วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การเคลื่อนไหวของบีโอเจ จุดชนวนสงครามค่าเงิน

การเคลื่อนไหวของบีโอเจ จุดชนวนสงครามค่าเงิน
ต่างประเทศ วันอังคารที่ 04 พฤศจิกายน 2557 การกระตุ้นเศรษฐกิจแบบสายฟ้าแลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เพิ่มแนวโน้มที่จะเกิดสงครามค่าเงินเนื่องจากการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของเงินเยนคุกคามความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจที่มีการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อน

บอริส  ชลอสเบิร์ก ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยน บริษัท บีเค แอสเซ็ต แมเนจเมนต์  กล่าวว่า เมื่อไหร่ที่มีการเคลื่อนไหวที่สร้างความยุ่งเหยิงจากธนาคารกลาง  มักจะมีผลกระทบหลายอย่าง
หลายๆ ตลาดไม่ทันระวังตัวเมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะขยายการซื้อกองทุนอีทีเอฟและหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และยืดเวลาพอร์ตพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นและเพิ่มอัตราในการขยายฐานเงิน
ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงเกือบ 3% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ และยังเกิดแรงเทขายต่อมาจนถึงวันจันทร์ โดยอ่อนตัวลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี อีกครั้งในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย โดยมีการซื้อขายที่ประมาณ 112.71 เยนต่อดอลลาร์

เยนปะทะวอน
ฌอน คอลโลว์ นักกลยุทธ์เงินอาวุโสของเวสต์แพ็ค กล่าวว่า สงครามค่าเงินที่ร้อนแรงที่สุดในวันนี้คือสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลี  และน่าจะเป็นสงครามที่ต้องจับตามอง อัตราแลกเปลี่ยนเยน-วอน มีความอ่อนไหวมากเนื่องจากญี่ปุ่นและเกาหลีแข่งขันกันในภาคสำคัญหลายๆ ภาค
เงินญี่ปุ่นได้อ่อนตัวลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับเงินวอนนับตั้งแต่บีโอเจทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไม่คาดคิดในเดือนเมษายน 2556
นักกลยุทธ์เงินกล่าวว่า การกระทำของบีโอเจอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (บีโอเค) เริ่มป้องกันการแข็งค่าของเงินในท้องถิ่นมากขึ้น ด้วยการเข้าแทรกแซงในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนหรือลดอัตราดอกเบี้ย
ยัง ซัน วอน นักเศรษฐศาสตร์ของโนมูระ กล่าวว่า  มีความเสี่ยงมากขึ้นที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 0.25% โดยเหลือ 1.75% ในเดือนที่จะมาถึง ซึ่งย้ำว่าแรงส่งในการส่งออกของเกาหลีใต้ลดลงอยู่แล้ว
ข้อมูลจากกระทรวงการค้าเกาหลีใต้ชี้ว่า การส่งออกโต 2.5% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า  หลังจากที่โต 6.9% ในเดือนกันยายน
เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบในทางลบจากการอ่อนค่าของเงินเยนแล้ว  โดยเมื่อปลายเดือนตุลาคม ประธานาธิบดี ปาร์ก กึน-เฮ กล่าวว่า เศรษฐกิจที่โตลดลง  เงินเฟ้อที่อยู่ในอัตราต่ำ และการอ่อนค่าของเงินเยน เป็นความเสี่ยงสำคัญ 3 อย่างที่บริษัทและเศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังเผชิญอยู่

ผู้ส่งออกรายอื่นๆ ของเอเชีย
ประเทศส่งออกรายใหญ่อื่นๆ ในเอเชีย เช่น ไต้หวัน และจีน อาจจะดำเนินการเพื่อลดความแข็งแกร่งของสกุลเงินของตนเอง
“ยังต้องดูว่าผู้ส่งออกจีนหัวเสียเกี่ยวกับการอ่อนตัวของเงินเยนหรือไม่ และทางการจีนจะชี้นำให้เงินหยวนอ่อนลงหรือไม่” คอลโลว์ กล่าว
เมื่อวันจันทร์ ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางเงินหยวนไว้ที่ 6.1525 หยวนต่อดอลลาร์  อ่อนลงจากเมื่อวันศุกร์ ซึ่งอยู่ที่ 6.1461 และก่อนหน้านี้เงินหยวนปิดที่ 6.1135 หยวนต่อดอลลาร์
เจฟฟรีย์ หยู นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนของยูบีเอส เห็นพ้องว่า เกาหลีใต้จะมีปัญหากับการอ่อนค่าของเงินเยน แต่ไม่คิดว่าธนาคารกลางจีนจะวิตกเช่นนั้น
“ธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางญี่ปุ่นทำงานร่วมกันค่อนข้างดี ผมคิดว่าจีนจะมีความวิตกมากกว่าเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์-บาท และดอลลาร์-ด่องของเวียดนาม”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น