วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

SCCกำไรพุ่ง9.97พันล้าน กูรูเชียร์ซื้อเป้า540บาท

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: SCCกำไรพุ่ง9.97พันล้าน
กูรูเชียร์ซื้อเป้า540บาท
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 30 เมษายน 2557
ผู้เข้าชม : 19 คน
วันนี้ “ปูนใหญ่” แจ้งงบไตรมาส 1/57 ลุ้นโชว์กำไรสุทธิ 9.97 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% อานิสงส์ธุรกิจปิโตรเคมีเติบโต รับส่วนต่างราคาปรับตัวสูงขึ้นและปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น คาดรายได้ทะลุ 1.13 แสนล้านบาท แนะซื้อเป้า 540 บาท



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 เม.ย. 57) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/57 โดยบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดว่า SCC จะประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/57 ที่ 9.97 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาส 4/56 โดยผลประกอบการที่จะดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากธุรกิจปิโตรเคมี (ส่วนต่างราคาปรับตัวสูงขึ้นและปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น) และธุรกิจซีเมนต์ (ราคาและปริมาณการขายที่สูงขึ้น)

ขณะที่กำไรสุทธิที่ดีขึ้นจากไตรมาส 4/56 มาจากทุกธุรกิจหลัก ทั้งนี้ กำไรของธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจกระดาษที่เพิ่มขึ้นมากจากไตรมาส 4/56 มาจากการเทียบฐานต่ำจากการปิดซ่อมโรงงาน 2 แห่ง ขณะที่ไตรมาสหนึ่งเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของธุรกิจซีเมนต์ ดังนั้น จึงแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 500 บาท/หุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/57 SCC จะมีกำไรสุทธิ 9,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.5% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 12.4% จากปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากธุรกิจปิโตรเคมีมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังโรงงานปิโตรเคมี (MOC) กลับมาเดินเครื่องเต็มที่หลังหยุดซ่อมใหญ่ตามแผน 45 วันในไตรมาส 4/56 และส่วนต่างระหว่างราคาปิโตรเคมีและวัตถุดิบ (Margin) เพิ่มขึ้น ธุรกิจซีเมนต์มีกำไรเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและราคาขายปูนปรับขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจกระดาษคาดกำไรฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยตามฤดูกาล แต่ชะลอตัวจากปีก่อนตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ ยังคงคาดการณ์กำไรปกติปี 2557 อยู่ที่ 37,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากปีก่อน หลักๆ มาจาก Margin ธุรกิจปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นจากแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ P/E 13.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 14-15 เท่า และมีอัพไซด์ 10.3% จึงยังแนะนำ "ซื้อ"

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างช่วงไตรมาส 1/57 ของ SCC ยังคงมีอัตราการเติบโตขึ้นได้เล็กน้อยเทียบกับช่วงไตรมาส 1/56 จากโครงการก่อสร้างในประเทศที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจากปีก่อน รวมไปถึงการขยายฐานธุรกิจไปต่างประเทศ โดยราคาวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงคาดว่า SCC จะมีกำไรจากธุรกิจดังกล่าวใกล้เคียงกับไตรมาส 1/56

ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจที่ยังคงเติบโตได้ดีตามการขยายตัวของเศรษฐกิจในอาเซียน เชื่อว่าปี 2557 SCC จะมีกำไรเติบโต 7% จากปีก่อน เป็น 39,342 ล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยกำหนด Fair Value ด้วยวิธี DCF จะให้ราคาเหมาะสมที่ 520 บาท เทียบเท่า PER 15.86 เท่า มี Upside อีก 22% แนะนำ “ซื้อ”

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า คาดไตรมาส 1/57 รายได้ของ SCC ยังเติบโต โดยปิโตรเคมียังหนุนผลประกอบการ คาดรายได้อยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 1/57 คาดว่าจะอยู่ที่ 9.34 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน และ 6% จากปีก่อน ซึ่งยังคงได้รับแรงหนุนจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากสัญญาณเศรษฐกิจในหลายประเทศส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น โดย HDPE-Naphtha Spread ยังคงอยู่ในระดับที่สูง 620-640 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์ยังขยายตัวได้จากโครงการที่ยังมีการดำเนินการก่อสร้างอยู่

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยทางการเมืองที่ยังกดดันอยู่ ทำให้การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนชะลอตัว ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในครึ่งหลังปี 2557 นอกจากนี้ ยังมีแผนการที่จะขยายธุรกิจใน Regional อย่างต่อเนื่องโดยจะเป็นลักษณะ M&A หรือ Joint Venture เพื่อต่อยอดและขยายฐานธุรกิจเดิม ยังคงแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้า 540 บาท บนฐาน Avg P/BV ที่ 3 เท่า

บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 1/57 ของ SCC ยังโดดเด่น และเติบโตเท่ากับ 9,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน และ 9% จากปีก่อน แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง โดยได้แรงหนุนสำคัญจากธุรกิจปิโตรเคมีที่เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น

ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์-วัสดุก่อสร้างยังมีการเติบโตแม้ไม่โดดเด่น จากการก่อสร้างในโครงการต่างๆ ยังต่อเนื่อง แนวโน้มผลประกอบการในปี 2557 คาดกำไรจะยังเติบโต 5% สู่ระดับ 38,514 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากธุรกิจปิโตรเคมีที่เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ขณะที่ชัพพลายใหม่เพิ่มไม่มากเพียง 3% ยังคงตั้งเป้าลงทุนปีนี้ 4-5 หมื่นล้านบาท ภายใต้แผน 5 ปี ลงทุน 2-2.5 แสนล้านบาท เน้นภูมิภาคอาเซียนสนับสนุนการเติบโตระยะยาว คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 500 บาท

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น