วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

IRPCลุ้นQ1โต900% โชว์กำไร3.6พันล้าน :GIM พุ่ง 13 เหรียญฯ งบปีนี้เทิร์นอะราวด์

IRPCลุ้นQ1โต900%
โชว์กำไร3.6พันล้าน
:GIM พุ่ง 13 เหรียญฯ งบปีนี้เทิร์นอะราวด์

2015-04-29 12:05:00
ผู้เข้าชม : 9

"ไออาร์พีซี" ลุ้นไตรมาส 1/58 กำไรสุทธิพุ่ง 3,684 ล้านบาท โตขึ้น 971% รับผลบวก GIM ทะยาน 13 เหรียญฯ งบปี 58 พลิกกำไรทะลุ 8,000 ล้านบาท ซุกข่าวดีหนุนหุ้นตลอดปี

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/58 ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จะมีโอกาสทำกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 3,684 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาส 4/57 ที่ขาดทุนสุทธิ 5,779 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 971% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ได้กำไรสุทธิจำนวน 344 ล้านบาท
โดยฝ่ายวิจัยได้กำหนดมูลค่าพื้นฐานปี 2558 เท่ากับ 5.20 บาทต่อหุ้น พร้อมกับยังคงคำแนะนำ “ซื้อลงทุน” จากเติบโตอย่างแข็งแกร่งบนพื้นฐานใหม่ หลังจากจากแผนลงทุน Phoenix แล้วเสร็จ ซึ่งจะส่งผลให้ PER ในปี 2558 ปรับตัวลดลงเหลือ 11.5 เท่า และลดลงเหลือ 10.3 เท่าในปี 2559
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/58 ที่พลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิสูงถึง 3,684 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/57 ที่ขาดทุนสุทธิ เนื่องจากมีปัจจัยหนุนบันทึกขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน และ LCM เหลือเพียง 0.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือคิดเป็นมูลค่า 261 ล้านบาท จากงวดก่อนหน้าที่บันทึกขาดทุนถึง 16.04 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือมูลค่าราว 8.8 พันล้านบาท
ขณะที่ Market GIM ในงวดไตรมาส 1/58 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 25.9% จากไตรมาส 4/57 มาอยู่ที่ระดับ 13.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม Crack spread น้ำมันเตาและแนฟทาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับอานิสงส์จาก Fuel loss (ค่าสูญสิ้นเปลือง) และ Crude Premium ทีปรับตัวลดลง ดังนั้น จะช่วยหนุนมาร์จิ้นรวมอีกราว 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยรวมปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ IRPC ยังบันทึกรายได้พิเศษจากการบันทึกกลับค่าเผื่อหนี้สูญที่เคยบันทึกไว้ก่อนหน้านี้แล้วเป็นจำนวน 2.6 พันล้านบาท เนื่องจากลูกหนี้ได้นำที่ดินมาขอชำระหนี้แทน บันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นราว 145 ล้านบาท ดังนั้น โดยรวมแล้วคาดกำไรสุทธิงวด 1/58 จะคิดเป็น 45.8% ของประมาณการทั้งปี 2558
ฝ่ายวิจัย กล่าวอีกว่า ภาพรวมงบปี 2558 ได้คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 8,043 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากงวดปี 2557 ที่ขาดทุนสุทธิ 5,235 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/58 น่าจะเป็นการทำระดับสูงสุดของปีจากค่าการกลั่นที่อยู่ในช่วงฤดูกาลไฮซีซั่นและมีการบันทึกรายได้พิเศษระดับสูง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาแนวโน้มกำไรจากการดำเนินปกติในช่วงที่เหลือของปี ประเมินจะยังประคองตัวได้ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/58 ค่าการกลั่นยังได้รับปัจจัยหนุนจากการหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นหลายแห่งทั่วโลก
ขณะที่แนวโน้มสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกลับมาดีดตัวขึ้นแรงยืนเหนือ 800 เหรียญสหรัฐต่อตันได้อีกครั้ง ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ PE (Polyethylene) และ PP (Polypropylene) ทำให้แนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 2/58 น่าจะยังอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับงวดไตรมาส 1/58 ได้
ส่วนในช่วงไตรมาส 3/58 คาดธุรกิจโรงกลั่นจะได้รับแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น รวมถึงยังมีซัพพลายใหม่เกิดขึ้นถึง 3 แห่ง กำลังการผลิตรวมราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ธุรกิจปิโตรเคมีน่าจะเข้ามาช่วยพยุงภาพรวมของกำไรได้จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเมื่อเทียบครึ่งแรกปี 2558
นอกจากนี้ ในงวดไตรมาส 4/58 คาดจะได้รับปัจจัยหนุนหลักจากโครงการ UHV (Phoenix Projects) ที่จะแล้วเสร็จ โดยเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ต้นงวดไตรมาส 4/58 ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันได้ขั้นต่ำ 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อีกทั้งในงวดครึ่งหลังปี 2558 คาดหวังจะมีการบันทึกรายการพิเศษเกิดขึ้นซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่รวมไว้ในประมาณการ ได้แก่ เงินชดเชยจากการเคลมประกันในส่วนที่เหลืออีกราว 1.7 พันล้านบาท กำไรจากการขายที่ดินที่ยังคงเหลืออยู่ และกำไรจากสต๊อกน้ำมัน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น