ถ้าไม่มีค่า adder อีก 5-8 ปี พลังงานทดแทน ไปไม่รอดจริงหรือ????
Apple อยากจะชี้ชวนให้พวกเรามาดูตัวเลขตรงนี้สักนิดนึง
EA เปิดเผยว่า มีรายได้ จากการขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 mw 10.61 ล้านบาท และค่า adder อีก 23.92 ล้านบาท โดยเริ่มขายไฟเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2555
เมื่อคิดเป็นสัดส่วนออกมาแล้ว ถ้า EA ขายไฟ 90w จะได้ adder 1076.4 ล้านบาท ต่อโรง
จากตาราง จะเห็นว่าเฉพาะค่า adder อย่างเดียวก็สามารถชำระคืนเงินต้น และเมื่อโครงสร้างหนี้อยู่ในสัดส่วนที่ยอมรับได้แล้ว ก็สามารถ นำผลตอบแทนมาจ่ายปันผลได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอจนใช้หนี้จนหมด
หลังจากนั้นก็นำกำไรที่ได้ไป re-invest ใหม่สร้างกำไรให้ผู้ถือหุ้นต่อไป โดยที่ไม่ต้องสร้างหนี้เยอะๆอีกแล้ว
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีค่า adder อีก 5-8 ปี พลังงานทดแทน ไปไม่รอดจริงหรือ????
จริง!!!!!!!!!!ถ้าไม่ลงทุนอะไรเพิ่มอีกเลย โดยมีที่ดิน 6000 ไร่ เป็นสมบัติติดตัว และขายไฟ 278 mw ไปยันวันโลกแตก
ในโลกทุนนิยม ไม่มีหรอก บริษัทที่ไม่ลงทุนอะไรเลย แล้วต้องการเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจ ชื่อก็บอกแล้วว่าทุนนิยม(มีทุนมากกว่า ขยายอานาจัก รได้มากกว่า) ถ้าอยู่เฉยๆก็เติบโตได้ ทำไม cpall ต้องซื้อ makro ทำไม คุณเจริญต้องซื้อ F&N ก็ขายของกินของใช้เดิมๆต่อไปก็ได้นิ
ค่า adder จึงจำเป็นต้องมีเพื่อทำให้โครงการเกิดขึ้นได้
มองด้านผลตอบแทนจากการลงทุน
Spcg เปิดเผยว่า ใช้งบลงทุน 25000 ล้านบาท 250 mw
แปลว่า ต่อ 1 mw ใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท
GLOW พลังงาน เปิดเผยว่า ใช้งบลงทุน 75000 ล้านบาทในการเพิ่มกำลังการผลิต 1500 mw แปลว่าในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท ต่อ 1 mw
ซึ่งโรงฟฟ้าธรรมดามีอายุการใช้งาน 20-25 มีค่าซ่อมบำรุง ช่วงที่ปิดซ่อมบำรุงก็ผลิตไฟไม่ได้ แถมมีต้นทุนพลังงานเป็นก๊าซธรรมชาติซึ่งนับวันจะหมดไป
ส่วนถ้าจะเปรียบเทียบให้สูสีกัน อาจจะสมมติว่าแผงโซลาใช้แค่ 25 ปี แล้วเปลี่ยนก็ได้ มีก็แต่ค่า MDB solar inverter ซึ่งขอไม่อธิบาย แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก และการเช็ดถูแผง
อนาคตอันใกล้นี้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จะถูกลงเกือบครึ่ง เพราะผู้นำด้านพลังงานทดแทนอย่างยุโรบประกาศแล้วว่าจะสนับสนุนไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเต็มที่ และมีเป้าหมายใช้พลังงานทดแทน 80%ภายใน 20 ปี
ปัจจุบัน EU มีกําลังผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ 14,000 MW โดยประเทศที่ติดตังอุปกรณ์ มากที่สุด ได้แก่ เยอรมนี กรีซ และออสเตรีย บ้านเรามีเป้าหมายแค่ 2000-5000 mw ซึ่งตอนนี้ยังไม่ถึงครึ่ง
แล้วคุณคิดว่าโรงฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินไม่ได้รับการชดเชยจากรัฐหรือ ซึ่งไม่จริงค่ะ โรงไฟฟ้าพวกนี้ ได้รับชดเชยส่วนต่าง ค่าก๊าซ ค่าถ่านหินจาก กฟผ. แถมในสัญญาค่าไฟในช่วงแรกจะได้ราคาสูงกว่าช่วงหลัง เพราะ กฟผ.กับผู้ผลิตตกลงกันแล้วว่า ค่าไฟฟ้าในช่วงแรกต้องสามารถนำไปจ่ายคืนผู้ถือหุ้น จ่ายคืนหนี้และดอกเบี้ยจากการกู้เงินไปลงทุน
หลายๆคนอาจมองว่า ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพวกฉวยโอกาศ และทำให้พวกเราต้องจ่ายค่าไฟแพง ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เลย ทุกคนที่ผลิตไฟฟ้า ได้รับการชดเชยจากรัฐทั้งนั้น เพราะมัเป็นความมั่นคงทางพลังงาน
แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ใครใช้ทรัพยากรณ์มากกว่า ใครก่อมลพิษมากกว่า นั่นเอง
apple มองว่า หุ้นพลังานทดแทนยังเป็นหุ้นเติบโตภายใน 3-5 ปีนี้ และจะกลายเป็นหุ้นปันผล เหมือนหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นๆ เพราะการใช้ไฟฟ้าจะเติบโตไม่น้อยกว่าเศรษฐกิจ จะว่าไปแล้วก็ยังสร้างผลตอบแทนมากกว่า ทอง ที่ดิน และอสังหาในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น