จับตาตัวแสบๆ
โมนิก้า 7/11/57

*มีหลายคนถาม “โมนิก้า” เกี่ยวกับเหตุการณ์หุ้นขนาดเล็กแซงหน้าหุ้นขนาดใหญ่ มันเป็นเหตุการณ์ผิดปกติหรือไม่? เดี๊ยนตอบกลับอย่างทันควันว่า มองจากในมุมไหน? หากมองในมุมบวกต้องถือว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นของนักลงทุนรายย่อยอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งแสดงให้เห็นพัฒนาการที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น จึงไม่ต้องวอรี่เรื่องการบาดเจ็บล้มตายของเหล่าผู้กล้าที่นิยมเล่นของร้อนหรอกค่ะ

*ยิ่งเห็นเจ๊ “เกศรา” หัวเรือใหญ่ของตลาดฯ ออกมาแสดงวิสัยทัศน์เรื่องมาตรการต่างๆ แบบฉะฉาน พร้อมกับสยบข่าวลือเรื่องการออกมาตรการสกัดหุ้นปั่นแบบใหม่ “โมนิก้า” ยิ่งรู้สึกแฮปปี้มากขึ้นเป็น 2-3 เท่า เพราะทำให้รู้ว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเผาบ้านเพื่อฆ่าหนู เพราะถือว่า ได้ทำหน้าที่เตือนครบถ้วนกระบวนการ ใครยังอยากเล่นกับของร้อน ก็ต้องเตรียมใจรับผลที่เกิดขึ้นนะจ๊ะ

*ที่สำคัญก็คือ บรรดาหุ้นลูกเต๋าที่เซียนต่างๆ นิยมปั่นเป็นรอบนั้น มักจะแพ้ภัยตัวเองเป็นประจำ แถมช่วงนี้เป็นจังหวะของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงว่า หุ้นน้อยใหญ่จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ sale on fact และตรงจุดนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ยังจะมีใครยังกล้าเล่นหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานรองรับอีกไหม? จึงอยากให้แฟนคลับติดตามดูหุ้นตัวแสบๆ ให้ดีเป็นพิเศษเจ้าค่ะ

*แสบตัวแรกที่อยากให้ดู AJP เป็นหุ้นที่มีมูลค่าแค่ 0.80 บาท(6บาทเมื่อเดือนมิถุนายน) แต่ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 19.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 กว่าล้านบาท มันโอเว่อร์รีแอ๊คชัดๆ แถมเมื่อเหลือบดูค่า P/E ปาเข้าไปในระดับ 250 เท่า P/BV ปาเข้าไปที่ 25 เท่า มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว! ถ้าย้อนกลับมาดูโปรไฟร์ของบริษัทที่ทำธุรกิจ จัดหา ผลิต และ/หรือร่วมผลิตรายการทีวีผ่านดาวเทียม ถามจริงๆ กำไรจะทำได้เยอะ จนถึงขนาดกดค่า P/E ลงมาต่ำกว่า 50 เท่าได้จริงเหรอ!

*เช่นเดียวกับในรายของ LIVE ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับทีวีดาวเทียม ทำธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ซึ่งยังเหมารวมกับระบบออกอากาศ สตูดิโอ และอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งให้บริการสื่อโฆษณากลางแจ้ง ล้วนเป็นธุรกิจที่ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว ถ้าทำกำไรได้สม่ำเสมอจริงๆ ป่านนี้...หุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อไปนานแล้ว และไม่ต้องไปพึ่งใบบุญของโบรกเกอร์ใหญ่แห่งหนึ่งเป็นคนปล่อยข่าวทำราคาหรอก ล่าสุดราคาหุ้นอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาปิดที่ 0.41 บาท ลบไป 0.01 บาท ด้วยมูลค่า 100 ล้านบาทต้นๆ บอกได้แค่ว่า เขาเริ่มเดาทางออกแล้วนะจ๊ะ

*อีกตัวที่ต้องเม้าท์ถึงตั้งแต่หัววัน “โมนิก้า” ขอยกให้กับ IEC ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นที่ขาใหญ่โบรกเกอร์แห่งหนึ่งตั้งใจทำราคา แต่เผอิญมีการแตกแถวผิดระเบียบเกิดขึ้นเสียก่อน หุ้นเลยรูดไถลลงก่อนเวลาอันควร จริงเท็จแค่ไหนคงต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องนี้มันมีอะไรที่มากกว่าคุณๆ ท่านๆ เห็นกันอยู่ในเวลานี้ ล่าสุดหุ้นปิดเสมอตัวที่ 0.06 บาท วอลุ่มหดเหลือแค่ 42 ล้านบาท ..สงสัยจะเลิกเล่นกันแล้วกระมัง!

*ส่วนที่กำลังมาแรงแซงทุกทางโค้ง โดยไม่มีอาการหวาดหวั่นจะแหกโค้ง นาทีนี้ต้องยกให้กับECL หุ้นพื้นๆ ที่เต็มไปด้วยสตอรี่ในการปั่นราคา ทุกอย่างมีการเปิดเผยไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรใหม่ กำไรไตรมาส 3 น่าจะออกมาดี หรือแม้กระทั่งการแจกวอร์แรนต์ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้หุ้นวิ่งกระฉูด ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.94 บาท บวกไป 0.54 บาท หรือขึ้นไป 22% ด้วยมูลค่า 1.80 พันล้านบาท และยังติดเป็นอันดับ 4 ในกระดาน most active ล้วนเป็นความเชื่อของนักเล่นที่มองเรื่องนี้เป็น มันนี่เกม! ข่าวจริงออกเมื่อไหร่เลิกชัวร์ป๊าบ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ทีไร “โมนิก้า” อยากให้หันมาดูน้องใหม่ไฟแรง SIS ไว้ประดับความรู้ในการลงทุน และที่ผ่านมาหุ้นรูดลงหนักเพราะผลการดำเนินงานถดถอยต่อเนื่อง หุ้นเลยลงไปทำ low ที่บริเวณ 4 บาท ท่ามกลางความหงอยเหงา จู่ๆ หุ้นเริ่มออกสตาร์ทแบบเต็มลิมิต ก็คงมาจากข่าวอินไซด์ผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดี และสิ่งที่จะตามหลังมาคือ sale on fact จึงต้องดูกันต่อไปว่า วันนี้หุ้นจะไปต่อไหม? หลังจากวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 7.40 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 30% แล้วนะซี

*ประเด็นดังกล่าวพาลให้นึกถึงหุ้นบ้า BA ขึ้นมาในทันที เพราะเป็นหุ้นที่สร้างความผิดหวังให้กับแมงเม่าอย่างรุนแรง หลายกระแสพากันขุดคุ้ยเรื่องนำหุ้นเก่าออกมาขาย ใช้กองทุนที่รู้จักคุ้นเคยเข้ามารับของ หรือแม้กระทั่งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ล้วนเป็นคำอธิบายที่มาจากฝั่งที่เป็นศัตรูกับคุณพี่กระมัง แมงเม่าถึงหยิบขึ้นมาขยายความกันไม่เลิกสักที “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางถึงทำได้แค่ถ่ายทอดอารมณ์ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกทีหนึ่งก็เท่านั้นเอง เพราะการที่หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 21 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่า 480 ล้านบาท มันควรมีคำอธิบายที่ดีให้กับแมงเม่าบ้าง..หรือจะต่อหลังไมค์คุยกับเดี๊ยนเป็นกรณีพิเศษก็ได้นะจ๊ะ