‘AOT-PTT’ปันผลเพิ่ม
ชดเชยรายได้คลังหด
:เตรียมชงบอร์ด เพิ่มจ่ายระหว่างกาล
2015-04-24 12:04:00
ผู้เข้าชม : 9
รัฐวิสาหกิจยอมนำส่งรายได้เพิ่ม 5 หมื่นล้านบาทให้กับกระทรวงการคลัง หลัง สคร.เข้าเจรจาบริษัททั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯและนอกตลาดฯ AOT รอเสนอบอร์ดจ่ายระหว่างกาล หลังที่ผ่านมาจ่ายปีละ 1 ครั้ง ด้าน PTT ตกลงจ่ายเพิ่มงวดครึ่งปี ส่วน กฟผ.พร้อมเติมเงินให้
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้เสนอแผนการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ถึงนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว วงเงินประมาณ5 หมื่นล้านบาท มีทั้งรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดฯ
นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. กล่าวว่า ได้เสนอแผนนำส่งรายได้เพิ่มไปแล้ว ซึ่งรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งพร้อมที่จะจ่ายปันผลหรือนำส่งรายได้ให้กระทรวงการคลังเป็นกรณีพิเศษ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากสคร.ได้เจรจามาแล้วระยะหนึ่ง
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะ ประธานกรรมการ บมจ.การท่าอากาศยานไทย หรือ AOT กล่าวถึงนโยบายของคลังที่ต้องการให้จ่ายเงินปันผลเพิ่มระหว่างกาลอยู่ในวิสัยของบริษัทที่จะจ่ายเพิ่มเติมได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องนำเสนอบอร์ดเพื่ออนุมัติอีกครั้ง
“เรื่องจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มให้คลัง อยู่ในวิสัยที่ทำได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา แต่จะจ่ายเท่าไหร่ต้องนำเสนอบอร์ดก่อน”
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในส่วนของ AOT ปกติจะจ่ายเงินปันผลปีละครั้ง ประมาณเดือนธันวาคม ที่ผ่านมาจ่ายในอัตรา 3.4 บาทต่อหุ้น โดยกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 70% หรือประมาณ 1 พันล้านหุ้น
นอกจากนี้บมจ.ปตท. หรือ PTT ก็พร้อมที่จะจ่ายปันผลเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษให้คลังเช่นกัน โดยคาดว่าจะจ่ายภายในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งปกติปตท.จะจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ประมาณเดือนมีนาคม และเดือนกันยายน ซึ่งปัจจุบันคลังถือหุ้นอยู่ 51% หรือประมาณ 1,459 ล้านหุ้นรวมทั้งบมจ.อสมท หรือ MCOT ที่คลังถือหุ้นอยู่ 65% หรือ 452 ล้านหุ้น ซึ่งปกติจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ในเดือนพฤษภาคม และเดือนตุลาคม
ในปี 2557 PTT ปันผลหุ้นละ 11 บาท แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด งวดแรก 6 บาท และอีกงวด 5 บาท โดย PTT มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ และที่ผ่านมาได้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 55% ของกำไรสุทธิ
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีศักยภาพนำส่งรายได้เพิ่ม เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งสถาบันการเงินเฉพาะกิจบางแห่ง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น