ตลาดหุ้นเอเชียทำนิวโลว์
ต่างประเทศ วันพุธที่ 07 มกราคม 2558 

ซีเอ็นบีซี - ความวิตกเพิ่มมากขึ้นที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงไม่หยุดหย่อน ความวิตกเกี่ยวกับการเติบโตของจีนและความวิตกเกี่ยวกับกรีซ  ฉุดดัชนีหุ้นในเอเชียทำนิวโลว์ เมื่อวานนี้ การปิดลดลงของวอลล์สตรีทในชั่วข้ามคืนยิ่งบั่นทอนนักลงทุน

ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวลง 1.9% เมื่อวันจันทร์ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.8% ซึ่งลดลงเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน  ส่วนดัชนีแนสแดคปรับตัวลง 1.6%

ในช่วงเช้าของการซื้อขายในเอเชีย ตราสารน้ำมันดิบสหรัฐฯเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ประมาณ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีการซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ซึ่งได้ทำไว้ในวันก่อนหน้าเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับดีมานด์และการผลิตน้ำมันอย่างแข็งแกร่งทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อราคา  ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ในตลาดลอนดอนที่จะส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ไม่มีการซื้อขายหลังจากที่ลดลง 3.31 ดอลลาร์ อยู่ที่ 53.11 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์

เดวิด จอย หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดบริษัท อเมริไพรส์ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า แม้ว่าปีใหม่เริ่มต้นด้วยความซบเซา แต่เชื่อว่า ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นในท้ายที่สุด การปรับตัวลงของน้ำมันเป็นผลดี ปี 2558 กำลังจะเป็นปีที่ดีสำหรับผลตอบแทนหุ้น

ดัชนีนิกเกอิ ปรับตัวลง 3%  และอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์เนื่องจากอารมณ์ในการซื้อขายได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันและการแข็งค่าของเงินเยน  หุ้นบลูชิพก็ปรับตัวลงเมื่อเงินเยนหยุดอ่อนตัว

โดยค่าเงินเยนมีการซื้อขายที่ 118.73 เยนต่อดอลลาร์ แข็งค่าสุดในรอบสองสัปดาห์ครึ่ง เนื่องจากมีการซื้อเงินเยนเพื่อความปลอดภัย

ตลาดออสเตรเลียปรับตัวลง 1.6%  ดัชนี S&P ASX 200 ปิดลดลงที่ระดับ 5,364 จุดใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ เนื่องจากภาคทรัพยากรได้รับแรงกดดัน นอกจากนี้หุ้นที่เกี่ยวกับน้ำมันได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อราคาน้ำมันทำนิวโลว์ และหุ้นธนาคารก็ลดลงเพราะแรงทำกำไร

ในช่วงเช้าของการซื้อขายเมื่อวานนี้ มีข้อมูลที่ชี้ว่า ภาคบริการของจีนโตในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบสามเดือนเมื่อเดือนธันวาคม  แต่ตลาดหุ้นจีนก็ปรับตัวลง

ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตลดลงจากระดับสูงสุดในรอบห้าปีที่ทำไว้เมื่อวันจันทร์ แต่สามารถปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย 0.07%  บริษัทพลังงานจีนยังคงปรับตัวลงเช่นกัน ขณะที่ บริษัทฟาวน์เดอร์ ซีเคียวริตีส์ ปรับตัวลง 3% หลังจากที่ศาลสั่งระงับทรัพย์สิน  ส่วนกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นต่อเพราะราคาน้ำมันถูกลง  แม้แต่ไชน่า เซาเธิร์น แอร์ไลน์ ก็ปรับตัวขึ้น 2% ทั้งที่มีข่าวว่ามีผู้บริหารถูกสอบสวนเพิ่มเพราะสงสัยว่าได้ก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน

ในขณะเดียวกัน ดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกง ปรับตัวลง 1% ใกล้ต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์

ดัชนีคอสปิ ปรับตัวลง 1.7%  หุ้นเกาหลีต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ครึ่ง เนื่องจากหุ้นพลังงานถูกทุบในขณะที่ราคาพลังงานลดลงต่อเนื่อง  ในช่วงเช้า ดัชนีคอสปิลงไปแตะ 1,877 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556

บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์  ปรับตัวลง  3.2% เนื่องจากตลาดรอการชี้นำผลกำไรในช่วงไตรมาสสี่ในสัปดาห์นี้  ขณะที่ ฮุนได มอเตอร์ และเกีย มอเตอร์รายงานว่า ยอดขายรวมในสหรัฐฯสูงเป็นประวัติการณ์ 1.3 ล้านคน  อย่างไรก็ดี ข่าวนี้ไม่สามารถทำให้สองบริษัทรถยนต์นี้ดีดตัวได้ โดยปรับตัวลง 1.8% และ 1.2% ตามลำดับ

ตลาดหุ้นอินเดียก็ปรับตัวลง 2.1% ตามการขาดทุนในตลาดเอเชีย โดยใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์

ยังมีสถานการณ์ที่ยิ่งเพิ่มความมืดมนในภูมิภาค เมื่อมีการพูดกันมากขึ้นว่ากรีซกำลังจะถอนตัวออกจากยูโรโซน  โดยกรีซประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 25 มกราคม แต่พรรคไซริซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นิยมซ้ายจัด น่าจะชนะการเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดความวิตกขึ้น เนื่องจากพรรคได้ประกาศว่าจะยกเลิกเงื่อนไขในการรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ

ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเดิมพันที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ  ทำให้เงินยูโรอ่อนตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 เมื่อวันจันทร์ ในขณะเดียวกันหุ้นยุโรปปรับตัวลงอย่างรุนแรงแต่เมื่อวานนี้เงินยูโรในตลาดเอเชียมีการซื้อขายที่ 1.1960 ยูโรต่อดอลลาร์

มาร์ก  โคนีน ซีอีโอ บริษัทคาเธ่ย์ โคนนิ่ง แอสเซ็ต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า นักลงทุนมีความวิตกว่าจะเกิดโรคติดต่อแบบเมื่อสามปีก่อนอีกครั้ง ดังนั้นจึงเห็นการหยุดเสี่ยง  ขณะเดียวกันมีสารจากธนาคารกลางยุโรปว่ามีเวลาเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะเตรียมตัวให้ดีขึ้น แต่ไม่เพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตลาด  ดังนั้นเราจึงเห็นแรงเทขายในตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันจันทร์