CGSกวาดกำไรกระฉูด 284 %
การเงินการคลัง วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2556 ผู้เข้าชม : 6 คน
CGS ปลื้มไตรมาสแรกครองส่วนแบ่งมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 พร้อมโชว์ผลงานแจ่ม ทำกำไรสุทธิ 263.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 284% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน เหตุบริการด้านหลักทรัพย์ครบวงจร สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้มีลูกค้ามากถึง 60,000 ราย
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ CGSเปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 263.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.73 ล้านบาท หรือ โต 284% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.59 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 บริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 868.34 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ CGSเปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 263.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.73 ล้านบาท หรือ โต 284% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.59 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 บริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 868.34 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของ CGS ออกมาประทับใจได้อีกครั้งเป็นเพราะการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลมาจากความตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ของทีมงานบริษัทในทุกหน่วยงาน อาทิ ความมุ่งมั่นในการขยายฐานลูกค้า คุณภาพของการให้บริการของเจ้าหน้าที่บริษัท การบริหารและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการที่ CGS มีบริการด้านหลักทรัพย์ที่ครบวงจร มีบทวิเคราะห์และนักวิเคราะห์ที่มีคุณภาพและประสบการณ์ นอกจากผลงานที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทยังสามารถไต่ระดับส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 อีกด้วย ด้วยสัดส่วน 6.25% ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศรวมสำนักงานใหญ่ จำนวน 51 สาขา มีมาร์เก็ตติ้งมากกว่า 600 คน และมีลูกค้ารายย่อยมากถึง 60,000 ราย สำหรับปี 2556 มีเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก20%
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ เชื่อว่า ปีนี้ยังคงเป็นปีทองของธุรกิจหลักทรัพย์และมีการขยายตัวที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้อยู่ในอันดับ Top 3 โดยยังคงให้ความสำคัญกับงานด้านการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องของการให้บริการลูกค้าทั้งในด้านของงานวิจัยหลักทรัพย์ และพัฒนางานด้านระบบไอทีให้มีความรวดเร็วและทันสมัย ควบคู่ไปกับเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมและค้นหาง่าย
ส่วนผลประกอบการในปี 2555 ของบริษัทสามารถสร้างผลงานได้ดี บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 312.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.87 ล้านบาท หรือ 22.74% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 254.45 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 457.87 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทยังได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องมา 3 ปีซ้อน โดยปีล่าสุดจ่ายจากผลประกอบการในปี 2555 ซึ่งจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 9 หุ้นเดิมต่อ 1หุ้นใหม่ และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.012 บาทเพื่อรองรับการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย นับว่าเป็นผลตอบแทนที่ดีมากสำหรับผู้ลงทุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น