วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

ข้อเสนอของ ADVANC หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เพื่อขอซื้อใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 900 MHz เสมือนเป็นการสร้าง WIN-WIN กับทุกฝ่าย

            ข้อเสนอของ ADVANC หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เพื่อขอซื้อใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 900 MHz เสมือนเป็นการสร้าง  WIN-WIN กับทุกฝ่าย

                เพราะราคาที่ขอซื้อจะเท่ากับราคาที่ JAS ชนะประมูล
                นั่นคือ 7.56 หมื่นล้านบาท
                แม้ว่าในมุมมองของนักลงทุนอาจเป็นผลลบกับ ADVANC เพราะอาจไปกดดันผลประกอบการในปี 2559 แต่ก็เชื่อว่า ADVANC น่าจะดีดลูกคิดออกมาแล้วว่า “คุ้ม”
                เรื่องเงินสดในมือไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับ ADVANC
เช่นเดียวกับการหาแบงก์การันตี ก็เข้าใจเช่นกันว่า ADVANC น่าจะมีการหารือกับนายแบงก์หลายๆ ธนาคารไว้แล้ว
ยิ่งฟังการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสมือนมีนัยว่า พร้อมที่จะงัดมาตรา 44 ออกมาใช้เป็นกรณีพิเศษ
1.เงินยังเข้าประเทศครบถ้วนตามเดิม
                2.ประชาชนได้ใช้ 4G คลื่นความถี่ 900 MHz แบบไม่ต้องมารอการประมูลใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
                3.หากเปิดการประมูลใหม่ ก็น่าจะมีผู้ประกอบการแค่ 2 ราย นั่นคือ ADVANC และ DTAC เพราะ TRUE ถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว ส่วน JAS ก็ถูกขึ้นบัญชีดำ
จึงเหลือเพียง 2 รายเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่า DTAC จะตั้งแง่อะไรหรือไม่
ส่วน TRUE เองนั้น ก็คงงอแงอะไรต่อไม่ได้แล้วล่ะ
นั่นเพราะนอกจากจะถูกตัดสิทธิ์จากการได้ใบอนุญาตไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากจะมาโวยวายเรื่องราคาประมูล ก็คงจะไม่ได้ เพราะ ADVANC พร้อมซื้อในราคา 7.56 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ไม่น่าจะทำให้ TRUE เสียเปรียบอะไรตามที่เคยร่อนจดหมายออกมาก่อนหน้า
สมมุติว่า หากมีการใช้มาตรา 44 ขึ้นมาจริงๆ  นั่นก็เท่ากับว่า กสทช. ไม่ต้องมาตั้งโต๊ะเปิดประมูลกันใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มขึ้น
หากเป็นแบบนั้น ก็อาจไม่มีเรื่องที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ JAS เพิ่ม นอกเหนือจากการริบเงินประกัน 644 ล้านบาท
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังมีข่าวนี้ หุ้น JAS วิ่งตอบรับทันที
ราคาหุ้น JAS บวกขึ้นมา 0.12 บาท ปิดที่ 3.52 บาทต่อหุ้น สวนกับทิศทางของตลาดรวมที่ดัชนีปรับลดลงไป 26.68 จุด มาที่ 1,373.59 จุด ต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน
ก่อนหน้านี้ การมีการประเมินกันว่า หาก JAS ถูกฟ้องขึ้นมาจริงๆ
JAS ก็อาจต้องบันทึกหรือตั้งสำรองระดับหลักหมื่นล้านบาท ในกรณีที่หากราคาประมูลครั้งใหม่ต่ำกว่าราคาประมูลที่JAS เป็นฝ่ายชนะ
และนั่นยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ของ กสทช.ในการดำเนินการประมูลครั้งใหม่
ถึงอย่างไรเรื่องการฟ้อง JAS ก็ยังต้องติดตามกันต่อไป เพราะคณะกรรมการที่ กสทช.ตั้งขึ้น เพื่อเรียกค่าเสียหายจาก JAS เพิ่มเติม ยังคงทำงาน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ขณะที่ล่าสุด “พิชญ์ โพธารามิก” บอสใหญ่ของ JAS ก็ออกมาแถลงข่าวครั้งแรกเมื่อวันอังคาร
มีการบอกเบื้องหน้า เบื้องหลังเกี่ยวกับการประมูล 4G แบบค่อนข้างจะหมดเปลือก โดยเฉพาะเงื่อนไขของแบงก์กรุงเทพหรือ BBL ที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมถึงการหาพันธมิตรจากประเทศจีนเข้ามาช่วย
ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปพิสูจน์กันอีกครั้ง
เว้นเสียแต่ว่า หากมีการใช้มาตรา 44 ในกรณีของ ADVANC ขึ้นมาจริงๆ ทุกอย่างก็น่าจะจบลงได้
Happy Ending ทุกฝ่าย
ส่วนที่มีคำถามว่า ADVANC ต้องการช่วย JAS หรือไม่ มีการสะกิดขากันใต้โต๊ะหรือเปล่า เพราะ ADVANC เองก็ต้องพึ่งพา JAS ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะกับ JASIF
                เรื่องนี้อย่าไปคิดอะไรกันมากครับ
ดูอย่าง กสทช.สิ พอรับเรื่องจาก ADVANC ก็ส่งเรื่องไปให้กับ คสช.ทันที
เสมือนอยากให้เรื่องมันจบๆ ไป
เพราะดูแล้วทุกฝ่ายก็ WIN-WIN

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น