SIRIโชว์แบ็กล็อก6.2หมื่นล้าน
บริษัทจดทะเบียน วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556
SIRI แย้ม Q4/56 บุ๊ครายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท จากแบ็กล็อกรวม 6.22 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ยาว 4 ปี มั่นใจปีนี้ยอดขาย 4.3-4.5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเดินเครื่องโรงงานพรีคาสท์ 2 เพิ่มกำลังการผลิต 52,000 ตารางเมตรต่อเดือน
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/56 เป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงที่ดีที่สุดในรอบปี จากเดือนต.ค. 56-พ.ย. 56 บริษัทมียอดขายประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) สูงถึง 62,160 ล้านบาท และจะรับรู้ได้ในไตรมาส 4/56 ที่ 17,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะสามารถทยอยรับรู้ได้ถึง 4 ปี (ปี 2560)
โดยปัจจุบัน (1 ม.ค.-3 ธ.ค. 56) บริษัทสามารถสร้างยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41,500 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 43,000-45,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 42,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จำนวน 49โครงการ แบ่งเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียม 50% บ้านเดี่ยว 40% และทาวน์เฮาส์ 10% ซึ่งมีสัดส่วนครอบคลุมในกรุงเทพฯ 60% และต่างจังหวัด 40%
“ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันบริษัทเปิดโครงการใหม่สูงสุดจากแผนที่เคยเปิดโครงการภายในระยะเวลา 1 ปี ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ไปถึง 4 ปี ซึ่งนับว่าสูงที่สุดกว่า 62,160 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ไปถึงปี 2560” นายวันจักร์ กล่าว
นายวันจักร์ กล่าวต่อว่า ทั้งปี 2556 บริษัทคาดจะมีรายได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/56 จากการออกมาแสดงความเป็นห่วงหนี้ครัวเรือนของธนาคารแห่งประเทศไทย อีกทั้งอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เฉลี่ยทั้งปีคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 8% ของรายได้ ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่ 9%
ส่วนยอดการปฏิเสธ (reject) ของทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 5-6% เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมแผนในปีหน้า (ปี 2557) ที่จะเพิ่มจำนวนเงินดาวน์อีกประมาณ 1-2% จากปัจจุบันเงินดาวน์เฉลี่ยอยู่ที่ 12%
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า บริษัทคาดว่ายอดขายและรายได้จะใกล้เคียงหรือต่ำกว่าปีนี้เล็กน้อย เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจในปีหน้ายังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงการลงทุนจากทางภาครัฐ ทั้งโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ ว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงในปีหน้าหรือไม่
อีกทั้งในปีหน้ายังคาดว่าจะเปิดโครงการใหม่ไม่ถึง 40 โครงการ ซึ่งลดลงจากปีนี้ โดยคอนโดมิเนียมจะเปิดตัวลดลงจากสัดส่วนปัจจุบัน รวมถึงโครงการในต่างจังหวัดจะมีการเปิดลดน้อยลง ทั้งนี้ สัดส่วนโครงการในต่างจังหวัดจะเหลือเพียงประมาณ 30-35% ของโครงการทั้งหมดจากในปีนี้ที่อยู่ที่ประมาณ 40%
“กรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง แน่นอนเราจะต้องได้รับผลกระทบ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะกระทบมากหรือน้อยแค่ไหน เรากำลังรอดูผลกระทบจากยอดขาย หรือยอดโอนที่อาจน้อยลง ปัจจุบันยอดเข้าชมโครงการก็ลดลง หากตลาดไม่ดี ในปีหน้าเราก็จะเปิดตัวโครงการน้อยลง” นายวันจักร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ SIRI กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนพัฒนาโรงงานพรีคาสท์แห่งที่ 2 ภายใต้พื้นที่ของโรงงานทั้งหมด 17 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่การผลิตประมาณ 7,200 ตารางเมตร และพื้นที่จัดเก็บประมาณ 3,600 ตารางเมตร มูลค่าเงินลงทุน 160 ล้านบาท
สำหรับโรงงานพรีคาสท์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงงานแห่งแรก ที่ลำลูกกา คลอง 10 ปทุมธานี เพื่อผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป โดยวางเป้าหมายการผลิตชิ้นงาน พื้น, คาน, บันได และชิ้นงานตกแต่งอื่นๆ รวมถึงใช้ในการผลิตชิ้นส่วนงานผนังคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้โรงงานดังกล่าวจะเดินเครื่องการผลิตตั้งแต่ในเดือนธ.ค. 56 เป็นต้นไป และน่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเต็มกำลังการผลิตได้ในเดือนมี.ค. 57 ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 140,000 ตารางเมตรต่อเดือน โดยกำลังการผลิตในโรงงานพรีคาสท์แห่งที่ 2 ประกอบด้วย แผ่นพื้นอัตรากำลังการผลิต 10,000 ตารางเมตรต่อเดือน และผนังภายนอก 42,000 ตารางเมตรต่อเดือน จึงรวมเป็น 52,000 ตารางเมตรต่อเดือน ขณะที่กำลังการผลิตเดิมของโรงงานแห่งแรกผลิตได้ 150 ยูนิต หรือ 52,000 ตารางเมตรต่อเดือน
บริษัทจดทะเบียน วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556
SIRI แย้ม Q4/56 บุ๊ครายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท จากแบ็กล็อกรวม 6.22 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ยาว 4 ปี มั่นใจปีนี้ยอดขาย 4.3-4.5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเดินเครื่องโรงงานพรีคาสท์ 2 เพิ่มกำลังการผลิต 52,000 ตารางเมตรต่อเดือน
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/56 เป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงที่ดีที่สุดในรอบปี จากเดือนต.ค. 56-พ.ย. 56 บริษัทมียอดขายประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) สูงถึง 62,160 ล้านบาท และจะรับรู้ได้ในไตรมาส 4/56 ที่ 17,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะสามารถทยอยรับรู้ได้ถึง 4 ปี (ปี 2560)
โดยปัจจุบัน (1 ม.ค.-3 ธ.ค. 56) บริษัทสามารถสร้างยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41,500 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 43,000-45,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 42,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จำนวน 49โครงการ แบ่งเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียม 50% บ้านเดี่ยว 40% และทาวน์เฮาส์ 10% ซึ่งมีสัดส่วนครอบคลุมในกรุงเทพฯ 60% และต่างจังหวัด 40%
“ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันบริษัทเปิดโครงการใหม่สูงสุดจากแผนที่เคยเปิดโครงการภายในระยะเวลา 1 ปี ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ไปถึง 4 ปี ซึ่งนับว่าสูงที่สุดกว่า 62,160 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ไปถึงปี 2560” นายวันจักร์ กล่าว
นายวันจักร์ กล่าวต่อว่า ทั้งปี 2556 บริษัทคาดจะมีรายได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/56 จากการออกมาแสดงความเป็นห่วงหนี้ครัวเรือนของธนาคารแห่งประเทศไทย อีกทั้งอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เฉลี่ยทั้งปีคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 8% ของรายได้ ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่ 9%
ส่วนยอดการปฏิเสธ (reject) ของทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 5-6% เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมแผนในปีหน้า (ปี 2557) ที่จะเพิ่มจำนวนเงินดาวน์อีกประมาณ 1-2% จากปัจจุบันเงินดาวน์เฉลี่ยอยู่ที่ 12%
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า บริษัทคาดว่ายอดขายและรายได้จะใกล้เคียงหรือต่ำกว่าปีนี้เล็กน้อย เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจในปีหน้ายังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงการลงทุนจากทางภาครัฐ ทั้งโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ ว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงในปีหน้าหรือไม่
อีกทั้งในปีหน้ายังคาดว่าจะเปิดโครงการใหม่ไม่ถึง 40 โครงการ ซึ่งลดลงจากปีนี้ โดยคอนโดมิเนียมจะเปิดตัวลดลงจากสัดส่วนปัจจุบัน รวมถึงโครงการในต่างจังหวัดจะมีการเปิดลดน้อยลง ทั้งนี้ สัดส่วนโครงการในต่างจังหวัดจะเหลือเพียงประมาณ 30-35% ของโครงการทั้งหมดจากในปีนี้ที่อยู่ที่ประมาณ 40%
“กรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง แน่นอนเราจะต้องได้รับผลกระทบ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะกระทบมากหรือน้อยแค่ไหน เรากำลังรอดูผลกระทบจากยอดขาย หรือยอดโอนที่อาจน้อยลง ปัจจุบันยอดเข้าชมโครงการก็ลดลง หากตลาดไม่ดี ในปีหน้าเราก็จะเปิดตัวโครงการน้อยลง” นายวันจักร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ SIRI กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนพัฒนาโรงงานพรีคาสท์แห่งที่ 2 ภายใต้พื้นที่ของโรงงานทั้งหมด 17 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่การผลิตประมาณ 7,200 ตารางเมตร และพื้นที่จัดเก็บประมาณ 3,600 ตารางเมตร มูลค่าเงินลงทุน 160 ล้านบาท
สำหรับโรงงานพรีคาสท์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงงานแห่งแรก ที่ลำลูกกา คลอง 10 ปทุมธานี เพื่อผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป โดยวางเป้าหมายการผลิตชิ้นงาน พื้น, คาน, บันได และชิ้นงานตกแต่งอื่นๆ รวมถึงใช้ในการผลิตชิ้นส่วนงานผนังคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้โรงงานดังกล่าวจะเดินเครื่องการผลิตตั้งแต่ในเดือนธ.ค. 56 เป็นต้นไป และน่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเต็มกำลังการผลิตได้ในเดือนมี.ค. 57 ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 140,000 ตารางเมตรต่อเดือน โดยกำลังการผลิตในโรงงานพรีคาสท์แห่งที่ 2 ประกอบด้วย แผ่นพื้นอัตรากำลังการผลิต 10,000 ตารางเมตรต่อเดือน และผนังภายนอก 42,000 ตารางเมตรต่อเดือน จึงรวมเป็น 52,000 ตารางเมตรต่อเดือน ขณะที่กำลังการผลิตเดิมของโรงงานแห่งแรกผลิตได้ 150 ยูนิต หรือ 52,000 ตารางเมตรต่อเดือน
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น