กูรูการเงิน-อสังหาฯฟันธง! "ดีมานด์ตลาด-สินเชื่อบ้าน" ยังสดใส
updated: 31 มี.ค. 2558 เวลา 09:59:11 น.
ภาพรวมการซื้อ-ขายปีนี้ ที่เป็นอุปสรรค หนีไม่พ้น "หนี้ครัวเรือน" ที่สูงปรี๊ด จนถึงกับลุ้นตัวโก่งว่าสถาบันการเงินจะไฟเขียวให้สินเชื่อหรือไม่ ล่าสุด"สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย" จัดสัมมนาหัวข้อ "สถานการณ์ธุรกิจและการเงินที่อยู่อาศัย 2558" รวมกูรูจากหลายวงการ ประเมินแนวโน้มทั้งปีนี้
ชี้หลังสงกรานต์อสังหาฯฟื้น
"สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการ REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเมินภาพรวมอสังหาฯปีนี้ ยังมีแนวโน้มเติบโต แม้ว่า 3 เดือนแรกไม่ค่อยดีนัก โดยซัพพลายคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ปีนี้ลดลงกว่า 50% เหลือ 9,000-10,000 ยูนิต จากปีก่อน 20,000 ยูนิต ขณะที่แนวราบเปิดขายใหม่ 8,000-9,000 ยูนิต จะใกล้เคียงปีก่อน
ซึ่งตลาดอสังหามีปัจจัยบวกที่จะเห็นผลในไตรมาส 2 เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2% เหลือ 1.75% จะส่งผลทางจิตวิทยากระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากซื้อบ้าน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอสังหาฯ มีแนวโน้มจะเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2 ตามแผน หลังชะลอดูสถานการณ์ช่วงต้นปี คาดว่าจะสดใสขึ้นหลังสงกรานต์
สินเชื่อบ้านโตเฉลี่ย 10%
ด้าน ธปท.-ธนาคารแห่งประเทศไทย "จตุรงค์ จันทรังษ์" ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การเงิน ธปท. วิเคราะห์สถานการณ์ของภาคครัวเรือนไทย มีปัจจัยลบจากหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นและกลุ่มที่พึ่งรายได้จากภาคการเกษตรมีรายได้ลดลงจากมนุษย์เงินเดือนยังมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ดีแต่มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเข้าช่วยเสริมกำลังซื้อ การก่อหนี้ใหม่ชะลอตัวลง
เมื่อดูจากอัตราการปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์แล้วพบว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยจะเติบโต 10% อย่างปี"57 เศรษฐกิจแย่ แต่สินเชื่อกลุ่มนี้ยังโต 5% ต่างจากสินเชื่อกลุ่มอื่น เช่น รถยนต์ บัตรเครดิต ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ และในภาวะที่แข่งขันกันขยายสินเชื่อ จะไม่ทิ้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่ระวังการปล่อยกู้มากขึ้น
แบงก์หันจับลูกค้าฟรีแลนซ์
ส่วน"ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ประธานกรรมการบริหารค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท ระบุว่า กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ ปัจจุบันพฤกษาฯมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ 50% ส่วนใหญ่นิยมซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ราคาไม่เกินยูนิตละ 1-3 ล้านบาท แม้ว่าบางรายมีรายได้ต่อเดือนสูงกว่าพนักงานบริษัท แต่โอกาสกู้ไม่ผ่านหรือได้สินเชื่อไม่เต็มวงเงินที่ขอ มีมากกว่ากลุ่มที่มีรายได้ประจำ เนื่องจากไม่มีสลิปรับรองเงินเดือน ซึ่งบริษัทได้หาทางช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้ จะหารือธนาคารที่เป็นพันธมิตรมีมาตรการช่วยเหลือผ่อนปรน คือ แบงก์ออมสินและอาคารสงเคราะห์ มาประเมินธุรกิจและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย
ภัทรมองอสังหาฯยังไม่ล้น
ฝั่ง เคเค-ธนาคารเกียรตินาคิน ได้จัดสัมมนาใหญ่ประจำปี 2015 เพื่อลูกค้าสินเชื่อผู้ประกอบการอสังหาฯ มี "จิราภรณ์ สินมณีโชติ" ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการสายงานวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ ภัทร ระบุว่าปีนี้จะมีซัพพลายบ้าน-คอนโดฯใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 16% คิดเป็น 132,000 ยูนิต มองว่าจะไม่มีปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย เพราะบางส่วนเป็นโครงการที่เลื่อนเปิดตัวจากปลายปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจอสังหาฯเพื่อเช่า ตลาดน่าจะทรงตัวหรือเติบโตไม่เกิน 3% โดยธุรกิจที่น่าจะดีคือโรงแรมไม่เกิน 3 ดาว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากจีนและมาเลเซียเข้ามาเพิ่มจากเดิม 9% เป็น 19% ของนักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมา 25 ล้านคน
คาดคอนโดฯโต 4%
ด้านคีย์แมนคอนโดฯพฤกษาฯ ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" มองว่า ปีนี้ภาพรวมอสังหาฯ ในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะเติบโตไม่มาก คาดว่ามีมูลค่า 2.93 แสนล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวต่อเนื่องจากปีก่อน มีเพียงคอนโดที่คาดว่าจะเติบโต 4% ส่วนราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าที่แพงขึ้นรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องเน้นเจาะตลาดไฮเอนด์เพราะเลี่ยงปัญหาหนี้ครัวเรือนในปัจจุบัน
ส่วน "เอกอธิป รัตนอารี" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บจ. ทีซีซี แลนด์ ดูแลกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงาน ระบุว่า 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทชะลอลงทุนในทุกเซ็กเตอร์ เช่น โรงแรม สำนักงาน คอนโดฯ สนามกอล์ฟ ช็อปปิ้ง นิคมอุตสาหกรรม แต่หันมาซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ 4-5 แปลงเก็บไว้รอพัฒนาในอนาคต เพราะมองว่าคอนโดฯเสี่ยงโอเวอร์ซัพพลายและยังมีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนธุรกิจสำนักงานยังไปได้ เพราะซัพพลายยังไม่มากและการลงทุนใหม่ก็มีน้อย อีก 1-2 ปีนี้ยังดีอยู่ ส่วนคอนโดฯ่ยูนิตละ 15 ล้านบาทขึ้นยังไปได้ แต่ยูนิตละ 3-4 ล้านบาท ได้รับผลกระทบจากสถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อ
ชี้หลังสงกรานต์อสังหาฯฟื้น
"สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการ REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเมินภาพรวมอสังหาฯปีนี้ ยังมีแนวโน้มเติบโต แม้ว่า 3 เดือนแรกไม่ค่อยดีนัก โดยซัพพลายคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ปีนี้ลดลงกว่า 50% เหลือ 9,000-10,000 ยูนิต จากปีก่อน 20,000 ยูนิต ขณะที่แนวราบเปิดขายใหม่ 8,000-9,000 ยูนิต จะใกล้เคียงปีก่อน
ซึ่งตลาดอสังหามีปัจจัยบวกที่จะเห็นผลในไตรมาส 2 เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2% เหลือ 1.75% จะส่งผลทางจิตวิทยากระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากซื้อบ้าน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอสังหาฯ มีแนวโน้มจะเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2 ตามแผน หลังชะลอดูสถานการณ์ช่วงต้นปี คาดว่าจะสดใสขึ้นหลังสงกรานต์
สินเชื่อบ้านโตเฉลี่ย 10%
ด้าน ธปท.-ธนาคารแห่งประเทศไทย "จตุรงค์ จันทรังษ์" ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การเงิน ธปท. วิเคราะห์สถานการณ์ของภาคครัวเรือนไทย มีปัจจัยลบจากหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นและกลุ่มที่พึ่งรายได้จากภาคการเกษตรมีรายได้ลดลงจากมนุษย์เงินเดือนยังมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ดีแต่มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเข้าช่วยเสริมกำลังซื้อ การก่อหนี้ใหม่ชะลอตัวลง
เมื่อดูจากอัตราการปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์แล้วพบว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยจะเติบโต 10% อย่างปี"57 เศรษฐกิจแย่ แต่สินเชื่อกลุ่มนี้ยังโต 5% ต่างจากสินเชื่อกลุ่มอื่น เช่น รถยนต์ บัตรเครดิต ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ และในภาวะที่แข่งขันกันขยายสินเชื่อ จะไม่ทิ้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่ระวังการปล่อยกู้มากขึ้น
แบงก์หันจับลูกค้าฟรีแลนซ์
ส่วน"ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" ประธานกรรมการบริหารค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท ระบุว่า กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ ปัจจุบันพฤกษาฯมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ 50% ส่วนใหญ่นิยมซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ราคาไม่เกินยูนิตละ 1-3 ล้านบาท แม้ว่าบางรายมีรายได้ต่อเดือนสูงกว่าพนักงานบริษัท แต่โอกาสกู้ไม่ผ่านหรือได้สินเชื่อไม่เต็มวงเงินที่ขอ มีมากกว่ากลุ่มที่มีรายได้ประจำ เนื่องจากไม่มีสลิปรับรองเงินเดือน ซึ่งบริษัทได้หาทางช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้ จะหารือธนาคารที่เป็นพันธมิตรมีมาตรการช่วยเหลือผ่อนปรน คือ แบงก์ออมสินและอาคารสงเคราะห์ มาประเมินธุรกิจและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย
ภัทรมองอสังหาฯยังไม่ล้น
ฝั่ง เคเค-ธนาคารเกียรตินาคิน ได้จัดสัมมนาใหญ่ประจำปี 2015 เพื่อลูกค้าสินเชื่อผู้ประกอบการอสังหาฯ มี "จิราภรณ์ สินมณีโชติ" ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการสายงานวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ ภัทร ระบุว่าปีนี้จะมีซัพพลายบ้าน-คอนโดฯใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 16% คิดเป็น 132,000 ยูนิต มองว่าจะไม่มีปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย เพราะบางส่วนเป็นโครงการที่เลื่อนเปิดตัวจากปลายปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจอสังหาฯเพื่อเช่า ตลาดน่าจะทรงตัวหรือเติบโตไม่เกิน 3% โดยธุรกิจที่น่าจะดีคือโรงแรมไม่เกิน 3 ดาว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากจีนและมาเลเซียเข้ามาเพิ่มจากเดิม 9% เป็น 19% ของนักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมา 25 ล้านคน
คาดคอนโดฯโต 4%
ด้านคีย์แมนคอนโดฯพฤกษาฯ ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" มองว่า ปีนี้ภาพรวมอสังหาฯ ในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะเติบโตไม่มาก คาดว่ามีมูลค่า 2.93 แสนล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวต่อเนื่องจากปีก่อน มีเพียงคอนโดที่คาดว่าจะเติบโต 4% ส่วนราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าที่แพงขึ้นรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องเน้นเจาะตลาดไฮเอนด์เพราะเลี่ยงปัญหาหนี้ครัวเรือนในปัจจุบัน
ส่วน "เอกอธิป รัตนอารี" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บจ. ทีซีซี แลนด์ ดูแลกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงาน ระบุว่า 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทชะลอลงทุนในทุกเซ็กเตอร์ เช่น โรงแรม สำนักงาน คอนโดฯ สนามกอล์ฟ ช็อปปิ้ง นิคมอุตสาหกรรม แต่หันมาซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ 4-5 แปลงเก็บไว้รอพัฒนาในอนาคต เพราะมองว่าคอนโดฯเสี่ยงโอเวอร์ซัพพลายและยังมีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนธุรกิจสำนักงานยังไปได้ เพราะซัพพลายยังไม่มากและการลงทุนใหม่ก็มีน้อย อีก 1-2 ปีนี้ยังดีอยู่ ส่วนคอนโดฯ่ยูนิตละ 15 ล้านบาทขึ้นยังไปได้ แต่ยูนิตละ 3-4 ล้านบาท ได้รับผลกระทบจากสถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อ
ขอเรียน: เรามีทุกประเภทของเงินให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยที่ 3% กรุณา
ตอบลบส่งอีเมลถึงเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้วันนี้ถ้าสนใจ เรามีเงินให้สินเชื่อ
ผู้ประกันตนได้ดีสำหรับการรักษาความปลอดภัยสูงสุดที่มีความสำคัญและ 100% ถูกต้องตามกฎหมายของเรา
และเรามีการลงทะเบียนกันอีเมล์: raphealjefferyfinance@gmail.com
ชื่อ:
ที่อยู่:
หมายเลขโทรศัพท์:
จํานวนเงินที่จำเป็น:
ระยะเวลา:
อายุ:
เพศ:
ซีอีโอ / อีเมล์: raphealjefferyfinance@gmail.com
ขอแสดงความนับถือ
คุณชาย Rapheal
ใช้สำหรับเงินกู้ของคุณวันนี้ออนไลน์โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของทุกชนิดและรับ
ตอบลบเงินกู้ของคุณในอัตรา 3%
ติดต่อเราวันนี้ที่
raphealjefferyfinance@gmail.com
กรอกแบบฟอร์มการสมัครขอสินเชื่อ
ชื่อ:
ประเทศ:
สถานะ:
เบอร์โทรศัพท์:
อายุ:
อาชีพ:
จำนวนเงินกู้ที่จำเป็น:
ระยะเวลา:
เว็บไซต์: raphealjefferyfinance@gmail.com
ผบ. นายเจฟฟรีย์