ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: เงินวายุภักษ์7.7หมื่นล.
จ่อไหลเข้าตลาดวันนี้
แรงขายต่างชาติใกล้หมด แนะเก็บหุ้นดีราคาถูกก่อนเด้ง
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 09 ธันวาคม 2556
วันนี้เงินวายุภักษ์ 7.7 หมื่นล้านไหลเข้าตลาดทุน หลังโอนเงินคืนผู้ถือหน่วยลงทุน ระบุนักลงทุนต้องหาแหล่งลงทุนใหม่ เล็งตลาดตราสารหนี้ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และตลาดหุ้น หลังรับกำไรส่วนต่างกว่า 11% จากกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง แรงขายต่างชาติใกล้หมด
แหล่งข่าวจากตลาดทุน เผยว่า ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ กองทุนวายุภักษ์จะโอนเงินสดคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทั้งหมด 7.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของนักลงทุนประเภท ก. ที่ประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยคาดว่าเงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่งจะโยกมาลงทุนในตลาดตราสารหนี้และตลาดทุน
“เชื่อว่าเงินกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทจะโยกมาหาแหล่งเงินทุนใหม่ เช่นตลาดตราสารหนี้ และตลาดทุน ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป โดยส่วนหนึ่งอาจนำเงินไปลงทุนในตลาดพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทน 3% กว่า และอีกส่วนหนึ่งนำไปลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ทยอยออกมาก่อนหน้านี้ และอีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปลงทุนในตลาดหุ้นโดยตรง
สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนวายุภักษ์ ตั้งแต่เริ่มขายที่หน่วยละ 10 บาท จะได้รับส่วนต่างจากการลงทุนประมาณ 11% โดยราคาเอ็นเอวี ณ วันที่ 29 พ.ย. อยู่ที่ 11.0844 บาทต่อหน่วย
โดยผู้ลงทุนประเภท ก. ประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบัน อาทิ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 2,940,452,500 หน่วย หรือ 29.40% 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถือ 1,068,856,600 หน่วย หรือ 10.69% 3.ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ถือ 539,970,000 หน่วย หรือ 5.40% 4.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 250,000,000 หน่วย หรือ 2.50% 5.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 172,167,800 หน่วย หรือ 1.72%
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. จะเป็นวันแรกที่แปลงสภาพ โดยกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มจ่ายเงินคืนผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนด 5 วันทำการ คือภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
ส่วนกองทุนวายุภักษ์กองใหม่ คลังได้รับยกเว้นให้ถือเกิน 95% และมีผู้ร่วมลงทุนครบ 35 ราย ประกอบด้วยรัฐวิสาหกิจและบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน เป็นต้น
นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่ 1,340 - 1,380 จุด แนะให้ใช้ความระมัดระวัง โดยระยะสั้นสามารถเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มที่ให้เงินปันผลสูง เพื่อรองรับความผันผวน แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ทวีความรุนแรง แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมาหนักมากในขณะนี้ น่าจะเริ่มชะลอตัวลง โดยภายในเดือนพ.ย. นักลงทุนเทขายสุทธิสูงถึง 48,074.94 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก
“พบว่าเพียงแค่ 4 วันทำการแรกของเดือน ธ.ค.นักลงทุนต่างชาติมีการเทขายหนักไปเกือบ 2 หมื่นล้านบาท แต่เชื่อว่าช่วงกลางเดือนนี้ น่าจะเริ่มชะลอตัวได้ ประกอบกับถ้าพิจารณาผลตอบแทนจากเงินปันผลและผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน น่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นไทยต่อไปได้”
จ่อไหลเข้าตลาดวันนี้
แรงขายต่างชาติใกล้หมด แนะเก็บหุ้นดีราคาถูกก่อนเด้ง
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 09 ธันวาคม 2556
วันนี้เงินวายุภักษ์ 7.7 หมื่นล้านไหลเข้าตลาดทุน หลังโอนเงินคืนผู้ถือหน่วยลงทุน ระบุนักลงทุนต้องหาแหล่งลงทุนใหม่ เล็งตลาดตราสารหนี้ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และตลาดหุ้น หลังรับกำไรส่วนต่างกว่า 11% จากกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง แรงขายต่างชาติใกล้หมด
แหล่งข่าวจากตลาดทุน เผยว่า ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ กองทุนวายุภักษ์จะโอนเงินสดคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทั้งหมด 7.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของนักลงทุนประเภท ก. ที่ประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยคาดว่าเงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่งจะโยกมาลงทุนในตลาดตราสารหนี้และตลาดทุน
“เชื่อว่าเงินกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทจะโยกมาหาแหล่งเงินทุนใหม่ เช่นตลาดตราสารหนี้ และตลาดทุน ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป โดยส่วนหนึ่งอาจนำเงินไปลงทุนในตลาดพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทน 3% กว่า และอีกส่วนหนึ่งนำไปลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ทยอยออกมาก่อนหน้านี้ และอีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปลงทุนในตลาดหุ้นโดยตรง
สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนวายุภักษ์ ตั้งแต่เริ่มขายที่หน่วยละ 10 บาท จะได้รับส่วนต่างจากการลงทุนประมาณ 11% โดยราคาเอ็นเอวี ณ วันที่ 29 พ.ย. อยู่ที่ 11.0844 บาทต่อหน่วย
โดยผู้ลงทุนประเภท ก. ประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบัน อาทิ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 2,940,452,500 หน่วย หรือ 29.40% 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถือ 1,068,856,600 หน่วย หรือ 10.69% 3.ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ถือ 539,970,000 หน่วย หรือ 5.40% 4.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 250,000,000 หน่วย หรือ 2.50% 5.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 172,167,800 หน่วย หรือ 1.72%
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. จะเป็นวันแรกที่แปลงสภาพ โดยกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มจ่ายเงินคืนผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนด 5 วันทำการ คือภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
ส่วนกองทุนวายุภักษ์กองใหม่ คลังได้รับยกเว้นให้ถือเกิน 95% และมีผู้ร่วมลงทุนครบ 35 ราย ประกอบด้วยรัฐวิสาหกิจและบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน เป็นต้น
นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่ 1,340 - 1,380 จุด แนะให้ใช้ความระมัดระวัง โดยระยะสั้นสามารถเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มที่ให้เงินปันผลสูง เพื่อรองรับความผันผวน แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ทวีความรุนแรง แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมาหนักมากในขณะนี้ น่าจะเริ่มชะลอตัวลง โดยภายในเดือนพ.ย. นักลงทุนเทขายสุทธิสูงถึง 48,074.94 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก
“พบว่าเพียงแค่ 4 วันทำการแรกของเดือน ธ.ค.นักลงทุนต่างชาติมีการเทขายหนักไปเกือบ 2 หมื่นล้านบาท แต่เชื่อว่าช่วงกลางเดือนนี้ น่าจะเริ่มชะลอตัวได้ ประกอบกับถ้าพิจารณาผลตอบแทนจากเงินปันผลและผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน น่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นไทยต่อไปได้”
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น