ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: นิวส์เวฟ
คอลัมน์ วันอังคารที่ 03 ธันวาคม 2556
ผู้เข้าชม : 8 คน
นิวส์เวฟ : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. 2556 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,374.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.13 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท
.............................................................
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. 2556 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,374.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.13 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท * ขอปรบมือดังๆ ให้กับพี่ SET ที่สามารถพลิกกลับมาปิดบวกจนหนีพ้นแดนลบไปได้ โดยในช่วงภาคเช้าตลาดหุ้นไทยปิดลบไปถึง 15 จุด พร้อมกับทำมูลค่าซื้อขายครึ่งวันแรกไป 1.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาคบ่ายหนังกลายเป็นคนละม้วน พี่ SET ทยอยฟื้นตัวขึ้นทีละนิดจนสามารถปีนพ้นแดนลบ และกลับมายืนบวกได้ 3 จุด โดยในช่วงบ่ายมีมูลค่าซื้อขายอีก 1.9 หมื่นล้านบาท เบ็ดเสร็จรวมทั้งวัน 3.2 หมื่นล้านบาท * ขณะที่ต่างชาติรับบทบาทเดิมไม่มีเปลี่ยน เพราะทิ้งขายสุทธิหนักถึง 6,380 ล้านบาท แต่ยังดีที่พี่ SET ได้ 3 ประสานซื้อสุทธิช่วยพยุง ซึ่งรายย่อยจัดหนักเก็บไปถึง 2,963 ล้านบาท ตามด้วยสถาบัน 1,796 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อีก 1,620 ล้านบาท * * หุ้น PTTEP กลับมาเป็นพี่เทพสมชื่ออีกครั้ง เมื่อวานซัดปิดบวก 168.50 บาท เพิ่มอีก 8.50 บาท เท่ากับสูงขึ้นกว่า 5% แหม ไม่ได้เห็นพี่เทพทำราคาหุ้นเพิ่มขึ้นแบบโหดๆ มานานแล้วนะเนี่ย * สำหรับ PTTEP ได้ข่าวดีสำคัญอย่างการจับมือกับ PERTAMINA เข้าซื้อบริษัทลูก HESS CORP โดยลงทุนตกฝ่ายละประมาณ 20,000 ล้านบาท การลงทุนรอบนี้นับเป็นเรื่องบวกเต็มกำลัง เพราะถือเป็นโครงการที่เดินเครื่องผลิตอยู่แล้ว ทำให้ช่วงปี 57 พี่เทพจะเริ่มได้รับผลบวกทันที โดยไม่ต้องนั่งรอยาวนานเหมือนเช่นโครงการอื่น * หุ้น AMATA เจอแรงเทขายถล่มไม่ยั้ง หลังจากทางผู้บริหารปรับเป้ายอดขายปีนี้ลดลงเหลือ 1,000 ไร่ จากเดิม 3,000 ไร่ กดให้ราคาหุ้นปิดลบ 15.40 บาท ดิ่งลงไปกว่า 2.5% เลยทีเดียว ปัญหาหลักหนีไม่พ้นการเมือง ก็เลยทำให้ลูกค้ารายใหญ่ชะลอแผนซื้อที่ดินออกไปก่อน * ที่จริงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของ AMATA ยังถือว่าทำได้ดี เพราะมีกำไรสุทธิไปแล้วถึง 1,440 ล้านบาท ดังนั้น ภาพรวมทั้งปี 56 จึงยังเติบโตกว่าปีก่อนได้แน่นอน เพียงแต่ด้วยแรงข่าวร้ายที่ออกมาค่อนข้างหนักหนาสาหัส จึงยังไม่ใช่เวลาที่จะหาโอกาสเข้าช้อนซื้อ * ฟาก HEMRAJ ปิดลบไปกว่า 20% ทำราคาหุ้นเหลือแค่ 3.20 บาท ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเพราะ “อมตะเอฟเฟ็กต์” กดให้ราคาดิ่งลงตามกัน * แต่ที่ไหนได้ต้นเหตุมาจากราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ก่อนปิดบวกแรงถึง 29.5% (แบบไร้เหตุผล) เมื่อวานก็เลยถูกทุบขายหนัก เนื่องจากมีการมองกันว่า ที่ราคาบวกขึ้นมาแรงครั้งก่อน อาจเป็นเพราะส่งคำสั่งซื้อกันผิดเท่านั้นเอง (อ้าวเป็นงั้นไป) * หุ้น DELTA แอบทำราคาบวกสูงขึ้นไม่เบา บอกแล้วหุ้นนี้เห็นช่วงไหนลงหนักควรต้องรีบเก็บ เพราะถือเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแกร่ง ซึ่งแม้อุตสาหกรรมหรือเศรษฐกิจจะย่ำแย่แค่ไหน ก็ยังคงรักษาฐานทำกำไรได้ต่อเนื่อง สะท้อนได้จากงบรอบ 5 ปีล่าสุดที่ยังคงมีกำไรต่อเนื่องเสมอ * ขณะที่ราคาหุ้นของ DELTA ในกระดานขยับขึ้นมาใกล้ชนแนวต้านประจำ 49 บาทกันแล้ว ถ้าผ่านไปได้ก็มีลุ้นที่จะวิ่งต่อได้อีกพอควร เพราะช่วงนี้มีปัจจัยบวกอย่างเงินบาทอ่อนค่ามาเป็นแรงผลักดัน แต่ถ้าไม่ผ่านแนวต้านก็แนะให้ขายทำกำไรไปก่อน * หุ้น AOT ดิ่งลงหนักไม่สนใจข่าวดีอย่างกำไรปี 56 ที่ทำได้สูงท่วมท้นถึง 1.6 หมื่นล้านบาท หรือ จะเป็นเงินปันผลที่คาดกันว่ามีแนวโน้มจ่ายไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อหุ้น เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลถึงปัญหาการเมืองจะไปกระทบตัวธุรกิจ * แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งหากสถานการณ์กลับมาดีขึ้น หุ้น AOT ก็จะได้รับผลบวกกันแบบเต็มกำลังเช่นกัน แถมหุ้นยังมีอัพไซด์อีกหากปัจจัยการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมใช้สนามบิน (PSC) ได้รับอนุมัติในอนาคต ดังนั้น เมื่อหยิบมุมร้ายมาทบทวนไปแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามมุมบวกที่ซ่อนไว้ด้วยนะ * ทิ้งท้ายกันด้วยเรื่องปัญหาการเมืองที่กำลังวุ่นวายในปัจจุบัน แน่นอนทุกคนมีสิทธิที่จะคิดหรือเชื่อฝ่ายไหนก็ได้ แต่ก็ไม่ควรขาดสติ จนลืมหยิบข้อเท็จจริงมาพิจารณาควบคู่ไปด้วย อย่าคิดแต่อยากเอาชนะจนกลายเป็นคนคลุ้มคลั่ง เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ สุดท้ายแล้วคนไทยทั้งหมดล้วนเจ็บตัวหนักไม่แตกต่างกัน *
คอลัมน์ วันอังคารที่ 03 ธันวาคม 2556
ผู้เข้าชม : 8 คน
นิวส์เวฟ : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. 2556 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,374.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.13 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท
.............................................................
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. 2556 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,374.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.13 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท * ขอปรบมือดังๆ ให้กับพี่ SET ที่สามารถพลิกกลับมาปิดบวกจนหนีพ้นแดนลบไปได้ โดยในช่วงภาคเช้าตลาดหุ้นไทยปิดลบไปถึง 15 จุด พร้อมกับทำมูลค่าซื้อขายครึ่งวันแรกไป 1.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาคบ่ายหนังกลายเป็นคนละม้วน พี่ SET ทยอยฟื้นตัวขึ้นทีละนิดจนสามารถปีนพ้นแดนลบ และกลับมายืนบวกได้ 3 จุด โดยในช่วงบ่ายมีมูลค่าซื้อขายอีก 1.9 หมื่นล้านบาท เบ็ดเสร็จรวมทั้งวัน 3.2 หมื่นล้านบาท * ขณะที่ต่างชาติรับบทบาทเดิมไม่มีเปลี่ยน เพราะทิ้งขายสุทธิหนักถึง 6,380 ล้านบาท แต่ยังดีที่พี่ SET ได้ 3 ประสานซื้อสุทธิช่วยพยุง ซึ่งรายย่อยจัดหนักเก็บไปถึง 2,963 ล้านบาท ตามด้วยสถาบัน 1,796 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อีก 1,620 ล้านบาท * * หุ้น PTTEP กลับมาเป็นพี่เทพสมชื่ออีกครั้ง เมื่อวานซัดปิดบวก 168.50 บาท เพิ่มอีก 8.50 บาท เท่ากับสูงขึ้นกว่า 5% แหม ไม่ได้เห็นพี่เทพทำราคาหุ้นเพิ่มขึ้นแบบโหดๆ มานานแล้วนะเนี่ย * สำหรับ PTTEP ได้ข่าวดีสำคัญอย่างการจับมือกับ PERTAMINA เข้าซื้อบริษัทลูก HESS CORP โดยลงทุนตกฝ่ายละประมาณ 20,000 ล้านบาท การลงทุนรอบนี้นับเป็นเรื่องบวกเต็มกำลัง เพราะถือเป็นโครงการที่เดินเครื่องผลิตอยู่แล้ว ทำให้ช่วงปี 57 พี่เทพจะเริ่มได้รับผลบวกทันที โดยไม่ต้องนั่งรอยาวนานเหมือนเช่นโครงการอื่น * หุ้น AMATA เจอแรงเทขายถล่มไม่ยั้ง หลังจากทางผู้บริหารปรับเป้ายอดขายปีนี้ลดลงเหลือ 1,000 ไร่ จากเดิม 3,000 ไร่ กดให้ราคาหุ้นปิดลบ 15.40 บาท ดิ่งลงไปกว่า 2.5% เลยทีเดียว ปัญหาหลักหนีไม่พ้นการเมือง ก็เลยทำให้ลูกค้ารายใหญ่ชะลอแผนซื้อที่ดินออกไปก่อน * ที่จริงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของ AMATA ยังถือว่าทำได้ดี เพราะมีกำไรสุทธิไปแล้วถึง 1,440 ล้านบาท ดังนั้น ภาพรวมทั้งปี 56 จึงยังเติบโตกว่าปีก่อนได้แน่นอน เพียงแต่ด้วยแรงข่าวร้ายที่ออกมาค่อนข้างหนักหนาสาหัส จึงยังไม่ใช่เวลาที่จะหาโอกาสเข้าช้อนซื้อ * ฟาก HEMRAJ ปิดลบไปกว่า 20% ทำราคาหุ้นเหลือแค่ 3.20 บาท ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเพราะ “อมตะเอฟเฟ็กต์” กดให้ราคาดิ่งลงตามกัน * แต่ที่ไหนได้ต้นเหตุมาจากราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ก่อนปิดบวกแรงถึง 29.5% (แบบไร้เหตุผล) เมื่อวานก็เลยถูกทุบขายหนัก เนื่องจากมีการมองกันว่า ที่ราคาบวกขึ้นมาแรงครั้งก่อน อาจเป็นเพราะส่งคำสั่งซื้อกันผิดเท่านั้นเอง (อ้าวเป็นงั้นไป) * หุ้น DELTA แอบทำราคาบวกสูงขึ้นไม่เบา บอกแล้วหุ้นนี้เห็นช่วงไหนลงหนักควรต้องรีบเก็บ เพราะถือเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแกร่ง ซึ่งแม้อุตสาหกรรมหรือเศรษฐกิจจะย่ำแย่แค่ไหน ก็ยังคงรักษาฐานทำกำไรได้ต่อเนื่อง สะท้อนได้จากงบรอบ 5 ปีล่าสุดที่ยังคงมีกำไรต่อเนื่องเสมอ * ขณะที่ราคาหุ้นของ DELTA ในกระดานขยับขึ้นมาใกล้ชนแนวต้านประจำ 49 บาทกันแล้ว ถ้าผ่านไปได้ก็มีลุ้นที่จะวิ่งต่อได้อีกพอควร เพราะช่วงนี้มีปัจจัยบวกอย่างเงินบาทอ่อนค่ามาเป็นแรงผลักดัน แต่ถ้าไม่ผ่านแนวต้านก็แนะให้ขายทำกำไรไปก่อน * หุ้น AOT ดิ่งลงหนักไม่สนใจข่าวดีอย่างกำไรปี 56 ที่ทำได้สูงท่วมท้นถึง 1.6 หมื่นล้านบาท หรือ จะเป็นเงินปันผลที่คาดกันว่ามีแนวโน้มจ่ายไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อหุ้น เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลถึงปัญหาการเมืองจะไปกระทบตัวธุรกิจ * แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งหากสถานการณ์กลับมาดีขึ้น หุ้น AOT ก็จะได้รับผลบวกกันแบบเต็มกำลังเช่นกัน แถมหุ้นยังมีอัพไซด์อีกหากปัจจัยการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมใช้สนามบิน (PSC) ได้รับอนุมัติในอนาคต ดังนั้น เมื่อหยิบมุมร้ายมาทบทวนไปแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามมุมบวกที่ซ่อนไว้ด้วยนะ * ทิ้งท้ายกันด้วยเรื่องปัญหาการเมืองที่กำลังวุ่นวายในปัจจุบัน แน่นอนทุกคนมีสิทธิที่จะคิดหรือเชื่อฝ่ายไหนก็ได้ แต่ก็ไม่ควรขาดสติ จนลืมหยิบข้อเท็จจริงมาพิจารณาควบคู่ไปด้วย อย่าคิดแต่อยากเอาชนะจนกลายเป็นคนคลุ้มคลั่ง เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ สุดท้ายแล้วคนไทยทั้งหมดล้วนเจ็บตัวหนักไม่แตกต่างกัน *
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น