ก.ล.ต.ไฟเขียว“จัสมิน”
ตั้งกองทุน6.5หมื่นล้าน
:ลุยโรดโชว์ต่างประเทศ จ่ายปันผล 90% ปีละ 2 ครั้ง
ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2557
JAS มีเฮ! ก.ล.ต.เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง “กองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน” มูลค่า 65,000 ล้านบาท ตั้งแต่ 12 พ.ย. 57 เพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง ไฟเขียวเสนอขายหน่วยลงทุนได้ทันที หลัง 26 พ.ย. 57 ฝ่ายที่ปรึกษาทางการเงินและผู้บริหาร JAS จัดทีมโรดโชว์ใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โชว์จุดเด่นจ่ายปันผลไม่ต่ำ 90% ของกำไรสุทธิ ปีละ 2 ครั้ง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ล่าสุด ก.ล.ต.ได้รับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) และเริ่มดำเนินงานการนับหนึ่งไฟลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 57 เป็นต้นไป และอีก 14 วัน (นับจากวันนับหนึ่งไฟลิ่ง) หรือวันที่ 26 พ.ย. 57 หากไม่มีข้อมูลอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS สามารถดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนดังกล่าวได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและฝ่าย JAS มีความพร้อมจะดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนดังกล่าว โดยหลังจากวันที่ 26 พ.ย.57 มีแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับบรรดานักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางการกำหนดกลยุทธ์การขายและกำหนดราคาหน่วยลงทุนดังกล่าวต่อไป
จากข้อมูลตามแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) จะมีการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก มีมูลค่าไม่เกิน 65,000 ล้านบาท โดยจำนวนหน่วยลงทุนขั้นต่ำของการจองซื้อ 2,000 หน่วย และเพิ่มครั้งละ 100 หน่วย
โดยกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง กรณีกองทุนมีกำไรสะสมเพียงพอ โดยเมื่อรวมแล้วแต่ละงวดปีบัญชีจ่ายอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ นอกจากนี้ การจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถกระทำได้ในรูปของการคืนเงินลงทุนด้วยการลดทุน เมื่อกองทุนมีสภาพคล่องส่วนเกิน ตามที่โครงการจัดการกองทุนและกฎหมายหลักทรัพย์ให้กระทำได้
สำหรับวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงในปัจจุบัน มูลค่าไม่เกิน 53,805 ล้านบาท และทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงในอนาคต ที่บริษัท ทริปเบิลที บรอดแบนด์ จำกัด (TTTBB) จะโอนให้แก่กองทุน ช่วงเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อขายเสร็จสิ้น ราคาไม่เกิน 11,195 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อได้ซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจาก TTTBB แล้ว กองทุนฯ จะนำทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงที่ได้รับการส่งมอบดังกล่าวกลับไปให้ TTTBB เช่า โดย ณ วันที่ทำการซื้อขายเสร็จสิ้น TTTBB จะเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 80% ของปริมาณทรัพย์สินที่กองทุนได้รับมอบตามสัญญาซื้อขายทรัพย์สิน ประกอบด้วยทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงปัจจุบัน 80% และทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงในอนาคต 80% โดยมีระยะเวลาการเช่าประมาณ 11 ปี ตามสัญญาเช่าหลัก
สำหรับทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 20% ประกอบด้วยทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงในปัจจุบัน 20% และทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงในอนาคต 20% นั้น TTTBB จะเช่าจากกองทุนฯ ตามสัญญาเช่ารอง โดยมีระยะเวลาการเช่าเริ่มต้น 3 ปี โดยกองทุนฯ มีสิทธิต่ออายุการเช่าได้ครั้งละ 3 ปี จนกว่าจะครบกำหนดอายุของสัญญาเช่าหลัก
ทั้งนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการสร้างเครือข่ายการขายและจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งไว้หลายช่องทาง โดยมุ่งเน้นไปที่ฝ่ายขายและบริการลูกค้าบริษัทเอง โดยบริษัทจะใช้ประโยชน์จากโครงข่ายปัจจุบัน และเพิ่มขีดความสามารถด้านการขายของบริษัท เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในภูมิภาคเดิมและภูมิภาคใหม่ ที่มีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจที่น่าสนใจ
โดยบริษัทจะใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของอัตราของการเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทย เพื่อเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ ADSL ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการที่ลูกค้าไม่ได้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบริษัท โดยวางแผนการใช้เงินลงทุนปี 2558 ประมาณ 6,000 ล้านบาท และปี 2559-2560 ปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะขยายการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมระดับตำบลทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไว้ประมาณ 2 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2558 ที่สำคัญบริษัทยังใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบด้านโครงข่ายและผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไป เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในเขตกทม.และเขตภูมิภาค โดยตั้งเป้าที่กลุ่มลูกค้ารายใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น