ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: BTS-BLANDเงินล้น
ควงแขน“ซื้อหุ้นคืน”
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2557
ผู้เข้าชม : 27 คน
BTS-BLAND หุ้นพี่น้อง“ตระกูลกาญจนพาส์น”พร้อมใจประกาศซื้อหุ้นคืน BTS ตั้งวงเงินรับซื้อไม่เกิน 6,000 ล้านบาท รวม 600 ล้านหุ้น ส่วน BLAND ประกาศวงเงินซื้อคืน 3,000 ล้านบาท รวม 1,200 ล้านหุ้น
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stocks) ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 6,000 ล้านบาท
โดยจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนเท่ากับประมาณ 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หรือเท่ากับ 600 ล้านหุ้น โดยมีกำหนดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืน 6 เดือน เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 57–24 ก.พ. 58 และกำหนดวิธีการในการซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์
สำหรับสาเหตุที่ซื้อหุ้นคืน เพราะถือเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังทำให้เกณฑ์ในการวัดผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นดีขึ้น เช่น อัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ขณะที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ซื้อคืนจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 (เม.ย.-มิ.ย. 2557) ทางบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 650 ล้านบาท ปรับลดลง 94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ได้กำไรสุทธิระดับ 10,808 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,172 ล้านบาท ปรับลดลง 86.6% จากช่วงปีก่อนที่ได้ 16,152 ล้านบาท เพราะในช่วงไตรมาส 1 ปีที่แล้วมีการรับรู้กำไรจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตแก่ BTSGIF จำนวน 13,497 ล้านบาท
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน โดยกำหนดภายในวงเงินซื้อหุ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาท สำหรับจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 1,200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.81% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด มีวิธีการในการซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 57-25ก.พ. 58 เท่ากับเป็นภายในระยะเวลา 6 เดือน
ส่วนเหตุผลที่ซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน ROE รวมถึงEPS และเป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้จะส่งผลให้ปริมาณหมุนเวียนของหุ้นในตลาดลดลง ทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพ ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนไม่ได้รับปันผล
สำหรับหุ้น BLAND ที่มีทั้งสิ้น 2.06 หมื่นล้านหุ้น อยู่ในมือรายย่อยมีทั้งสิ้น 1.55 หมื่นล้านหุ้น คิดเป็น 75.42% และอยู่ในมือผู้บริหารบริษัทและผู้ที่ถือเกิน 5% จำนวน 5.0 พันล้านหุ้น คิดเป็น 24.58% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1 (เม.ย.-มิ.ย. 2557) บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 399 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อนที่ได้กำไรสุทธิ 372 ล้านบาท
ขณะที่แหล่งข่าวจากตลาดทุน เผยว่า ราคาซื้อหุ้นคืนของ BLAND เฉลี่ยไม่เกิน 2.5 บาทต่อหุ้น และมีแผนที่จะปรับราคามูลค่าหุ้นทางบัญชีเป็น 3.25 บาทต่อหุ้น จากปัจจุบัน 2.32 บาท จากการปรับมูลค่าของที่ดินของบริษัททั้งหมด ได้แก่ ที่ดินบริเวณศรีนครินทร์ ที่ดินเมืองทองธานี
พร้อมกับการขาย กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (IMPACT Growth Real Estate Investment Trust) มูลค่าไม่เกินกว่า 20,000 ล้านบาทภายในเดือนกันยายนนี้ ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อ BLAND แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้นจาก Target P/BV ที่ 1.2 เท่า
โดยมองว่าการจัดตั้ง REIT ที่จะสำเร็จไตรมาส 3/57 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ BLAND มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นเพื่อนำไป re-invest ในสินทรัพย์ที่ปัจจุบันยัง under value โดยเฉพาะการสร้างสินทรัพย์ใหม่เพื่อเพิ่ม Recurring ให้กับบริษัท และการซื้อหุ้นคืน คาดจะหนุนให้ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนสูงขึ้นและสามารถบริหารสภาพคล่องของหุ้นได้ดีขึ้น
สำหรับโครงการในอนาคตเน้นในเมืองและศรีนครินทร์ โดยเงินทุนหมุนเวียนและกำไรที่ได้ BLAND จะนำไปขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองทองธานีเพื่อเพิ่ม Asset Value และสร้างโอกาสการเพิ่ม Asset ในอนาคตให้กับกอง REIT เช่น การปรับปรุงพื้นที่ Hall 1-8 การขยายพื้นที่ Exhibition สร้างโรงแรม IBIS จำนวน 600 ห้อง สร้างส่วนพื้นที่ Retail นอกจากนี้จะเปิดโครงการศรีนครินทร์ เฟสที่ 1 มูลค่า 2,500 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/57 นี้
ควงแขน“ซื้อหุ้นคืน”
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2557
ผู้เข้าชม : 27 คน
BTS-BLAND หุ้นพี่น้อง“ตระกูลกาญจนพาส์น”พร้อมใจประกาศซื้อหุ้นคืน BTS ตั้งวงเงินรับซื้อไม่เกิน 6,000 ล้านบาท รวม 600 ล้านหุ้น ส่วน BLAND ประกาศวงเงินซื้อคืน 3,000 ล้านบาท รวม 1,200 ล้านหุ้น
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stocks) ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 6,000 ล้านบาท
โดยจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนเท่ากับประมาณ 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หรือเท่ากับ 600 ล้านหุ้น โดยมีกำหนดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืน 6 เดือน เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 57–24 ก.พ. 58 และกำหนดวิธีการในการซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์
สำหรับสาเหตุที่ซื้อหุ้นคืน เพราะถือเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังทำให้เกณฑ์ในการวัดผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นดีขึ้น เช่น อัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ขณะที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ซื้อคืนจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 (เม.ย.-มิ.ย. 2557) ทางบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 650 ล้านบาท ปรับลดลง 94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ได้กำไรสุทธิระดับ 10,808 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,172 ล้านบาท ปรับลดลง 86.6% จากช่วงปีก่อนที่ได้ 16,152 ล้านบาท เพราะในช่วงไตรมาส 1 ปีที่แล้วมีการรับรู้กำไรจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตแก่ BTSGIF จำนวน 13,497 ล้านบาท
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน โดยกำหนดภายในวงเงินซื้อหุ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาท สำหรับจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 1,200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.81% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด มีวิธีการในการซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 57-25ก.พ. 58 เท่ากับเป็นภายในระยะเวลา 6 เดือน
ส่วนเหตุผลที่ซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน ROE รวมถึงEPS และเป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้จะส่งผลให้ปริมาณหมุนเวียนของหุ้นในตลาดลดลง ทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพ ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนไม่ได้รับปันผล
สำหรับหุ้น BLAND ที่มีทั้งสิ้น 2.06 หมื่นล้านหุ้น อยู่ในมือรายย่อยมีทั้งสิ้น 1.55 หมื่นล้านหุ้น คิดเป็น 75.42% และอยู่ในมือผู้บริหารบริษัทและผู้ที่ถือเกิน 5% จำนวน 5.0 พันล้านหุ้น คิดเป็น 24.58% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1 (เม.ย.-มิ.ย. 2557) บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 399 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อนที่ได้กำไรสุทธิ 372 ล้านบาท
ขณะที่แหล่งข่าวจากตลาดทุน เผยว่า ราคาซื้อหุ้นคืนของ BLAND เฉลี่ยไม่เกิน 2.5 บาทต่อหุ้น และมีแผนที่จะปรับราคามูลค่าหุ้นทางบัญชีเป็น 3.25 บาทต่อหุ้น จากปัจจุบัน 2.32 บาท จากการปรับมูลค่าของที่ดินของบริษัททั้งหมด ได้แก่ ที่ดินบริเวณศรีนครินทร์ ที่ดินเมืองทองธานี
พร้อมกับการขาย กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (IMPACT Growth Real Estate Investment Trust) มูลค่าไม่เกินกว่า 20,000 ล้านบาทภายในเดือนกันยายนนี้ ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อ BLAND แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้นจาก Target P/BV ที่ 1.2 เท่า
โดยมองว่าการจัดตั้ง REIT ที่จะสำเร็จไตรมาส 3/57 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ BLAND มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นเพื่อนำไป re-invest ในสินทรัพย์ที่ปัจจุบันยัง under value โดยเฉพาะการสร้างสินทรัพย์ใหม่เพื่อเพิ่ม Recurring ให้กับบริษัท และการซื้อหุ้นคืน คาดจะหนุนให้ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนสูงขึ้นและสามารถบริหารสภาพคล่องของหุ้นได้ดีขึ้น
สำหรับโครงการในอนาคตเน้นในเมืองและศรีนครินทร์ โดยเงินทุนหมุนเวียนและกำไรที่ได้ BLAND จะนำไปขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองทองธานีเพื่อเพิ่ม Asset Value และสร้างโอกาสการเพิ่ม Asset ในอนาคตให้กับกอง REIT เช่น การปรับปรุงพื้นที่ Hall 1-8 การขยายพื้นที่ Exhibition สร้างโรงแรม IBIS จำนวน 600 ห้อง สร้างส่วนพื้นที่ Retail นอกจากนี้จะเปิดโครงการศรีนครินทร์ เฟสที่ 1 มูลค่า 2,500 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/57 นี้
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น