 ปี กูรูคาดกำไรสุทธิปี 57 เพิ่มอีก 1 พันล้านบาท แนะซื้อราคาเป้าหมาย 12 บาท
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2556 มีมติอนุมัติให้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตมูลค่า 50,000-70,000 ล้านบาท
โดยให้บริษัทและบริษัทย่อยขายหรือให้เช่าโครงข่ายบรอดแบนด์ทั่วประเทศของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cable) จำนวนประมาณ 610,000 คอร์กิโลเมตร, Access Node จำนวนประมาณ 16,000 node และ Cable ที่เชื่อมโยงถึงลูกค้าทั้งหมด ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวมีมูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2556 ประมาณ 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ อนุมัติให้บริษัทและบริษัทย่อย เช่ากลับ เช่า หรือเช่าช่วง ทรัพย์สินข้างต้นจากกองทุนเพื่อใช้ทรัพย์สินดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจต่อไป
สำหรับเงินที่ได้จากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจะนำมาขยายงานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต ซึ่งรวมถึง Fiber Optic FTTX เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของลูกค้า Fiber Optic FTTX ให้ถึง 50% โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี
ขณะเดียวกันอนุมัติให้บริษัทและบริษัทย่อย ลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว ประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุน คิดเป็นจำนวนเงินลงทุนประมาณ 16,667-23,334 ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมีอำนาจในการจัดจ้างและลงนามในสัญญาแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้ประกันการจัดจำหน่ายทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งผู้จัดการกองทุน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปภายในสิ้นปี 2556 ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อให้ความเห็นชอบโดยเร็ว
นายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากประเมินจากมูลค่า Infrastructure Fund ขั้นต่ำที่ 50,000 ล้านบาท จะส่งผลให้ JAS มีกำไรหลังหักภาษีเข้ามา 21,000 ล้านบาท ขณะที่หากมูลค่า Infrastructure Fund ที่ 70,000 ล้านบาท ทำให้ JAS มีกำไรหลังหักภาษีเข้ามา 32,000 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นที่ 3-4.50 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของกองทุนฯ
ทั้งนี้ มองว่าในระยะยาวส่งผลให้ JAS ได้เงินทุนระยะยาวเข้ามา เพื่อขยายกิจการ และทำให้ JAS ลดค่าเสื่อมลงได้ เนื่องจากมีรายได้เข้ามาจากเงินปันผลจาก Infrastructure Fund ที่ JAS เข้าไปลงทุนประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ มากกว่าค่าเสื่อมที่เสียไป
โดยประเมินว่าจากพื้นฐานของ JAS ซึ่งไม่ได้นำประเด็นการตั้ง Infrastructure Fund เข้าไปในประมาณการ คาดว่าปี 2556 JAS มีกำไรสุทธิ 3,200 ล้านบาท มูลค่าเหมาะสมปีนี้ที่ 11.25 บาท
และประเมินว่าจากการตั้ง Infrastructure Fund และการเข้าไปลงทุนประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ ซึ่งยังไม่รวมการเช่าช่วง ส่งผลต่อกำไรสุทธิปี 2557 ของ JAS เพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาท มูลค่าเหมาะสมปี 2557 ที่ 12 บาท แนะนำ “ซื้อ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น