ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ยอดส่งเสริมลงทุนลดฮวบ
การเมือง วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 57 คน
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า มูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 3.37 แสนล้านบาท ลดลง 43.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ตัวเลขเดือนมิ.ย. ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่บีโอไอมองว่า ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในครึ่งหลังปีนี้จะฟื้นตัวขึ้น และทำให้ตัวเลขทั้งปี 57 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 7 แสนล้านบาท
"เดือนมิถุนายนถือเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนที่เคยชะลอการยื่นขอรับส่งเสริมช่วงสถานการณ์ทางการเมืองก่อนหน้านี้ กลับมามีความเชื่อมั่นและทยอยยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามาแล้ว"
การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 534 โครงการ ลดลง 34.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนรวม อยู่ที่ 3.37 แสนล้านบาท ลดลง 43.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณายอดขอรับส่งเสริมเป็นรายเดือน พบว่ายอดขอส่งเสริมการลงทุนเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค. ต่อเนื่องจนถึงเดือนมิ.ย. โดยเดือนพ.ค. มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 119 โครงการ ขณะที่เดือนมิ.ย. มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 132 โครงการ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน
สำหรับกิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยกลุ่มที่ได้รับความสนใจสูงสุด คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มีจำนวน 143 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 1.65
แสนล้านบาท
รองมาเป็นกิจการบริการและสาธารณูปโภค 198 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 9.29 หมื่นล้านบาท และกิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก 56 โครงการ เงินลงทุน 3.03 หมื่นล้านบาท
นายอุดม กล่าวอีกว่า การยื่นขอรับส่งเสริมทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเดือนมิ.ย. มีการยื่นขอรับส่งเสริม จำนวน 82 โครงการ สูงขึ้นกว่าเดือนพ.ค. ที่มี 73 โครงการ และเดือนเม.ย. ที่มี 69 โครงการ
โดยภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งสิ้น 407 โครงการ ลดลง 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 2.39 แสนล้านบาท ลดลง 14%
จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นักลงทุนจากญี่ปุ่นเป็นกลุ่มที่เข้ามาลงทุนในไทยสูงสุด โดยมีจำนวน 194 โครงการ เงินลงทุน 8.05 หมื่นล้านบาท ขณะที่การลงทุนจากสหรัฐ มีจำนวน 15 โครงการ เงินลงทุน 3.67 หมื่นล้านบาท เกาหลีใต้ มีทั้งสิ้น 21 โครงการ เงินลงทุนรวม 1.36 หมื่นล้านบาท และจีน มีจำนวน 9 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 9.43 พันล้านบาท
การเมือง วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 57 คน
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า มูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 3.37 แสนล้านบาท ลดลง 43.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ตัวเลขเดือนมิ.ย. ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่บีโอไอมองว่า ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในครึ่งหลังปีนี้จะฟื้นตัวขึ้น และทำให้ตัวเลขทั้งปี 57 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 7 แสนล้านบาท
"เดือนมิถุนายนถือเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนที่เคยชะลอการยื่นขอรับส่งเสริมช่วงสถานการณ์ทางการเมืองก่อนหน้านี้ กลับมามีความเชื่อมั่นและทยอยยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามาแล้ว"
การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 534 โครงการ ลดลง 34.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนรวม อยู่ที่ 3.37 แสนล้านบาท ลดลง 43.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณายอดขอรับส่งเสริมเป็นรายเดือน พบว่ายอดขอส่งเสริมการลงทุนเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค. ต่อเนื่องจนถึงเดือนมิ.ย. โดยเดือนพ.ค. มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 119 โครงการ ขณะที่เดือนมิ.ย. มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 132 โครงการ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน
สำหรับกิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยกลุ่มที่ได้รับความสนใจสูงสุด คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มีจำนวน 143 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 1.65
แสนล้านบาท
รองมาเป็นกิจการบริการและสาธารณูปโภค 198 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 9.29 หมื่นล้านบาท และกิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก 56 โครงการ เงินลงทุน 3.03 หมื่นล้านบาท
นายอุดม กล่าวอีกว่า การยื่นขอรับส่งเสริมทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเดือนมิ.ย. มีการยื่นขอรับส่งเสริม จำนวน 82 โครงการ สูงขึ้นกว่าเดือนพ.ค. ที่มี 73 โครงการ และเดือนเม.ย. ที่มี 69 โครงการ
โดยภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งสิ้น 407 โครงการ ลดลง 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 2.39 แสนล้านบาท ลดลง 14%
จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นักลงทุนจากญี่ปุ่นเป็นกลุ่มที่เข้ามาลงทุนในไทยสูงสุด โดยมีจำนวน 194 โครงการ เงินลงทุน 8.05 หมื่นล้านบาท ขณะที่การลงทุนจากสหรัฐ มีจำนวน 15 โครงการ เงินลงทุน 3.67 หมื่นล้านบาท เกาหลีใต้ มีทั้งสิ้น 21 โครงการ เงินลงทุนรวม 1.36 หมื่นล้านบาท และจีน มีจำนวน 9 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 9.43 พันล้านบาท
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น