สุดยอดหุ้นขึ้นแรงปี 2557

รายงานพิเศษ วันอังคารที่ 06 มกราคม 2558 

ปีม้าที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดัชนีหุ้นไทยผันผวนอย่างหนัก โดยช่วงต้นปีเป็นช่วงวิกฤตทางการเมืองกดดัน เป็นเหตุให้ดัชนีเคลื่อนไหวอย่างไรทิศทาง จนมาถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมของประเทศในด้านการเมืองมีความสงบเรียบร้อย ส่งผลให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ

ดัชนีหุ้นไทยก็มีไต่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 จนกระทั้งมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเข้ามาอย่างโรคไวรัสอีโบลาส่งผลให้นักลงทุนแตกตื่นพากันเทขายหุ้นออกมา ทำให้ดัชนีปรับตัวลงอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นก็มีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ จนเข้าช่วงท้ายปีดัชนีปรับตัวลงหนัก แม้ในช่วงปลายปี คือ เดือนพ.ย.-ธ.ค. จะเป็นช่วงที่มนุษย์เงินเดือนมักหาซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มาใช้ลดหย่อนภาษี แต่กลับช่วยประคับประคองดัชนีได้ไม่มากนัก

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ราคาหุ้นแต่ละตัวเคลื่อนไหวต่างกัน ส่วนหนึ่งเคลื่อนไหวไปตามดัชนี อีกส่วนหนึ่งเคลื่อนไหวส่วนทางดัชนี!!

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” จึงได้รวบรวมข้อมูลหุ้นดาวเด่น 50 อันดับแรก ในกลุ่ม SET ทั้งปี 2557 ว่าหุ้นตัวไหนได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากเป็นพิเศษ แต่ข้อมูลที่ปรากฏเป็นเพียงการเทียบเคียงด้านเดียวเท่านั้น ไม่ได้บอกถึงราคาหุ้น ณ ตอนนั้น แพงเกินพื้นฐาน หรือถูกกว่าพื้นฐานแต่อย่างใด เพราะเป็นแค่การหยิบความเคลื่อนไหวของหุ้นมาอธิบายให้นักลงทุนได้ทราบ

พูดถึงหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงสุด 10 อันดับแรกของ SET พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิน 200% คือ บริษัท แพนเอเซียฟุตแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAF โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.59 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.95 บาท เปลี่ยนแปลง 5.36 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 908.47% เหตุเป็นผลมาจากนักลงทุนไล่ซื้อหุ้นจากบริษัทพลิกกลับมามีกำไรตั้งแต่ปี 56

ส่วนอันดับ 2) บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.29 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.89 บาท เปลี่ยนแปลง 1.60 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 551.72% ซึ่งมีสาเหตุจากหลังจะขาย หุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุนรายใหญ่ ราคาหุ้นละ 0.30 บาทส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น อีกทั้งหลังบริษัทคาดรายได้ปี 58 โตสูง รวมถึงสัญญาณทางเทคนิคหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น

ส่วนอันดับ 3) บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.94 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 17.10 บาท เปลี่ยนแปลง 14.16 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 481.63% ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค พร้อมกับบริษัทรับข่าวสู่ธุรกิจพลังงานเต็มตัว โดยอยู่ระหว่างการเจรจาถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มอีก 1 แห่ง

ส่วนอันดับ 4) บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.62 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 8.55 บาท เปลี่ยนแปลง 6.93 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 427.78% ซึ่งมีสาเหตุจากเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นใหม่ รวมถึงนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยเข้ามาซื้อหุ้นกันอย่างหนาแน่น ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนอันดับ 5) บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  MAX โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.15 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.62 บาท เปลี่ยนแปลง 0.47 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 313.33% โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากข่าวผู้บริหารเผยกำลังศึกษาสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลหวังสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น  ประกอบกับมีการซื้อขายหุ้นรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวนหลายรายการเข้ามา

ส่วนอันดับ 6) บริษัทบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.79 บาท ขณะที่วันที่  30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 3 บาท เปลี่ยนแปลง 2.21 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 279.75% ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรับผลจากกรณีที่ภาครัฐบาลและกระทรวงต่างๆได้อนุมัติแผนการส่งเสริมโครงการ พลังงานทดแทนจากขยะและให้เป็นวาระแห่งชาตินั้น บริษัทมองว่าแผนดังกล่าว น่าจะขับเคลื่อนได้ประมาณต้นปี 58 ซึ่ง GENCO กำลังศึกษาทำธุรกิจโรง ไฟฟ้าจากพลังงานขยะ

ส่วนอันดับ 7) บริษัท เอเชีย คอร์ปอเรท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ACD โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.04 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 7 บาท เปลี่ยนแปลง 4.96 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 243.14% โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นบริษัทระบุยังไม่มีพัฒนาการใดที่อาจส่งผลต่อการซื้อขายหุ้น และไม่ทราบสาเหตุที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น

ส่วนอันดับ 8) บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.35 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.38 บาท เปลี่ยนแปลง 3.03 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 224.44% จากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น หลังบริษัทแจ้งการเพิ่มทุน โดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม บุคคลในวงจำกัด (PP) รวมถึงจะออก ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ PP  ที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว

ส่วนอันดับ 9) บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 20.20 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 65 บาท เปลี่ยนแปลง 44.80 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 221.78% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากนักลงทุนมั่นใจต่อบริษัทที่ล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วในปีที่ผ่านมา และคาดจะจ่ายหนี้สินเก่าได้ในปี 57 และมีโอกาสจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 57 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี

ส่วนอันดับ 10) บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER โดยวันที่ 27 ธ.ค. 56 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.01 บาท ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.04 บาท เปลี่ยนแปลง 2.03 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 200.99% ซึ่งมีสาเหตุของการเพิ่มทุนเข้ามา นอกจากนี้นักลงทุนเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเป็นระยะ

ส่วนในปี 2558 นักลงทุนอาจคงเห็นหุ้นที่ปรากฏอย่างในตารางที่นำเสนอต่ออีก ส่วนหุ้นที่ไม่ได้ปรากฏก็อาจมีโอกาสเห็นในช่วงต่อไป