วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

“ซีพีเอฟ” ลุ้น Q4/58 มีกำไรสุทธิ 1,665 ล้านบาท โต 106% คาดบุ๊คกำไรจากการขายหุ้น CPALL กว่า 1,068 ล้านบาท ดันทั้งปี 58 มีกำไรสุทธิ 11,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เล็งปันผลครึ่งหลังอีก 0.45 บาท โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 25.30 บาท

“ซีพีเอฟ” ลุ้น Q4/58 มีกำไรสุทธิ 1,665 ล้านบาท โต 106% คาดบุ๊คกำไรจากการขายหุ้น CPALL กว่า 1,068 ล้านบาท ดันทั้งปี 58 มีกำไรสุทธิ 11,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เล็งปันผลครึ่งหลังอีก 0.45 บาท โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 25.30 บาท
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มีโอกาสที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/58 เติบโต โดยบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประมาณวันที่ 23 ก.พ. 59 ทาง CPF จะรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 มีกำไรสุทธิ 1,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 106% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 808 ล้านบาท แต่ลดลงประมาณ 53%  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,571 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการขายหุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ประมาณ 1,068 ล้านบาท
ทั้งนี้ การฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะราคาถั่วเหลืองลดลงและธุรกิจกุ้งมีปริมาณขายเพิ่มขึ้นและลดต้นทุนการดำเนินงานทำให้ขาดทุนน้อยลง หากเทียบกับไตรมาสก่อนกำไรปกติลดลงตามฤดูกาลที่ปริมาณขายอาหารสัตว์บก-น้ำลดลง ส่งออกไก่-กุ้งลดลง ราคาไก่-หมูในประเทศลดลง ปริมาณขายอาหารสัตว์ในธุรกิจต่างประเทศลดลงตามฤดูกาล แต่คาดว่าที่ตุรกีขาดทุนน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
สำหรับปี 2558 คาดกำไรปกติ 1,976 ล้านบาท ลดลงประมาณ 66% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรปกติ 5,915 ล้านบาท เพราะราคาหมูในประเทศลดลง 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน และราคาไก่ในประเทศลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน  รวมถึง CPP ในจีนมีกำไรลดลง และที่ตุรกีขาดทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตามในปี 2558 คาด CPF มีกำไรสุทธิ 11,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,562 ล้านบาท เพราะรายการพิเศษได้แก่กำไรจากขายหุ้น CPALL ประมาณ 7,000 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) 1,400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำ “ซื้อ” CPF ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 25.30 บาท ปรับลดจากเดิมเล็กน้อย เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอ่อนตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 อาจทำให้ภาวะการบริโภคอ่อนตัว และยังคงคาดว่าปี 2559 กำไรจะฟื้นตัวจากธุรกิจกุ้งฟื้นตัวจากการคลี่คลายของโรค EMS, ธุรกิจไก่-หมูในรัสเซียเติบโตขึ้น, ราคาไก่-หมูในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการสมดุลของอุปทานและอุปสงค์
รวมถึง CPF ปรับตัวโดยการลดค่าใช้จ่ายทั้งในการผลิตและ SG&A, ธุรกิจต่างประเทศทั้งอินเดีย เวียดนาม และรัสเซียน่าจะเติบโต ขณะที่จีนและมาเลเซียน่าจะยังอ่อนตัว, CPF เน้นกลยุทธ์เพิ่มตลาดอาหารพร้อมรับประทานมากขึ้น ใช้ CPALL เป็นช่องทางจัดจำหน่าย และ CPF ยังคงพิจารณาการควบรวมหรือการซื้อกิจการ (M&A) หาธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า กำไรปกติของ CPF ในไตรมาส 4/58 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากผลของฤดูกาลอยู่ที่ 412 ล้านบาท โดยในเดือนต.ค. 58 ราคาเนื้อสัตว์โดยรวมมีการปรับตัวลดลง ขณะที่ภาวะอุปทานส่วนเกินโดยรวมในธุรกิจไก่ยังไม่คลายตัว  ขณะที่บริษัทได้รวมธุรกิจไก่รัสเซียที่พึ่งซื้อเข้ามาในงบไตรมาส 4/58 ด้วยจำนวน 1 เดือน นอกจากนี้คาด CPF จะมีการขายเงินลงทุนออกมาต่อเนื่อง ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 4/58 น่าจะที่อยู่ที่ 912 ล้านบาท ลดลง 74.50% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,571 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 12.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 808 ล้านบาท
โดยหากผลประกอบการในไตรมาส 4/58 เป็นไปตามที่คาด CPF จะมีกำไรสุทธิทั้งปี 2558 อยู่ที่ 10,422 ล้านบาท ลดลง 1.30% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,562 ล้านบาท อ่อนตัวลงเล็กน้อยจากผลของปัญหาโอเวอร์ซัพพลายในประเทศ โดยบริษัทมีกำไรจากการขายเงินลงทุนกว่า 6,900 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์วันประกาศงบวันที่ 24 ก.พ. 59 และคาดการณ์เงินปันผลปี 2558 ที่ 0.75 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) ที่ 4.10% หลังจากที่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 0.30 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 24 บาท  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น