ยักษ์หลับGLANDตื่น!
ปั๊มรายได้ปีนี้กระฉูด
ลุยแก้ปัญหาฟรีโฟลตต่ำ คาดแล้วเสร็จมิ.ย.นี้

ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 22 คน 

"GLAND" เดินหน้าแก้ปัญหาฟรีโฟลตต่ำ คาดแล้วเสร็จมิ.ย.นี้ พร้อมส่งซิกปีนี้รายได้และกำไรโตก้าวกระโดด รับแรงหนุนโอนคอนโดกว่า 6 พันล้านบาท ขณะที่ส.ค.-ก.ย.56เตรียมยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.ขอตั้งกองทุนอสังหาฯ 4 พันล้านบาท

นายสุรกิจ ธารธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND เปิดเผยว่า  บริษัทมีแผนที่จะดำเนินการแก้ไขการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ของบริษัทให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำหนดไว้ที่ 15% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาหาวิธีที่เหมาะสมในการที่จะเพิ่ม

ฟรีโฟลตอยู่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนได้ว่าจะใช้วิธีการใด แต่คาดว่าจะดำเนินการเพิ่มฟรีโฟลตให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2556นี้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ข้อมูลปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2556 บริษัทมีผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกัน จำนวน 900 ราย หรือคิดเป็นฟรีโฟลตอยู่ที่ 7.23%

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ นายสุรกิจ เปิดเผยว่า น่าจะมีการเติบโตก้าวกระโดด ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,098.58 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 58.92 ล้านบาท หลังไตรมาส 1/56 บริษัทมีรายได้รวม 810.08 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 97.88 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมโครงการเบ็ล แกรนด์ พระราม 9 เฟส 1 ที่เหลืออยู่ 80% ของยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีจำนวน 1,000 ยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท หลังจากปีที่แล้วมีการรับรู้รายได้จากการโอนไปแล้วกว่า 20%

รวมทั้งจะมีการรับรู้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในโครงการเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า 2 อาคาร สูง 32 และ 34 ชั้น เข้ามาบางส่วนในปีนี้ แต่อาจจะเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย เนื่องจากคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณปลายเดือนกันยายน 2556

ทั้งนี้ โครงการเบ็ล แกรนด์ พระราม 9  เป็นคอนโดมิเนียมสูง 27-43 ชั้น จำนวน 8 อาคาร บนพื้นที่ 8 ไร่ โดยเฟส 1 มี 4 อาคาร จำนวน1,000 ยูนิต ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้วและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าแล้ว คาดว่าจะสามารถโอนครบ 100% ได้ภายในปีนี้ ขณะที่โครงการเบ็ล แกรนด์ พระราม 9 เฟส 2 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมอีก 4 อาคาร จำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเปิดขายให้กับลูกค้า คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปีนี้ และจะเริ่มทยอยโอนรับรู้รายได้ในปีหน้า (2557)  ซึ่งจะทำให้การรับรู้รายได้มีความต่อเนื่องจากปีนี้

นายสุรกิจ เปิดเผยต่อว่า บริษัทมีแผนจะจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4/56 มูลค่ากองทุนประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยจะนำเอาโครงการอาคารสำนักงานให้เช่าโครงการเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 ขายเข้ากองทุนฯ คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งขอจัดตั้งกองทุนฯ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประมาณช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2556นี้

อย่างไรก็ตาม โครงการเบ็ล แกรนด์ พระราม 9 และโครงการ เดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 นับเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่ภายใต้โครงการ "แกรนด์ พระราม 9" บนพื้นที่ 73 ไร่ บริเวณสี่แยกอโศก-ดินแดง จุดตัดของถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 60,000 ล้านบาท และมีพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด 1.2 ล้านตารางเมตร โดยต้องการที่จะพัฒนาที่ดินดังกล่าวเป็นศูนย์การธุรกิจ (CBD) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

สำหรับโครงการแกรนด์ พระราม 9 นอกจากจะประกอบไปด้วย 2 โครงการดังกล่าวแล้ว ยังมีโครงการอาคารสำนักงานให้เช่ายูเพลส แกรนด์ พระราม 9 เป็นอาคารสูง 13 ชั้น โดยกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ เป็นผู้เช่าทั้งอาคาร คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในปีหน้า และโครงการอาคารสำนักงาน จีแลนด์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 เป็นโครงการอาคารสำนักงานเกรด A+ จำนวน 2 อาคาร สูง 26 ชั้น และ 36 ชั้น ตามลำดับ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 2 ปี 2558 ซึ่งมีก่อสร้างส่วนงานชั้นใต้ดิน เพื่อเชื่อมต่อศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9 และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ขณะที่ในส่วนโครงการศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซา แกรนด์พระราม 9 ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา ไนน์สแควร์ จำกัด ถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้พื้นที่โครงการแกรนด์ พระราม 9 มีความน่าสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2557 บริษัทจะมีเริ่มก่อสร้างโครงการโรงแรมระดับ 4 ดาว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2558 และยังจะมีการพัฒนาโครงการศูนย์การประชุม คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จประมาณปี 2559 โดยคาดว่าน่าจะทำให้โครงการแกรนด์ พระราม 9 มีความสมบูรณ์มากขึ้น และมีการทยอยรับรู้รายได้จากการพัฒนาโครงการต่างๆ ต่อเนื่องในอนาคตช่วง 3-4 ปีข้างหน้านี้