นิกเกอิยืนเหนือ15,000จุดแล้ว
ต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2556 ผู้เข้าชม : 8 คน
รอยเตอร์ - ดัชนีนิกเกอิพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่งเมื่อวานนี้ โดยมีบริษัทส่งออกดีดตัวแรงหลังจากที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน หุ้นโซนี่พุ่งแรงหลังจากที่กองทุนสหรัฐรายหนึ่งเรียกร้องให้บริษัทแยกบริษัท และนำธุรกิจบันเทิงที่มีกำไรอยู่เข้าจดทะเบียนในตลาด
เมื่อวานนี้ ดัชนีนิกเกอิทะยานเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 15,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น โดยดัชนีปิดตลาดเพิ่มขึ้น 2.3% หรือ 337.61 จุด ปิดที่ระดับ 15,096.03 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของหุ้นในต่างประเทศกำลังเป็นสาเหตุให้เงินทุนไหลเข้าไปยังตลาดญี่ปุ่นทั้งที่อัตราการดีดตัวมีความรวดเร็ว และนักลงทุนจำนวนหนึ่งกำลังทำกำไรในภาคที่อ่อนไหวต่อการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
ฮิคารุ ซาโตะ นักวิเคราะห์เทคนิคอาวุโสของไดวา ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะมีการทำกำไรในหลายภาคที่ปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้เงินเฟ้อกลับมา เนื่องจากภาคเหล่านี้มีผลงานโดดเด่นมากในก่อนหน้านี้
ในขณะที่หุ้นส่งออกปรับตัวแรงสุด แต่หุ้นการเงินและอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ และมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองจากหุ้นโซนี่เช่นกัน โดยหุ้นโซนี่ปรับตัวขึ้น 11.5% หลังจากที่หุ้นในตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในชั่วข้ามคืน การเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่ แดเนียล โลบ ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยง เธิร์ด พอยต์ เสนอให้โซนี่ขายหุ้นธุรกิจบันเทิงระหว่าง 15-30%
ส่วนตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ดัชนีหุ้นในเอเชียแปซิฟิกแต่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นของเอ็มเอสซีไอ ปรับตัวขึ้น 0.2% เป็น 482.34 จุด ในขณะที่ดัชนีคอสปิของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.12% ยกเว้นดัชนีเอเอสเอ็กซ์ ออล ออดินารี ปรับตัวลง 0.56%
นักลงทุนในตลาดจำนวนหนึ่งคาดว่า นักลงทุนจะยังคงมีความอยากเสี่ยงค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อคำนึงถึงว่ามีสัญญาณที่ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น
แอนโทนี แลม นักกลยุทธ์ของเครดิต อะกริโกล ตั้งข้อสังเกตว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นอีกและอัตราเงินเฟ้อต่ำ ควรจะทำให้มีความต้องการเสี่ยงมากขึ้นและจะหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐมีผลตอบแทนสูงขึ้น
ในช่วงเช้าวันพุธ ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน โดยอยู่ที่ 1.985% และข้อมูลในสัปดาห์นี้ชี้ว่า ยอดขายปลีกในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนเมษายน ซึ่งช่วยหนุนดอลลาร์ให้แข็งแกร่ง และอาจแข็งค่าได้อีกหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะออกมาก็ชี้ว่ามีการฟื้นตัว
ราคานำเข้าของสหรัฐลดลงในเดือนเมษายนเพราะราคาน้ำมันลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อฐานะการเงินของครัวเรือน ซึ่งชี้ว่าแรงกดดันของเงินเฟ้อไม่เป็นอันตรายเช่นกัน
ค่าเงินดอลลาร์ได้ดีดตัวขึ้นในวงกว้างในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากข้อมูลการจ้างงานดีกว่าคาดและตัวเลขการขอให้สิทธิ์ของคนว่างงานใหม่ๆ ก็ลดลง ซึ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง
เมื่อวานนี้ ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 83.615 ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ทำไว้เมื่อวันอังคารที่ 83.687 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเงินดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ในตลาดโภคภัณฑ์ ทองคำในตลาดสปอต อ่อนตัวลง 0.1% เหลือ 1,424.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองยังคงปรับตัวลงตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจในด้านบวก และการดีดตัวเป็นประวัติการณ์ของหุ้นสหรัฐทำให้เสน่ห์ของทองคำลดลง
ส่วนตราสารน้ำมันดิบสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.1% อยู่ที่ 94.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และตราสารน้ำมันดิบเบรนต์ทรงตัวอยู่ที่ 102.63 ดอลลาร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น