วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

EARTHงบQ2เริ่ดกว่าQ1 เริ่มบุ๊ครายได้เหมืองพม่า


EARTHงบQ2เริ่ดกว่าQ1
เริ่มบุ๊ครายได้เหมืองพม่า

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 6 คน 

EARTH กำไรไตรมาสแรกทะยาน 368 ล้านบาท โต 49% รับยอดขายถ่านหินพุ่ง 1.8 ล้านตัน “ขจรพงศ์” ลั่นไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง เริ่มบันทึกรายได้เหมืองถ่านหินในพม่า มั่นใจรายได้ทั้งปีแตะ 14,000 ล้านบาท ขายถ่านหินถึง 8 ล้านตัน

                นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในงวดไตรมาสแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 368 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 49% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ได้กำไร 246 ล้านบาท หลังจากบริษัทมีรายได้จากการขายเติบโตขึ้นถึง 3,020 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 59% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,891 ล้านบาท
                โดยในไตรมาสแรกบริษัทมียอดขายถ่านหินรวมทั้งสิ้น 1.8 ล้านตัน และยังสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นถึง 20% เนื่องจากบริษัทได้รับออเดอร์งานจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี
                ส่วนต้นทุนค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาสแรกที่ขยับขึ้นมาสู่ระดับ 2,574 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 1,569 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นตามการเติบโตของออเดอร์งาน แต่ยืนยันว่าปัจจุบันยังสามารถควบคุมและบริหารจัดการได้ตามปกติ
                “สัดส่วนรายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกจะมาจากงานผลิตถ่านหินจากเหมืองและจำหน่ายโดยตรง 50% และอีก 50% มาจากธุรกิจเทรดดิ้งของบริษัทที่จริงแล้วต้นทุนการผลิตถ่านที่มาจากเหมืองของเรา ยังคงไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก ขณะที่งานเทรดดิ้งเราจะมีต้นทุนซื้อตามปกติเช่นกัน และจากนั้นจะขายถ่านหินตามราคาตลาด” นายขจรพงศ์ กล่าว
                สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/56 บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากจะเริ่มรับรู้รายได้จากเหมืองถ่านหินในพม่า ที่ร่วมดำเนินงานบริษัท อีสท์สตาร์ จำกัด หลังจากเริ่มดำเนินการผลิตไปตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.นี้ รวมถึงยังคงได้รับออเดอร์งานถ่านหินจากทั้งลูกค้าในประเทศและลูกค้าต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน และอินเดีย เข้ามาจำนวนมาก
                ทั้งนี้ เหมืองถ่านหินที่พม่า จะมีปริมาณสำรองถ่านหินรวมไม่น้อยกว่า 40 ล้านตัน เบื้องต้นบริษัทจะเน้นเจาะฐานลูกค้าตลาดรีเทลภายในประเทศไทย เพราะมีพื้นที่อยู่ใกล้เคียงกับประเทศพม่า จากนั้นในอนาคตจะหาโอกาสเข้าทำตลาดในต่างประเทศ
                ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดปี 2556 บริษัทจะยังคงยึดเป้าหมายทำยอดขายถ่านหินรวมทั้งสิ้น 8 ล้านตัน และมีรายได้เติบโตสู่ระดับ 14,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 10,444 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยรวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 20% โดยมีปัจจัยผลักดันสำคัญมาจากการเติบโตของยอดขายถ่านหินที่สูงขึ้นและการรับรู้รายได้จากการเปิดเหมืองถ่านหินในประเทศพม่า
                สำหรับรายได้ธุรกิจเทรดดิ้งปัจจุบันคิดเป็นส่วนประมาณ 50% บริษัทจะเน้นบริหารงาน โดยการสั่งซื้อและขายถ่านหินสอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก จึงไม่มีการสต๊อกถ่านหินเป็นจำนวน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสต๊อกลอส หากราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวลดลง
                อย่างไรก็ตาม ภายใต้กลยุทธ์ 5 ปี 5 เหมือง มีปริมาณสำรองถ่านหินรวม 200 ล้านตัน ที่บริษัทเคยประกาศไว้ในช่วงที่ผ่านมา หากบริษัททำได้ตามเป้าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้การขายถ่านหินจะมาจากเหมืองของ EARTH ครบถึง 100% และไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเทรดดิ้ง เพราะบริษัทจะมีปริมาณสำรองถ่านหินมากพอที่จะรองรับออเดอร์งานของลูกค้า
                ส่วนปริมาณสำรองในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 45 ล้านตัน แบ่งเป็นเหมืองที่พม่า 40 ล้านตัน เหมืองที่อินโดนีเซียของบริษัท 5 ล้านตัน ดังนั้น หากบริษัทได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนส.ค.นี้ เพื่อออกหุ้นเพิ่มทุนรองรับการสว็อปหุ้นกับ PT. Hary Niaga จะทำให้มีปริมาณสำรองเพิ่มอีกขั้นต่ำ 30 ล้านตัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น