หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นก่อนรู้ผลประชุมเฟด
ต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 ผู้เข้าชม : 6 คน
ซีเอ็นบีซี - ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ก่อนที่จะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ และมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองของสหรัฐในเวลาต่อมา นักวิเคราะห์ชี้หากจีดีพีสหรัฐโตในอัตราที่สูงกว่าประมาณการของทางการ ก็จะมีการพูดถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวอลล์สตรีท
สำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสองของสหรัฐจะโต 3% ในขณะที่มีการมองกันว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดการซื้อสินทรัพย์ประจำเดือนลงอีกประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยเหลือ 25,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
อีแวน ลูคัส นักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทไอจี ตั้งข้อสังเกตว่า คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีของเฟดจับตาตัวเลขจีดีพีอย่างจริงจัง และหากตัวเลขจีดีพีโตในอัตราที่สูงกว่าประมาณการของทางการ ก็จะมีการพูดถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวอลล์สตรีท
ความวิตกเกี่ยวกับอาร์เจนตินาก็เป็นปัจจัยสำคัญในตลาดเช่นกัน รัฐบาลอาร์เจนตินาและศาลแต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อเริ่มเจรจากับเจ้าหนี้ในวันพุธ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ทันเวลา
ในขณะเดียวกัน ยุโรปและสหรัฐประกาศมาตรการลงโทษใหม่ต่อรัสเซียเมื่อวันอังคารเพื่อพยายามกดดันรัฐบาลมอสโกให้ดำเนินการมากขึ้น เพื่อยุติกิจกรรมของกลุ่มกบฏในยูเครน ข่าวนี้ส่งผลให้หุ้นสหรัฐปรับตัวลงจนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ลงไปยืนในระดับต่ำกว่า 17,000 จุด
ดัชนีนิกเกอิ ปรับตัวขึ้น 0.2% โดยพุ่งสูงสุดในรอบหกเดือนอีกครั้งเป็นวันที่สามติดต่อกัน แม้ว่าข้อมูลที่เปิดเผยก่อนตลาดเปิดจะสร้างความผิดหวัง ซึ่งอัตราผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 3.3% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ซึ่งต่ำกว่าที่ประมาณการไว้มากและถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบสองเดือน
ตลาดญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากข่าวผลกำไรบริษัทมาก บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ดีดตัว 3% หลังจากประกาศว่ากำไรจากการดำเนินงานในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนเพิ่มขึ้น 7.1% ต่อปี แต่เจแปน แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 3.5% หลังจากที่กำไรลดลง 19% ต่อปี ส่วนสกายมาร์ก แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 13% หลังจากที่แอร์บัสยกเลิกข้อตกลงที่จะขายเครื่องบินเอ 380 จำนวนหกลำ และแมคโดนัลด์ส์ เจแปน ปรับตัวลงเกือบ 13% หลังจากบริษัทยกเลิกประมาณการกำไรเนื่องจากเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเนื้อวัวในจีนซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัท เซี่ยงไฮ้ หูซี
หุ้นจีนปิดทั้งบวกและลบ โดยตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ปิดในแดนลบหลังจากที่พุ่งขึ้นมา 6 วันติดต่อกัน บริษัทอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากสุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกง ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดสูงสุดในรอบ 7 เดือนอีกครั้ง
ตลาดออสเตรเลียก็ปรับตัวขึ้น 0.6% ดัชนี S&P ASX 200 พุ่งทำนิวไฮในรอบ 6 ปีเป็นวันที่สองติดกัน ขณะที่ดัชนีคอสปิ ปรับตัวขึ้น 1% หุ้นเกาหลีใต้พุ่งสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 เป็นวันที่สองติดต่อกัน และได้ดีดตัวเป็นเดือนที่สี่หลังจากที่ผลผลิตของโรงงานในเดือนมิถุนายนใกล้สูงสุดในรอบห้าปี
ในบรรดาหุ้นเกาหลีใต้ที่ดีดตัวมากสุดคือ ฮุนได มอเตอร์ โดยปรับตัวขึ้น 3% ในทางตรงข้าม หุ้นฮุนได เฮวี่ ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือรายใหญ่สุดของโลก ปรับตัวลง 9.5% หลังจากที่รายงานว่าขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,000 ล้านดอลลาร์
หุ้นยุโรปสวนกระแสหุ้นเอเชีย ดัชนีเอฟทีเอสยูโรเฟิร์ส 300 ปรับตัวลงในช่วงเช้า หลังจากที่ดีดตัวถึง 0.3% เมื่อวันอังคาร
นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า ข้อมูลที่เป็นบวกเมื่อเร็วๆ นี้ เช่น ข่าวที่ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งเป็น 90.9 ในเดือนกรกฎาคม อาจชักจูงให้ธนาคารกลางสหรัฐปรับการใช้ภาษาเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตเมื่อมีการแถลงนโยบายเงินในวันพฤหัสบดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น