วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กองทุน GIC ของรัฐบาลสิงคโปร์ ทยอยเก็บหุ้นไทย มองน่าสนใจทั้งอัตราเติบโตและมูลค่า เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน นักวิเคราะห์แนะแบงก์ทหารไทยเด่น เมย์แบงก์ ซีไอเอ็มบีรุมทึ้ง รอเป้าหมายดัชนีที่ระดับ 1,684 จุด

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: GICเชียร์ซื้อหุ้นไทย
ต่างชาติเก็บTMB
รับดีลควบกิจการ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 05 สิงหาคม 2557
ผู้เข้าชม : 14 คน
กองทุน GIC ของรัฐบาลสิงคโปร์ ทยอยเก็บหุ้นไทย มองน่าสนใจทั้งอัตราเติบโตและมูลค่า เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน นักวิเคราะห์แนะแบงก์ทหารไทยเด่น เมย์แบงก์ ซีไอเอ็มบีรุมทึ้ง รอเป้าหมายดัชนีที่ระดับ 1,684 จุด



วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ ปิดบวก 19.18 จุด ที่ 1,519.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,052.78 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 1,059.97 ล้านบาท ภายหลังจากกองทุน GIC (Government of Singapore Investment Corporetion) ของรัฐบาลสิงคโปร์ มองว่าตลาด Emerging Market รวมทั้งตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุน

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี มองว่ากรณีตลาดรีบาวด์ส่วนหนึ่งคงมาจากที่กองทุน GIC (Government of Singapore Investment Corporetion) ของรัฐบาลสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ มองว่า Emerging Market ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุน ทั้งในแง่ของอัตราการเติบโต และ valuation จึงเป็นข่าวดีที่ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาวานนี้ ด้านปัจจัยในประเทศก็ให้ติดตามการทำงานของสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ต่อไป และก็คงจะเดินหน้าไปตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.วางไว้

สำหรับกองทุน GIC ลงทุนตามภูมิภาคอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้สัดส่วน 42% ในยุโรป 28% และเอเชีย 27% รวมถึงเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ก่อตั้งโดยรัฐบาลสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 1981 เพื่อนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปใช้ในการลงทุน จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ชนะอัตราเงินเฟ้อของโลกในระยะยาว โดยมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตลาดเงิน อสังหาริมทรัพย์และการลงทุนทางตรง โดย GIC มีสำนักงาน 9 แห่งกระจายอยู่ทั่วโลก

ขณะที่แหล่งข่าวจากตลาดทุน มองว่าหุ้นที่กองทุน GIC เข้ามาเก็บจะเป็นกลุ่มสถาบันการเงิน ซึ่งตัวที่น่าจับตามอง คือ แบงก์ทหารไทย หรือ TMB ซึ่งเป็นที่ต้องการของแบงก์มาเลเซีย โดยเฉพาะเมย์แบงก์ และซีไอเอ็มบี ที่มีแผนควบรวมกิจการ เพื่อเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน

“เมย์แบงก์พยายามที่แข่งขันกับซีไอเอ็มบีอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นจึงสนใจที่จะซื้อหุ้นแบงก์ทหารไทย ขณะที่ซีไอเอ็มบีเองก็อยู่ระหว่างเจรจาควบรวมกับแบงก์ RHB”

นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้หารือกับผู้บริการแบงก์พาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ แบงก์กรุงเทพ แบงก์กสิกรไทย และแบงก์ไทยพาณิชย์ เกี่ยวกับการแข่งขันกับแบงก์มาเลเซีย และสิงคโปร์ หลังเปิดการเสรีทางการค้าในอาเซียน ซึ่งแบงก์ชาติได้ให้ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมเป็นพันธมิตรกับแบงก์ทหารไทย เพื่อการแข่งขันในภูมิภาค

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการลงทุน บล.โนมูระพัฒนสิน กล่าวว่ารอเป้าหมายใหญ่ที่ระดับ 1,684 จุด ประเมินแนวรับที่ 1,494-1,487 จุด

อย่างไรก็ตามต้องติดตามในวันที่ 7 ส.ค.ในการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่อาจจะได้เห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมถ้าหากผลออกมาในสัญญาณเชิงบวกก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกปรับตัวขึ้นรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ทั้งนี้ ภายในประเทศรอดูการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 6 ส.ค.ซึ่งคาดว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 2% เพราะทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ยังคงนโยบายช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน จึงคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งไม่กระทบต่อตลาดหุ้น

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น