LHBANKมึนเศรษฐกิจวูบ
การเงินการคลัง วันศุกร์ที่ 02 สิงหาคม 2556ผู้เข้าชม : 5 คน
LHBANK ปลื้มชำนาญไมโครไฟแนนซ์ เชื่อส่งการเติบโตสินทรัพย์แบบค่าเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20-25% ต่อปี พร้อมปรับลดเป้าสินเชื่อโตเหลือ 20-25% จากเดิม35% เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว และ ใส่เข็มขัดป้องกันความเสี่ยงเต็มที่
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ในขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตร 1 ราย โดยยอมรับว่าเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ติดอันดับโลก ซึ่งเป็นธนาคารในภูมิภาคเอเชียที่มีความเชี่ยวชาญด้านไมโครไฟแนนซ์ และ มีรูปแบบอินเตอร์เนชั่นแนลแบงกิ้ง
โดยเชื่อว่าหากมีความร่วมมือเกิดขึ้นจริงจะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างของ LHBANK และ ช่วยผลักดันให้การเติบโตของสินทรัพย์เป็นไปตามที่ธนาคารตั้งเป้าไว้
“ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่มีกรอบระยะเวลาที่จะสรุปผล แต่โดยส่วนตัวคาดหวังที่จะให้กระบวนการเสร็จสิ้นภายในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงินพันธมิตรอยู่ระหว่างปรับตัวกับการแก้ไขปัญหาทาง ด้านระบบการเงินในประเทศของตนเอง”นางศศิธร กล่าว
สำหรับ Synergy ถ้าเข้ามาแล้วจะทำให้ธนาคารมีการเติบโต โดยเฉพาะด้านไมโครไฟแนนซ์ ซึ่งพันธมิตรทีความชำนาญเรื่องนี้ โดยเป็นธนาคารที่มีธุรกิจแบบอินเตอร์เนชั่นแนล ไม่ใช่แค่โลคอลแบงก์ และ เป็นธนาคารที่ติดอันดับโลก ซึ่งใหญ่กว่าธนาคารไทยหลายๆแบงก์ โดย Synergy ที่ธนาคารต้องการ คือ การเติบโตด้านสินทรัพย์แบบค่าเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20-25% ต่อปี ซึ่งพันธมิตรที่จะเข้ามาก็ต้องผลักดันการเติบโตตรงนี้ได้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันมีผลทำให้ชะลอการตัดสินใจ
ส่วนสินเชื่อรวมในปีนี้ขยายตัว 20-25% ซึ่งได้ปรับลดจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 35% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และ หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นทำให้ธนาคารได้เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอ ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้สินเชื่อรวมขยายตัว 10.3% ส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 1.6%
"ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจชะลอตัวแน่นอน โดยเราต้องปรับกลยุทธ์ และ มุ่งเน้นคุณภาพสินเชื่อ ซึ่งเราให้ความสำคัญกับลูกค้า corporate ที่มีรายได้ 400 ล้านบาทขึ้นไป โดยเพิ่มสัดส่วนเป็น 46% ของพอร์ตจาก 42% ในปีก่อน แต่สินเชื่อปีนี้การเติบโตจะลดลงจากปีก่อน ซึ่งก็ยังเติบโตระดับสูงที่ 20-25%"นางศศิธร กล่าว
ในขณะนี้ธนาคารมีกลุ่มลูกค้า Retail ในสัดส่วน 33% ของพอร์ต ซึ่งในส่วนนี้ 80% เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีหลักทรัพย์หลักประกันที่มีตัวตน ราคาไม่ตก ในขณะที่ไม่มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อจึงไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับ ธนาคารไม่มีธุรกิจบัตรเครดิต
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังธนาคารจะเพิ่มสาขาอีก 29 แห่ง โดยจะกระจายไปตามต่างจังหวัดในลักษณะ Micro Branch ที่จะใช้พื้นที่ของโฮมโปรเป็นหลักทำให้สิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 107 สาขา จากปัจจุบัน 76 สาขา และ สิ้นปี 2556 สาขา ในสิ้นไตรมาส 1/57 จะเพิ่มเป็น 112 สาขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น