วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

CCPบุ๊คกำไร300ล้านบาท


CCPบุ๊คกำไร300ล้านบาท

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 5 คน 

CCP บุ๊คกำไรพิเศษในการขายสิทธิการซื้อที่ดิน 300 ล้านบาท ดันกำไร 9 เดือนพุ่ง 450 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1 บาทต่อหุ้น พร้อมปลดภาระดอกเบี้ยได้ปีละ 20 ล้านบาท อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E ) ลดจาก 3 เท่า เหลือ 1.5 เท่า ส่วนผู้ถือหุ้นแตะ 1 พันล้านบาท

                นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เตรียมทยอยบุ๊คกำไรพิเศษจากการขายสิทธิการซื้อคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้ากันยงโฮมสโตร์ สาขาพัทยา จำนวน 282 .5 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิในงบการเงินงวด 9 เดือนของบริษัทเพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท หากคิดรวมกำไรสุทธิปกติที่บริษัทสามารถทำได้อยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท
                “เชื่อว่างบในช่วง 9 เดือนแรกของ CCP จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 450 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายสิทธิการซื้อคืนที่ดินที่ใช้ตั้งเป็นสาขาของบริษัทย่อย โดยกำไรจะรับรู้แบบเต็มจำนวน เพราะรายการดังกล่าวไม่มีต้นทุน” นักวิเคราะห์ กล่าว
                 การบุ๊คกำไรจากการขายสิทธิการซื้อคืนที่ดินฯของ CCP แม้จะเป็นกำไรครั้งเดียว แต่สามารถนำกระแสเงินสดเข้ามาในบริษัท และสามารถนำไปชำระหนี้แบงก์ที่มีอยู่ ปัจจุบันบริษัทมีภาระดอกเบี้ยที่ต้องบันทึกปีละ 7% ของจำนวนเงินกู้กับสถาบันการเงินทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1,780 ล้านบาท ลดลงเหลือเพียง 1,500 ล้านบาท
                “CCP สามารถลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ปีละ 20 ล้านบาทจากนี้ไป โดยจะเริ่มลดภาระดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป  ภายหลังจากที่มีกำไรจากการขายสิทธิการซื้อคืนที่ดินฯ ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนทางการเงินของกิจการ ซึ่งจะสะท้อนเข้ามาในรูปของกำไรที่เพิ่มขึ้น” นักวิเคราะห์ กล่าว
                การรับรู้กำไรพิเศษครั้งนี้ จะทำให้ส่วนทุนที่อยู่ในรูปของส่วนผู้ถือหุ้นบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 950 ล้านบาท จากปัจจุบันส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 659 ล้านบาท ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) จะลดลงจาก 3 เท่า เหลือเพียงแค่ 1.5 เท่า ซึ่งระดับค่า D/E ที่ลดลงจะส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินที่ลดลงด้วย
                สำหรับการขายที่ดินฯและปิดสาขาของร้านค้ากันยงโฮมสโตร์นั้น จะไม่มีผลกระทบกับยอดขายของบริษัท เนื่องจากสาขาดังกล่าว เป็นสาขาที่ไม่ได้สร้างรายได้ให้กับบริษัท ฉะนั้น การปิดสาขาดังกล่าว ถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น และปลดภาระหนี้ออกไปได้
                ที่ผ่านมา บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) ยื่น Filing version แรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2556 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก จำนวน 115 ล้านหุ้น โดยจะออกหุ้นใหม่จำนวน 70.45 ล้านหุ้น ซึ่งจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP จำนวนไม่เกิน 46 ล้านหุ้น และเสนอขายประชาชนทั่วไปจำนวน 24.45 ล้านหุ้น
                นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ คือ บริษัท ชลประทีปสินทรัพย์ จำกัด จะนำหุ้นเดิมของบริษัทออกมาเสนอขายด้วยจำนวน 44.55 ล้านหุ้น โดยบริษัทดังกล่าวจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 
                ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาภายใต้เครื่องหมายการค้า SMART บล็อกเย็น เพื่อใช้เป็นวัสดุก่อสร้างพื้นฐานในงานก่อสร้างผนังอาคารทั้งแนวสูงและแนวราบ
                รวมทั้งเป็นวัสดุกั้นผนังภายในอาคาร ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2555 พบว่ามีสินทรัพย์รวม 673.41 ล้านบาท หนี้สินรวม 281.32 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 392.09 ล้านบาท รายได้รวม 404.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 368.64 ล้านบาทในปี 54 และกำไรเบ็ดเสร็จรวม 57.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 26.28 ล้านบาท
                ณ วันที่ 18 ก.พ. 2556 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 389.55 ล้านบาท ทุนเรียกชำระแล้ว 389.55 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 7.35 บาท หลังเสนอขาย IPO ในครั้งนี้แล้ว บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียน 460 ล้านบาท ทุนเรียกชำระแล้ว 460 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น